“อาลีบาบา” กวาดรายได้ Q1/21 รวม 9.1 แสนล้านบาท ขาดทุน “ครั้งแรก” จากค่าปรับ

Photo : Shutterstock
อาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด เผยผลประกอบการไตรมาสแรกสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2564 มีรายได้รวมประมาณ 9.1 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 64% จากไตรมาสก่อน ขาดทุนประมาณ 37,214 ล้านบาท  ถือเป็นการขาดทุนเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ IPO เมื่อปี 2557 หลังจากโดนปักกิ่งฟันค่าปรับ 1.8 หมื่นล้านหยวน (8.7 หมื่นล้านบาท) เรื่องการผูกขาด

แดเนียล จาง ประธานกรรมการและซีอีโอ อาลีบาบา กรุ๊ป กล่าวว่า

“อาลีบาบาบรรลุเป้าหมายเพิ่มผู้ใช้เป็น 1,000 ล้านคนต่อปีทั่วโลกเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ไตรมาสที่ผ่านมา บริษัทเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ด้วยพื้นฐานธุรกิจที่มั่นคง อีโคซิสเท็มของเราทำยอดขายออนไลน์รวมได้ 1.2 ล้าน ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 37.6 ล้าน ล้านบาท)”

“เราทำรายได้ตามเป้าหมายที่วางไว้สำหรับปี 2564 โดยมีการเติบโตด้านรายได้เพิ่มขึ้น 32% ไม่รวมรายได้ในส่วนของธุรกิจ Sun Art ที่เพิ่งควบกิจการมา รายได้ที่เพิ่มขึ้นเป็นเพราะธุรกิจหลักมีการเติบโตที่แข็งแกร่ง และการเติบโตอย่างต่อเนื่องของธุรกิจอาลีบาบา คลาวด์ กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมที่ปรับปรุงแล้ว (Adjusted EBITA) โตขึ้น 25% จากปีก่อนหน้า บริษัทฯ ลงทุนเพิ่มในธุรกิจใหม่ๆ และธุรกิจที่เป็นยุทธศาสตร์สำคัญ”

แดเนียล จาง ประธานกรรมการและซีอีโอ อาลีบาบา กรุ๊ป
แดเนียล จาง ประธานกรรมการและซีอีโอ อาลีบาบา กรุ๊ป

แม็กกี้ วู ประธานกรรมการฝ่ายการเงิน อาลีบาบา กรุ๊ป กล่าว

“เราคาดการณ์ว่ารายได้จะเติบโตขึ้นมากกว่า 930,000 ล้านหยวน (ประมาณ 4.5 ล้าน ล้านบาท) ภายในปี 2565 ด้วยศักยภาพในการแข่งขัน กำไรที่เพิ่มขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมาและปริมาณเงินหมุนเวียน เราจึงวางแผนไว้ว่าจะใช้กำไรและต้นทุนสำหรับงบประมาณปี 2565 เพื่อช่วยเหลือร้านค้าบนแพลตฟอร์มและลงทุนในธุรกิจใหม่และธุรกิจหลัก ที่จะช่วยเพิ่มจำนวนแบรนด์ให้ผู้บริโภคได้เลือกซื้อและเจาะตลาดใหม่ๆ ”

ไฮไลต์ของธุรกิจในไตรมาสแรก สิ้นสุด 31 มีนาคม 2564

  • รายได้รวม (Revenue) อยู่ที่ 187,395 ล้านหยวน (ประมาณ 9.1 แสน ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 64% เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปีก่อนหน้า หากไม่รวมรายได้ในส่วนของธุรกิจ Sun Art ที่เพิ่งควบกิจการมา รายได้รวมจะเพิ่มขึ้น 40% จากปีก่อนหน้า เป็น 159,952 ล้านหยวน (ประมาณ 7.7 แสนล้าน บาท)
  • จำนวนผู้บริโภคประจำต่อปี (Annual active consumers) ในตลาดค้าปลีกของจีนสูงถึง 811 ล้านคน ในไตรมาสแรก สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2564 เพิ่มขึ้น 32 ล้านคน จากไตรมาส 4 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2563
  • จำนวนผู้ใช้ผ่านสมาร์ทโฟน (Mobile MAUs) ในตลาดค้าปลีกของจีนสูงถึง 925 ล้านคน เมื่อเดือนมีนาคม 2564 เพิ่มขึ้น 23 ล้านคน จากเดือนธันวาคม 2563

  • งบขาดทุนจากการดำเนินงาน (Loss from operations) อยู่ที่ 7,663 ล้านหยวน (ประมาณ 37,214 ล้านบาท) เป็นผลมาจากการจ่ายค่าปรับให้กับสำนักงานบริหารจัดการกฎระเบียบตลาดแห่งรัฐของประเทศจีน ตามกฎหมายป้องกันการผูกขาด (Anti-monopoly Law) หากไม่มีกรณีเรื่องค่าปรับ จะมีกำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 10,565 ล้านหยวน (ประมาณ 51,329. ล้านบาท) เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า 48%
  • กำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษีที่ปรับปรุงแล้ว (Adjusted EBITDA) ที่ไม่ได้คำนวณตามมาตรฐานบัญชีทั่วไป (a non-GAAP measurement) เพิ่มขึ้น 18% จากปีก่อนหน้า เป็น 29,898 ล้านหยวน (ประมาณ 145,243 ล้านบาท)
  • กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมที่ปรับปรุงแล้ว (Adjusted EBITA) ไม่ได้คำนวณตามมาตรฐานบัญชีทั่วไป (a non-GAAP measurement) เพิ่มขึ้น 14% เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปีก่อนหน้า เป็น 22,612 ล้านหยวน (ประมาณ 109,875 ล้านบาท)