“ปีต้องเรียกว่า ปีกระต่ายดุ จะแรงกว่าปีเสือ เหตุการณ์วุ่นวายจะเริ่มขึ้นตั้งแต่ปลายปี 53 จะพีคเป็นช่วงๆ ให้ระวังมีนาคมถึงเมษา 54 ใครจัดอีเวนต์ใหญ่ควรงด โกลาหลอีกรอบเดือนพฤษภาคม ให้ระวังปลายปี 54 ต่อเนื่องปี 2555 ถือเป็นช่วงเวลาของประวัติศาตร์การเปลี่ยนแปลงหน้าใหม่ของประเทศไทย”
เป็นภาพรวมคำทำนาย ดวงเมืองของอาจารย์ทศพร ศรีตุลา หรืออาจารย์ช้าง หมอดูหนุ่มชื่อดังแห่งยุค 2010 บ่งบอกถึงความเปลี่ยนแปลงใหญ่ๆ ที่จะเกิดขึ้นในปี 2554
ปี 2554 เป็นปีที่มีความแรงมาก แรงกว่าปี 2553 ถึงแม้ว่าปีหน้าจะเป็นปีกระต่าย โดยทั่วไปคิดว่าน่าจะมีความแรงไม่สู้ปีเสือ แต่ความจริงแล้วปรากฏว่าเป็นปีที่ “กระต่ายดุ” ที่สุด โดยเป็นผลมาจากดาวพฤหัสบดีและดาวเสาร์ ซึ่งเป็นดาวสุดขั้วของฝ่ายดีและฝ่ายร้าย โคจรมาเจอกัน เปรียบเหมือนน้ำและน้ำมันซึ่งผสมกันไม่ได้ ตามโหราศาสตร์ไทยทำนายจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ซึ่งดาวทั้งคู่เคยทำมุมกันในลักษณะนี้มาแล้ว ล่าสุด ปี 2000 ซึ่งช่วงนั้นจะเห็นว่าโลกของเราเกิดการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ หลายอย่าง
“ปีที่แล้วว่าหนักแล้ว ปี 2554 จะหนักกว่าแต่จะออกมาในแนวการเกิดเหตุการณ์แบบชุลมุนวุ่นวายมากกว่าที่จะมีใครลุกขึ้นมาเผาบ้านเผาเมืองอีกรอบ แต่จะกลายไปเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการเจรจาไม่ลงตัว ส่วนเรื่องเศรษฐกิจนักธุรกิจทุกส่วนจะต้องทำงานหนักเพิ่มขึ้น บางคนที่อยากจะขยายธุรกิจ หรือต้องการลงทุนเพิ่ม ควรจะดูปัญหาทางด้านการเมืองประกอบไปด้วยก็จะดี”
เริ่มระวังตั้งแต่ปลายปี 53
นับตั้งแต่ช่วงปลายปี 2553 ซึ่งส่วนใหญ่จะมีการจัดงาน “เคาต์ดาวน์” ฉลองปีใหม่ ขอให้ระวังภัยอันเกิด
เหตุการณ์ที่เรียกว่า “อีเวนต์” อยู่เรื่อยๆ เช่น การลอบวางระเบิด การเกิดอุบันติเหตุอันเนื่องมาจากไฟ โดยเฉพาะผู้จัดงาน หรือออแกไนเซอร์ทั้งหลาย จะต้องระมัดระวังภัยอันเกิดจาก “คน” ให้มากที่สุด
แนะงดอีเวนต์ใหญ่ มีนา-เมษา 54
อาจารย์ช้างแนะว่า ตั้งแต่ต้นปีเป็นต้นไปจะมีเหตุการณ์วุ่นวาย แต่จะแรงที่สุดในช่วงปลายเดือนมีนาคมจนถึงเมษายน จึงอยากเตือนให้คนทำงานเกี่ยวข้องการจัดกิจกรรมใหญ่ คนจัดงานอีเวนต์ นักการตลาด ควรจะต้องหาแผนสำรองเผื่อไว้ และจะต้องจับตาดูสถานการณ์ทางการเมืองด้วย เพราะอาจจะจะทำให้ต้องเจอกับสภาพเลื่อน และเลิก เหมือนปีที่ผ่านมาได้
อย่างไรก็ตาม แม้ในช่วงปลายมีนาคมเข้าเมษายนจะวุ่นวายแต่ยังมีทางออก เพราะดูจากการโคจรของดวงดาวแล้วไม่น่าจะมีความยืดเยื้อ เมื่อเข้าสู่เดือนพฤษภาคม 2554 ดาวราหูก็จะย้ายราศีอีกรอบ ช่วงนี้จะเกิดความโกลาหลวุ่นวายอีกครั้ง โดยจะเกิดเหตุการณ์เล็กๆ และกลายเป็นเรื่องใหญ่ที่ใครก็คาดไม่ถึง แต่จะไม่รุนแรงจนฉุดภาวะทางเศรษฐกิจที่เริ่มจะกระเตื้องขึ้น ธุรกิจจะดำเนินไปด้วยดี และต้องมารอลุ้นกับการเปลี่ยนแปลงอีกครั้งช่วงปลายปี 54 ต่อเนื่องไปถึงปี 2555
จับตาปลายปี 54 จุดเปลี่ยนเมืองไทย
จุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ของดวงเมืองที่เริ่มขึ้นปลายปี 54 และต่อเนื่องไปถึงปี 2555 ถือว่าไฮไลต์สำคัญ เป็นปีแห่งศตวรรตใหม่ดวงเมืองของไทยอย่างแท้จริง ถือเป็นช่วงดวงเมืองเปลี่ยนแรงที่สุด โดยเป็นผลมาจากดาวพฤหัสฯ กับดาวเสาร์โคจรมาทำมุมกัน ในทางทฤษฎีจะเกิดการเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ เช่น ตำนานการประสูติของพระเยซู ก็เป็นจุดเริ่มต้นแนวคิดศาสนาใหม่ ก็เกิดจากเคลื่อนย้ายของดาวทั้งสอง
สำหรับเมืองไทย ถือเป็นช่วง Grand Opening เหตุการณ์ความวุ่นวายจะมีลักษณะคล้ายกับกรุงศรีอยุธยาแตก (ปี 2310) ความหมายของกรุงแตก คือ ความขัดแย้ง ความแตกแยก เกิดการเผาเมือง ฟังดูอาจรุนแรง แต่ก็จะผ่านไปได้ หลังจากนั้นเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ อาจจะออกมาในรูปของการเกิดการเมืองรูปแบบใหม่มาแทนของเดิมที่เคยเป็นมา
“ถือเป็นช่วงของเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ดวงเมืองของไทย ที่จะต้องเจอกับเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง โดยเหตุการณ์สร้างความเซอร์ไพรส์ของดวงเมืองเยอะมาก และไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ไล่มาตั้งแต่มกราคม ต่อเนื่องไปถึงปลายมีนาคม จะเกิดการเปลี่ยนแปลงใหม่ที่โลกก็คาดไม่ถึง เจอกับเหตุการณ์ประหลาดมหัศจรรย์ เพราะถือเป็นช่วงพีคของดวงเมือง และเมื่อมาถึงจุดพีคมันจะต้องตูมตาม เราคงต้องวางแผนเตรียมตัวกัน สิ่งที่ต้องระวัง เป็นช่วงที่ดวงเมืองแรงมาก อาจเกิดการสูญเสียขึ้นได้หลายรูปแบบ ระบุไม่ได้ แต่เกิดแน่นอน จากนั้นแล้วเราจะเริ่มดีขึ้น”
อาจารย์ช้างแนะนำมา เมื่อดวงเมืองเป็นไปในลักษณะนี้ การทำบุญใหญ่ในลักษณะของการทำบุญประเทศ แม้ว่าจะเปลี่ยนดวงเมืองไม่ได้ แต่ก็เป็นการเตรียมพร้อม คนทั่วไปควรไปทำบุญช่วงปีใหม่ แทนที่จะเที่ยวอย่างเดียว ก็ควรสร้างเซอร์ไพรส์ให้กับตัวเองด้วยการทำบุญที่วัด บริจาคทาน เพราะถือเป็นการเตรียมพร้อม แรงอนุโมทนาจะมีพลัง เป็นคลื่นความถี่ที่เป็นพลังบวก
ตลาดหุ้นติดลมบน ทะลุพันจุด
อย่างไรก็ตาม แม้ปัญหาทางการเมืองจะยังไม่นิ่ง มีเหตุการณ์วุ่นวาย แต่ตั้งแต่เดือนมกราคมเป็นต้นไป ตลาดทุนจะมีความคึกคัก และน่ากลัวมากมากถึงขนาดที่เรียกว่า “ติดลมบน” ถึงขั้นที่ดัชนีราคาหุ้นจะพุ่งไปทะล 1,000 จุด ส่งผลให้นักลงทุนรายย่อยวิ่งตามกระแส จึงอยากเตือนว่าอย่าเพิ่งไว้ใจกับกระแสนี้ เพราะนักลงทุนเหล่านี้จะมีเวลาตักตวงเต็มทีเพียงแค่ 4 เดือน คือระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงเดือนสิงหาคม เท่านั้น แต่หลังจากนั้นจะเกิดภาวะการหยุดชะงัก ใครที่เป็น “แมงเม่า” ช้อนซื้อหุ้นราคาถูกหวังจะขายในราคาสูง กัก เก็บไว้มากจะเจ็บตัว นักลงทุนควรจะท่องไว้ว่า “ความแน่นอนในปี 2553 จะกลายเป็นความไม่แน่นอนในปี 2554 อันเนื่องมาจากการก้าวเข้าสู่ช่วง “แกรนด์โอเพ่นนิ่ง” ของปี 2555
ไร้สาย เคเบิลทีวี กีฬา บันเทิง เฟื่องฟู
นอกจากนี้ธุรกิจที่จะได้รับผลดีเนื่องจากการโคจรย้ายราศีของดาวราหู เล็งดาวประจำตัวของดวงเมือง คือตั้งแต่ปลายมีนาคมเข้าเมษายนและเดือนพฤษภาคมต่อเดือนมิถุนายนจะทำให้ธุรกิจที่จับต้องไมได้ เช่น ธุรกิจสื่อสารไร้สาย เคเบิลทีวี ทีวีดาวเทียม ธุรกิจขายจานดาวเทียม ธุรกิจที่ขายไอเดีย กีฬา วงการบันเทิง จะเฟื่องฟูมาก ขณะเดียวกัน จะส่งผลให้ ธุรกิจกลางคืน ผับ บาร์ คาราโอเกะ การพนัน จะเป็นธุรกิจที่มีอิทธิพลกับเมืองไทยมากขึ้น
“แม้กระทั่งมือถือ 3G ที่แท้งไปเมื่อปีขาล แต่มาในปีกระต่ายก็มีโอกาสเกิดขึ้นก็ได้ เพราะปีนี้สิ่งที่จับต้องไม่ได้มันจะคึกคักมาก มีการจับจ่ายใช้สอยการซื้อที่มากขึ้น สื่อบันเทิงต่างประเทศ ยังมีแนวโน้มที่ดี แต่จะต้องหลุดจากช่วงมีนาคมเมษายน ไปก่อน หลังเมษายนไปก็จะเริ่มดีขึ้น
การศึกษา-หนังสือธรรมะ-ครีเอทีฟมาแรง
ปีหน้าธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการศึกดษา ธรรมะ การศึกษาความรู้ด้วยตัวเองจะบูม โดยมีดาวพฤหัสเป็นตัวแทนของ “Content” หนังสือแนวธรรมะ ธุรกิจสร้างให้คนเกิดปัญญาจะเป็นธุรกิจที่รุ่งเรือง เพราะว่าเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลง คนต้องการที่พึ่งทางใจ
“เมื่อแนวโน้มมาแบบนี้ คนทำงานการตลาด งานสื่อสาร ควรเพิ่มคอนเทรนด์ที่ให้ความรู้ สาระ ดูแล้วเกิดความรู้สึกบวกมากๆ ผมว่ามันเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ ให้กับคนได้”
นอกจากนี้ ยังเป็นปีของธาตุดิน ซึ่งเป็นเรื่องของการให้ความรู้ (Knowledge) ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับไอเดีย ความคิดสร้างสรรค์ งานครีเอทีฟจะเป็นปีที่ดีมากๆ
แนะลงทุนทองคำ-น้ำมัน
ส่วนธุรกิจที่น่าจะได้รับผลดีคือนักธุรกิจที่ลงทุนเกี่ยวกับธาตุดินและธาตุน้ำ ทองคำ แร่ น้ำมัน หรือธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ “ทรัพย์ในดิน สินในน้ำ” นั่นเอง ส่วนผู้ที่ต้องระวังคือผู้ที่ทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับธาตุไฟ ปีหน้าทองคำและน้ำมันราคาจะพุ่งสูงขึ้น โดยเฉพาะราคาทองคำมีโอกาสที่จะทะลุถึงบาทละ 25,000 บาท เช่นเดียวกันราคาน้ำมันก็จะพุ่งสูงอีกครั้ง เช่นเดียวกับการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับธาตุดินจะมาแรง
อสังหาฯ แนวราบมาแรง คอนโดต้องระวัง
ทางด้านลงทุนในด้านอสังหาฯ จะมี 2 ลักษณะ ธาตุดิน เป็นนตัวแทนของอสังหาฯ แนบร้าน เช่น บ้านจัดสรร ทาวน์เฮาส์ ที่ดิน ส่วนธาตุไฟ ที่พวงพุ่งขึ้นฟ้า เปรียบได้กับ คอนโดมิเนียม อาคารสูง เมื่อปีหน้าเป็นปีของธาตุดิน ที่เป็นธาตุที่ดี เป็นมงคล ส่วนธาตุไฟจะไม่ส่งเสริมกับปีกระต่าย ดังนั้นสิ่งที่แนะนำ คือ การให้ลงทุนบ้านจัดสรร ที่ดิน ส่วนลงทุนในคอนโดมิเนียมต้องระวัง
ภัยธรรมชาติรุนแรงขึ้น
ในแง่ของภัยธรรมชาติจะทวีรุนแรงมากกว่าปี 2553 เป็นอิทธิพลของดาวเสาร์กับดาวพฤหัสฯ จะส่งโดยตรงต่อเรื่องของภัยธรรมชาติที่จะรุนแรงมาก ถ้าเกิดปัญหาภัยแล้งจะแล้งแบบสุดๆ ช่วงที่น้ำมาก็จะเกิดน้ำท่วม ไม่มีความพอดี จำเป็นต้องเตรียมตัวกันทั้งปี โดยจะมีผลต่อธุริจด้านการเกษตร ดูแลเลือกสวนไร่นาตัวเองดีๆ จะเป็นปีที่มีสิทธิ์รวย เพราะพืชราคาจะแพงขึ้น ส่วนนักลงทุนที่ชอบลงทุนในสินค้าเกษตรก็จะพบกับโอกาสดีๆ เหตุการณ์นี้ไม่ใช่เฉพาะเมืองไทยแต่จะเกิดขึ้นในทั่วโลก
เคล็ดการลงทุน
นอกจากการใช้ตำราโหาราศาสตร์ไทยในการทำนายดวงเมืองแล้วอาจารย์ช้างยังถือเป็นผู้หนึ่งที่มีความชำนาญในการดูฮวงจุ้ยด้วย โดยล่าสุดได้นำทั้งสองศาสตร์มาผสมผสานเพื่อการทำนายที่ให้ความแม่นยำมากขึ้นโดยเฉพาะการแนะนำเคล็ดลับการลงทุนและการใช้ชีวิตประจำวัน
“ผมว่าการทำนายดวงเมืองเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่เราจะต้องให้ความสำคัญเพราะเป็นเรื่องของชะตาโดยรวม แต่สิ่งที่น่าจะให้ความสำคัญมากกว่านั้นน่าจะเป็นการแนะนำการใช้ชีวิตของผู้อ่านในบ้านเมืองนี้เพื่อให้อยู่กันได้อย่างมีความสุข ซึ่งตัวผมเองมองว่าถ้าประชาชนมีความสุขบ้านเมืองก็จะมีความสงบสุขด้วย”
สีเหลืองสีมงคลแห่งปีกระต่าย
สำหรับปี 2554 ตามโหราศาสตร์ไทยนั้นอาจจะไม่ดีนัก แต่ในศาสตร์ของฮวงจุ้ยแล้วยังพอมีวิธีแก้ไข โดยเฉพาะการนำศาสตร์ของสีสันมาเสริมสร้างบุคลิคภาพของแต่ละคน มาใช้โดยปีหน้าดาวพฤหัสฯ จะมีผลต่อดวงเมืองฉะนั้นเราจะต้องนำสีที่เป็นตัวแทนของดาวพฤหัสฯ มาใช้เพื่อรับเอา “คลื่น” จากดวงดวงนี้มาสร้างพลังให้กับตัวเอง หรือแม้แต่ธุรกิจ การค้าขายก็สามารถนำมาใช้ได้
“สีที่เป็นตัวแทนของดาวพฤหัสฯ คือสีเหลือง ในขณะที่ศาสตร์ฮวงจุ้ยปีหน้าสีที่เป็นมงคลคือสีทอง ซึ่งเป็นสีที่เป็นตัวแทนของธาตุดิน ธาตุที่เป็นมงคลที่สุด ฉะนั้นหลังวันที่ 4 กุมภาพันธ์ เป็นต้นไป ผู้ที่สวมใส่เสื้อผ้า อาภรณ์ หรือสิ่งของเครื่องใช้ที่มีโทนสีเหลือง ทอง น้ำตาล จะมี “เรดาห์” รับคลื่นที่ดีๆ จากดาวพฤหัสฯ ได้ดีที่สุด”