สู้ TikTok! YouTube Shorts ตั้งงบ 100 ล้านเหรียญ อัดฉีดอินฟลูเอนเซอร์ให้ใช้แพลตฟอร์ม

YouTube ตั้งกองทุน 100 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับใช้อัดฉีดอินฟลูเอนเซอร์ยอดฮิตบนแพลตฟอร์ม “YouTube Shorts” ในรอบ 18 เดือนข้างหน้า หวังแข่งขันกับ TikTok

กองทุน 100 ล้านเหรียญนี้จะถูกแบ่งย่อยเป็นรายเดือน ผู้ที่มียอดวิวและ engagement สูงสุดในแต่ละเดือนจะได้รับเงินทุนส่วนนี้ไป

“กองทุน The Shorts Fund เป็นก้าวแรกของเราในการสร้างโมเดลทำเงินบน Shorts ของ YouTube ตอนนี้สิ่งนี้คือสิ่งที่เราให้ความสำคัญมากที่สุด และคงต้องใช้เวลาสักพักเพื่อสร้างโมเดลที่เหมาะสม” เอมี่ ซิงเกอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาสนับสนุนพันธมิตรธุรกิจระดับสากล YouTube Shorts แถลงในบล็อกโพสต์ของเธอ

“เรากำลังทำงานเรื่องนี้อย่างเต็มที่ และจะเก็บฟีดแบ็กจากชุมชนของเราเพื่อนำมาช่วยพัฒนาโปรแกรมระยะยาวที่จะออกแบบขึ้นเพื่อ YouTube Shorts โดยเฉพาะ”

YouTube ไม่ใช่คนเดียวที่อัดฉีดเงินให้อินฟลูเอนเซอร์ TikTok เองก็ประกาศกองทุน Creator Fund มูลค่าถึง 2 พันล้านเหรียญ เพื่อใช้สนับสนุนอินฟลูฯ ทั่วโลกในระยะ 3 ปีข้างหน้า หรือแอปพลิเคชัน Snap ก็มีทุนวันละ 1 ล้านเหรียญ สนับสนุนผู้ใช้ที่โพสต์คลิปลงฟีเจอร์ Spotlight แม้กระทั่ง Facebook เองก็กำลังพิจารณาจะตั้งกองทุนของตัวเองบ้าง

ตัวอย่างหน้าตาฟีเจอร์ YouTube Shorts

อินฟลูเอนเซอร์เป็นกลุ่มที่สำคัญมากในการดึงผู้ใช้เข้าแพลตฟอร์ม และผู้ใช้จำนวนมากคือต้นทุนในการทำเงินจากค่าโฆษณาต่อไป ในอดีต โซเชียลมีเดียมักจะปล่อยให้ครีเอเตอร์ในแพลตฟอร์มหาทางสร้างรายได้กันเอง แต่การมาของ TikTok กลับเขย่าวงการธุรกิจโซเชียลมีเดีย เพราะตัวแพลตฟอร์มคิดแบบเชิงรุก หาวิธีและเครื่องมือมาให้ครีเอเตอร์สร้างรายได้เพิ่มอยู่เสมอ และทำให้คู่แข่งต้องขยับตัวสร้างฟีเจอร์ไปจนถึงโปรแกรมอัดฉีดเงินแบบนี้

สำหรับ YouTube Shorts เปิดตัวแล้วในสหรัฐฯ และอินเดีย โดยมีปุ่ม Create a Short และฟีเจอร์สำหรับครีเอเตอร์แบบเต็มรูปแบบ สามารถลงคลิปได้ยาวสูงสุด 60 วินาที

ส่วนในไทยเริ่มเปิดใช้แล้วเหมือนกัน แต่ยังเป็นระบบเบต้าที่ไม่มีปุ่มเฉพาะ ครีเอเตอร์ที่ต้องการทดลองลงต้องอัปโหลดคลิปแบบแนวตั้ง แล้วติดแท็ก #Shorts ในชื่อคลิปหรือคำอธิบายคลิป เพื่อให้ระบบจับอัตโนมัติเองว่าเป็นคลิป Shorts (*จากการสังเกตของ Positioning พบว่าแค่อัปโหลดคลิปแนวตั้งที่ยาวไม่เกิน 60 วินาทีก็อาจจะถูกระบบดึงไปไว้ใน Shorts แล้ว)

ก่อนหน้านี้ YouTube ยังถือว่าเป็นแพลตฟอร์มมาตรฐานของเหล่าอินฟลูฯ ที่ต้องการทำเงิน และยังคงเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ชม แต่การมาถึงของคู่แข่งก็เป็นเรื่องที่ต้องระวัง ทั้งนี้ เงินทุน 100 ล้านเหรียญนั้นถือเป็นงบแบบ ‘ผิวๆ’ มากสำหรับ YouTube แพลตฟอร์มที่ทำเงินได้ถึง 2 หมื่นล้านเหรียญต่อปี­

Source