จับตาวิกฤตพฤษภาคม ชุมนุมใหญ่-เปลี่ยนขั้วการเมือง

“แผ่นดินยังไม่สิ้นหวัง ฟ้ายังปรานี (ถ้ายังมีนายกฯ คนเดิม) เศรษฐกิจพูนเพิ่ม ภัยพิบัติซ้ำเติมปลายปี” คำกล่าวเริ่มต้นของอาจารย์กรหริศ บัวสรวง ผู้อำนวยการสถาบันสอนการพยากรณ์ชั้นสูงและโหรผู้ทำนายดวงเมืองได้แม่นยำที่สุดคนหนึ่งเมื่อปีที่ผ่านมา บอกถึงดวงชะตาของเมืองไทยผ่านโหราศาสตร์ไทยที่อาศัยการวิเคราะห์การโคจรของดวงดาว ว่า หลังจากที่คนไทยทั้งประเทศต้องทนทุกข์จากอุทกภัย วาตภัยเมื่อปลายปี 2553 อย่างหนักหน่วง โดยให้จับตาการทำมุมของดวงดาวต่างๆ เริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นไป ในช่วงนี้อาจจะมีการยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่

หลังจากวันที่ 9 เดือนพฤษภาคม 2554 ดวงเมืองจะส่งผลดีต่อประชาชนทั้งประเทศ เนื่องจากดาวพฤหัสบดีกับดาวอาทิตย์ซึ่งเป็นดาวคู่มิตรโคจรเข้ามาในเรือนของดาวอังคารซึ่งเป็นคู่สมพงษ์ ทำให้ในช่วงนี้น่าจะมีรัฐบาลชุดใหม่เข้ามาบริหารประเทศ และหากยังได้นายกรัฐมนตรีคนเดิม จะทำให้สถานการณ์ทางการเมืองคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น เนื่องจากดวงของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ สัมพันธ์และเกื้อหนุนกับดวงเมือง

จับตาวิกฤตเดือนพฤษภาคม
ชุมนุมใหญ่-เปลี่ยนขั้วการเมือง

ในขณะเดียวกัน ช่วงเดือนพฤษภาคมจะมีดาวใหญ่ชุมนุมกันถึง 5 ดวงคือ ดาวอาทิตย์ ดาวอังคาร ดาวศุกร์ ดาวพุธ และดาวพฤหัสบดี และการโคจรของดาวทั้ง 5 นั้นทับดวงเมือง จะส่งผลให้มีการเคลื่อนไหวของฝ่ายที่ต่อต้านรัฐบาลอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งครั้งนี้อาจจะลุกลามไปใหญ่โต

อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์ทางการเมืองไม่ลงตัวไม่มีการยุบสภาในเดือนมีนาคม จะมีเกณฑ์ที่จะให้เกิดการยุบสภาอีกครั้งหนึ่งในเดือนมิถุนายน ซึ่งหากมาถึงตรงนี้ดวงของคนที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีอาจจะไม่ใช่นายอภิสิทธิ์ สถานการณ์ทางการเมืองจะวุ่นวายด้วยแรงแห่งดาวบาปเคราะห์ ที่สำคัญในช่วงนี้จะมีข่าวการจากไปของคนที่เป็นต้นเหตุแห่งความขัดแย้งในบ้านเมืองด้วย

“ช่วงที่ต้องจับตามองมากที่สุดโดยเฉพาะปัญหาทางด้านการเมือง คือช่วงเดือนพฤษภาคม ถ้าทุกอย่างผ่านเดือนนี้ไปได้ ทุกอย่างจะเรียบร้อย บ้านเมืองจะก้าวสู่ความสงบสุข”

สูญเสียพระสงฆ์ผู้ใหญ่–โรคระบาดมาเยือน
อย่างไรก็ตาม แม้ดาวพฤหัสฯ จะส่งผลดีต่อดวงเมือง แต่ตำราโหราศาสตร์โบราณก็ให้ระวังเมืองไทยจะเกิดการสูญเสียครั้งใหญ่โดยเฉพาะในวงการสงฆ์ ซึ่งอาจจะหมายถึงการสูญเสียพระสงฆ์ผู้ใหญ่ และจะมีเรื่องของโรคภัยไข้เจ็บแบบหมู่คณะ อุบัติเหตุครั้งใหญ่ โรคระบาด ภัยเหล่านี้เป็นภัยที่ไม่มีใครคาดคิดและจะเกิดขึ้นตลอดทั้งปี โดยมีผลต่อเนื่องนับจากเดือนตุลาคม 2553 เป็นต้นมา

“สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือช่วงที่ดาวเสาร์ย้ายมามีผลต่อดวงเมืองเต็มที่ในวันที่ 7 ตุลาคม 2554และจะมาเล็งดวงเมืองซึ่งจะมีความแรงกว่าทุกครั้ง เช่นหากมีการยุบสภาในช่วงต้นปีหรือกลางๆ ปี และมีการเลือกตั้งใหม่และได้รัฐบาลที่ไม่ดี รับรองว่ารัฐบาลชุดนั้นจะอยู่ได้ไม่นาน ซึ่งเมื่อมีปัจจัยทางการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องแล้วจะส่งผลโดยตรงต่อเศรษฐกิจของประเทศ”

อัญมณี-เหล็ก-อสังหาริมทรัพย์บูม
แม้จะมีปัญหาทางด้านการเมือง แต่ทางด้านการค้า การลงทุน ยังถือว่าดำเนินไปได้ด้วยดี แต่จะเป็นไปอย่างเชื่องช้าแต่มีความมั่นคงเหมือนการเดินของ “เต่า” นักธุรกิจ พ่อค้า นักลงทุน จะต้องใช้ความอดทนเพื่อ “รอ” จังหวะซึ่งจะเริ่มดีขึ้นหลังเดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป

สำหรับอุตสาหกรรมที่จะโดดเด่นสำหรับปี 2554 จะเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับเหล็ก การก่อสร้าง อู่ซ่อมรถ กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจตัดเย็บเสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย โดยเฉพาะธุรกิจอัญมณีในปีนี้ถือเป็นธุรกิจที่โดดเด่นที่สุด ส่วนธุรกิจการส่งออกจะดีขึ้นตามลำดับ

หุ้นดีแต่ไม่หวือหวา
ในขณะที่การลงทุนด้านตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังคงดีอยู่ เพียงแต่เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศจะเข้ามาอย่างช้าๆ ไม่วูบวาบเหมือนปีที่ผ่านมา

ธุรกิจบันเทิงกระทบ
ส่วนธุรกิจที่จะได้รับผลกระทบในปีนี้จะเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการบันเทิง นักร้อง นักแสดง โดยเฉพาะผู้ที่ประกอบอาชีพเป็นดารานั้นจะมีการ “อัตวิบากกรรม” จนสร้างความตื่นตะลึงให้กับสังคมทั่วไป

“ภัยพิบัติ” หนักกว่าเดิมสองเท่า
นอกจากนั้นสิ่งที่คนไทยทั่วทุกภาคต้องให้ความใส่ใจและติดตามความเคลื่อนไหวของข่าวอย่างต่อเนื่อง คือช่วงตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2554 ไปจนถึงปลายปี 2555 ประเทศไทยจะพบกับภัยพิบัติทางธรรมชาติที่ร้ายแรงอย่างต่อเนื่อง ทั้งแผ่นดินทรุด แผ่นดินไหว วาตภัย อุทกภัย ซึ่งจะหนักกว่าปี 2553 สองเท่า เนื่องจากในช่วงนั้นดาวเสาร์ (ถือเป็นดาวที่เป็นตัวแทนของรัฐบาล) ซึ่งเป็นดาวบาปเคราะห์ยังโคจรอยู่ในตำแหน่งที่เป็นอริของดวงเมือง

ภาคใต้-เหนือตอนล่าง ต้องระวัง
ในช่วงเวลานั้นดาวเสาร์ที่เป็นดาวธาตุไฟโคจรเข้ามาสู่ราศีธาตุลม เล็งไปยังดวงเมืองไทยที่เป็นธาตุไฟซึ่งตั้งรับอยู่ ตามหลักวิชาโหราศาสตร์แล้วถือว่าแรงมาก โดยเฉพาะพื้นที่ภาคใต้และภาคเหนือตอนล่าง ฉะนั้นจึงอยากเตือนผู้ที่รับผิดชอบตั้งแต่รัฐบาลลงมาถึงข้าราชการในพื้นที่ ให้เตรียมแผนรองรับไว้ให้ดี และระยะเวลาที่เหลือนับจากนี้ไปควรหาทางป้องกันไว้จะดีกว่าตามแก้ปัญหากันภายหลัง ไม่เช่นนั้นจะเกิดปัญหา “ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยปี 2553”

“ในปีนี้ เราจะได้เห็นการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินครั้งใหญ่ที่เกิดแบบคาดไม่ถึง เช่นอุบัติเหตุที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากโดยจะเกิดจากไฟ แก๊ส และน้ำมันเป็นหลัก”

ตรวจชะตาเดือนดี-ร้าย ในปี 2554
เดือนมกราคม

การเมือง ยังคงมีความขัดแย้งแต่ไม่รุนแรง ฝ่ายที่มีความขัดแย้งกันยังหาทางเจรจากันไม่ได้ ในขณะเดียวกันรัฐบาลยังคงจะมีโครงการใหญ่ๆ ออกมาเรื่อยๆ แต่โครงการที่ออกมาในช่วงเดือนนี้จะไม่ราบรื่น บางโครงการถึงขั้น “แท้ง” เลยทีเดียว

การค้า-การลงทุน เดือนนี้การค้าขายทั่วไปจะอยู่ในภาวะ “ข้าวยากหมากแพง” สินค้าที่มีความสำคัญต่อการดำรงชีวิตจะมีราคาสูง การค้าขายไม่มีกำไร

ตลาดหุ้นคึกคัก มีนักลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาสร้างสีสันสร้างความคึกคักให้ตลาดหุ้นมีชีวิตชีวา

เดือนกุมภาพันธ์
การเมือง อยู่ในภาวะอึมครึม รัฐบาลเริ่มจะได้รับผลกระทบโดยตรงจากการบีบของสังคมต่อเนื่องจากการแก้ไขปัญหาเรื่องปากท้องที่ไม่กระเตื้องขึ้น เดือนนี้จะเห็นการพูดถึงการยุบสภาบ่อยครั้งขึ้นและอาจจะมีแนวโน้มที่จะปรับคณะรัฐมนตรีด้วยก็ได้

การค้า การลงทุน ตลาดหุ้น ยังคงสดใส นักลงทุนชาวต่างประเทศจะเป็นกำลังหลักในการเข้ามาสร้างสีสันต่อเนื่องจากเดือนก่อน ส่วนการค้าขายทั่วๆ ไปจะเริ่มดีขึ้น นักธุรกิจรายย่อยจะมีรายรับมากขึ้น ในขณะที่นักธุรกิจขนาดใหญ่ที่ทำธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมเหล็ก อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจเกี่ยวกับการก่อสร้างจะมีงาน มีเงินเข้ามมากกว่าเดือนที่แล้ว

เดือนมีนาคม
การเมือง จะมีความขัดแย้งรุนแรงขึ้นในช่วงปลายเดือน อาจจะมีการยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ แต่หากรัฐบาลยังคงประคองตัวเองไปได้ก็จะมีปัญหาความขัดแย้งภายในคณะรัฐบาลเอง

การค้า-การลงทุน ตลาดหุ้นมีการซื้อขายเข้ามามาก ทำให้เกิดความคึกคักกว่าสองเดือนที่ผ่านมา

เงินบาทแข็งค่า-ราคาทองสูงขึ้น นักลงทุนเกี่ยวกับเงินหรือทองคำจะประสบปัญหาเพราะค่าเงินบาทจะแข็งค่า ราคาทองคำที่อ่อนตัวลงในช่วงสองเดือนแรกจะมีราคาสูงขึ้น ซึ่งนักลงทุนทั้งสองส่วนนี้จะต้องติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของตลาดต่างประเทศอย่างใกล้ชิด จะได้ไม่เจ็บตัว ส่วนการลงทุนในด้านอื่นๆ จะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น

เดือนเมษายน
การเมือง หากไม่ยุบสภา ความขัดแย้งจะเริ่มรุนแรงจนเห็นความแตกแยกในรัฐบาลอย่างชัดเจน ให้ระวังช่วงปลายเดือนนี้จะมีความรุนแรงมากที่สุด จะมีการรวมกลุ่มประท้วงถี่ขึ้น ในขณะที่ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลจะเริ่มมีกำลังและอาจจะสร้างความรุนแรงเหมือนเช่นปีที่ผ่านมา

การค้า-การลงทุน ยังคงสดใส ไม่ได้รับผลกระทบจากการเมืองมากนัก
ตลาดหุ้น ยังคงเติบโตต่อเนื่อง

เดือนพฤษภาคม
การเมือง ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะเป็นช่วงที่ดาวเสาร์โคจรมาเล็งดวงเมือง ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อตัวคณะรัฐบาล หากรัฐบาลมีความขัดแย้ง พรรคการเมืองร่วมรัฐบาลอาจจะสละเรือถึงขั้นยุบสภา แต่หากสามารถประคองไปจนผ่านเดือนนี้ไปได้ รัฐบาลนี้จะอยู่ยาวถึงหมดวาระ

การค้า-การลงทุน จากสถานการณ์ทางการเมืองที่เริ่มรุนแรงตามลำดับ นักลงทุนชาวต่างประเทศจะหยุดลงทุน หรือลงทุนน้อยลง ทำให้ตลาดหุ้นติดลบแต่เป็นเพียงระยะสั้น ซึ่งต้องคอยจับตาดูภาคการเมืองว่าจะมีความรุนแรงหรือสามารถฝ่าวิกฤตไปได้ หากฝ่าไปได้หลังจากเดือนนี้ไปแล้วประเทศไทยจะเข้าสู่ความสงบอย่างน้อย 4 เดือน

เดือนมิถุนายน
การเมือง อยู่ในภาวะอึมครึมต่อเนื่อง แต่หากรัฐบาลนี้ยังบริหารอยู่จะเป็นเดือนที่ “หายใจคล่อง” หลังจากผ่านเดือนพฤษภาคมซึ่งถือว่า “หนักที่สุด” มาแล้ว เดือนนี้ความขัดแย้งจะลดลง ประชาชน พ่อค้า ข้าราชการจะให้ความร่วมมือกันด้วยดี ลดความเห็นแก่ตัวลง หันมาร่วมมือร่วมใจกันมากขึ้น

การค้า-การลงทุน เดือนนี้แม้การค้าขายทั่วไปจะซบเซา แต่การร่วมมือร่วมใจของประชาชนทั้งประเทศจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับคนในประเทศเองและนักลงทุนชาวต่างประเทศ

หุ้นบูม เดือนนี้จะเกิดปรากฏการณ์พิเศษคือ นักลงทุนต่างชาติจะเข้ามาลงทุนมากกว่าทุกๆ เดือนที่ผ่านมา ตลาดหุ้น และตลาดทุนจะคึกคักมาก

เดือนกรกฎาคม
การเมือง เดือนนี้รัฐบาลจะสามารถทำงานได้อย่างราบรื่น โครงการใหญ่ๆ ที่สะดุดมาตั้งแต่ต้นปีจะเริ่มมีความหวังว่าจะผ่านการพิจารณา

การค้า-การลงทุน ตลาดหุ้น ตลาดทุนคึกคัก ชาวต่างชาติจะเข้ามาลงทุนต่อเนื่อง การค้าขายทั่วไปจะมีกำไรดีกว่าทุกๆ เดือนที่ผ่านมา

เดือนสิงหาคม
การเมือง รัฐบาลสามารถทำงานไปได้ด้วยความราบรื่น ปัญหาความขัดแย้งจะลดลง นักการเมืองฝ่ายตรงข้ามจะเริ่มหันมาสนับสนุนรัฐบาลมากขึ้น แต่ยังต้องระวัง “คลื่นใต้น้ำ”

การค้า การลงทุน ตลาดหุ้น ตลาดทุนยังคงคึกคัก เช่นเดียวกับการค้าภายในประเทศที่นักธุกิจเริ่มมีกำไร และเริ่มมองหาลู่ทางลงทุนเพิ่ม

เดือนกันยายน
การเมือง ยังคงราบรื่น แต่รัฐบาลจะประสบปัญหาเรื่องการบริหารภายใน โดยเฉพาะการเตรียมการเพื่อรองรับปัญหาภัยพิบัติ ที่เริ่มจะมีเค้าลางว่าจะมีความรุนแรง ในเดือนนี้คนไทยทั้งประเทศจะเริ่มเห็นภัยนั้นชัดเจน

การค้า-การลงทุน ต้นเดือนยังคงดำเนินไปอย่างราบรื่น แต่ในช่วงปลายเดือนเค้าลางปัญหาน้ำ ลม ฝน จะสร้างความกังวลใจทำให้ผู้ที่คิดจะลงทุนเริ่มลังเล ในขณะที่ผู้ที่ลงทุนไปแล้วจะประสบปัญหา แต่การค้าขายทั่วไปยังคงดีอยู่

เดือนตุลาคม
การเมือง ส่อเค้าลางแห่งความขัดแย้งอันเนื่องมาจากโครงการที่รัฐบาลทำไว้แล้ว ดีที่การเงินการคลังของประเทศยังอยู่ในตำแหน่งที่แก้ไขได้ ทำให้การเจรจาต่อรองผ่านพ้นไปแบบหืดขึ้นคอ

ในเดือนนี้จะต้องระวังภัยทางธรรมชาติให้มากกว่าภัยอื่นๆ เพราะโอกาสที่ภาคใต้และภาคเหนือจะประสบปัญหาวาตภัย ดินถล่ม รวมไปถึงอุทกภัย จะมีมาก และจะหนักกว่าเดือนที่ปีที่ผ่านมาอย่างแน่นอน

การค้า การลงทุน ตลาดหุ้น จะเป็นตัวที่สร้างความสดใสให้กับการค้าอื่นๆ นักลงทุนชาวต่างประเทศเริ่มหันมาลงทุนในบ้านเราเพิ่มขึ้น

เดือนพฤศจิกายน
การเมือง จะเกิดความขัดแย้งกันเอง รวมไปถึงฝ่ายตรงข้ามจะมีกำลังเพิ่มขึ้น ทำให้การทำงานของรัฐบาลเป็นไปด้วยความลำบาก เดือนนี้อาจจะมีข่าวการยุบสภาถี่ขึ้น

การค้า การลงทุน ไม่คึกคักอันเนื่องมาจากปัจจัยทางการเมืองสร้างความไม่มั่นใจให้กับนักลงทุนชาวต่างชาติจะชะลอการลงทุนเพื่อรอดูสถานการณ์ทางการเมือง และจะประสบปัญหาภัยธรรมชาติที่รุนแรงส่งผลให้การค้าการลงทุนภายในซบเซาอย่างมาก

เดือนธันวาคม
การเมือง โอกาสที่จะมีการยุบสภามีสูงมาก เนื่องจากรัฐบาลจะถูกกดดันจากสังคมอย่างหนักเพราะไม่สามารถบริหารจัดการกับภัยพิบัติที่เกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที

การค้าการลงทุน จะหยุดชะงักแต่ไม่ถึงกับขาดทุน นักธุรกิจส่วนใหญ่จะชะลอการลงทุนต่อเนื่องจากเดือนตุลาคม เดือนธันวาคมปีนี้จะเป็นปีแรกในรอบหลายสิบปีที่คนในสังคมเกิดความไม่รื่นรมย์ ไม่คึกคัก เพราะในช่วงนี้จะมีการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินรวมทั้งบุคคลสำคัญๆ อันเป็นที่รักของคนในสังคมจะจากไปด้วย

ตรวจสอบคำทำนาย

อาจารย์ กรหริศ บัวสรวง เป็นหมอดูที่ทำนายในนิตยสาร POSITIONING เมื่อปลายปี 2552ว่า

เดือนมีนาคม เกิดกรณีพิพาทกับประเทศเพื่อนบ้าน เกิดการเข้าใจผิด เกิดการยั่วยุ ในช่วงนี้เกิดปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา โดยชนวนเหตุเกิดจากการแต่งตั้ง ทักษิณ ชินวัตร เป็นที่ปรึกษา ในขณะเดียวกันก็เกิดการแสดงละครตบตาคนไทยโดยวิศกรชาวไทย มารดา และ ส.ส.พรรคเพื่อไทย

เดือนเมษายน 2553 จะเกิดปัญหาทางการเมืองร้อนแรง นักการเมืองหลายคนเข้าข่ายทำผิดต่อความมั่นคงของรัฐ มีการต่อสู้ที่รุนแรงแต่ไม่มีการนองเลือด ซึ่งคำทำนายดังกล่าวตรงกับเหตุการณ์ที่กลุ่ม นปช.เข้าไปยึดสี่แยกราชประสงค์นั่นเอง

เดือนสิงหาคม ด้านการเมืองจะมีการกินแหนงแคลงใจกัน อาจจะมีการปรับคณะรัฐมนตรี ผลปรากฏว่าในเดือนดังกล่าวนี้ได้มีการปรับคณะรัฐมนตรีเกิดขึ้น