มหันตภัยปีเถาะ บ้านเมืองไม่สงบ-อุทกภัย-ธุรกิจผันผวน

“ปี 2554 จะเกิดมหันตภัยใหญ่ และเกิดปัญหาหลายด้าน มาจากดวงดาวที่เดินวิปริต อยู่ในคำนิยามร้ายและเป็นคู่ศัตรู อุปสรรค ขัดแย้ง เสียหาย ในเลขศาสตร์ เลข 7 ตัว 4 ฐาน การตีความหมายของดวงดาวยังส่งผลให้เกิดปรากฏการณ์ทางธรรมชาติในเรื่องของลม ฟ้า อากาศ แผ่นดินแห้งแล้ง หรือเกิดการทรุดตัว แผ่นดินแตกแยก อุทกภัย วาตภัย ที่จะเกิดขึ้นอย่างน่ากลัว รุนแรงมากกว่าปี 2553”

อาจารย์ นงลักษณ์ ศุภผล และ อาจารย์ อนงค์นาถ คูดิษฐาเลิศ นักโหราศาสตร์จากสมาคมโหรแห่งประเทศไทยฯ เชี่ยวชาญโหราศาสตร์ไทย เลขศาสตร์ 7 ตัว 4 ฐาน ซึ่งเป็นหลักการทำนายดวงชะตาบ้านเมืองที่มีมาแต่อดีต

ปี 2554 เป็นปีนักษัตรเถาะ ตามตำรานี้เรียกว่าอยู่ในปีจร (เลข 4 ดาวพุธ) นิยาม ศุภะ-อริ-ปิตา ทำนายว่ายังอยู่ในคำนิยามร้ายตามความหมายของดาว 4 (พระพุธ) บวกกับอายุจรของดวงเมืองยังอยู่ในวัยศุกร์ (6) นิยาม โภคา-ตนุ-ลาภะ บนฐานบวก 12 กำลังพระราหู คู่ศัตรู อีกจุดหนึ่งซึ่งดาว 6 (พระศุกร์) ธาตุน้ำฝน และดาว 4 (พระพุธ) ธาตุน้ำทะเลปะทะกันในคำนิยามร้าย และเป็นคู่ศัตรู

ส่งผลให้บ้านเมืองเกิดความไม่สงบและเกิดภัยธรรมชาติ การขัดแย้งผลประโยชน์ ความผันผวนในการลงทุน ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน รวมถึงตลาดหลักทรัพย์ฯ น้ำมัน การเกษตร อุตสาหกรรมทุกชนิด นำเข้า ส่งออก การผลิตภายในประเทศ ราคาสินค้าต่างๆ ไม่สามารถควบคุมได้ ยังเกิดการฉ้อฉล ชิงดีชิงเด่น ใส่ร้ายป้ายสี แบ่งฝักแบ่งฝ่าย ไปทุกหย่อมหญ้า จะเกิดการสูญเสียผู้ใหญ่ในบ้านเมืองและวงการศาสนา รวมถึงภาษีอากร บ่อน เบี้ย ธนาคาร หุ้น ยาเสพติด และเกิดการละเมิดลิขสิทธิ์ทั้งหลายในวงการบันเทิง

นอกจากนี้ ยังส่งผลทำให้เกิดการขัดแย้ง ความคิดเห็นไม่ลงตัว การต่อรอง สนธิสัญญา เอกสาร การหมกเม็ด คดีความในปัญหาชายแดน เพื่อนบ้าน และเขตรอยต่อของจังหวัด ของประเทศอีกด้วย

1 มกราคม – 3 กุมภาพันธ์ 2554
ตลาดหุ้นผันผวน-ธุรกิจปิดตัว

วินาศกรรม ช่วงเวลาดังกล่าวจะเกิดความวุ่นวายต่อเนื่องภายในประเทศ การจลาจลและการก่อวินาศกรรม อาชญากรรม การวางเพลิง อัคคีภัย อุบัติภัย ทั้งทางบก ทางทะเล ทางอากาศ และอุบัติเหตุตายหมู่ แผ่นดินไหว แผ่นดินทรุด โรคระบาด จะเกิดเชื้อโรคใหม่ๆ โรงพยาบาล สาธารณสุขต้องทำงานหนัก

เศรษฐกิจและอุตสาหกรรม เกษตรกรรม กสิกรรม ฝืดเคืองหนัก รวมถึงปัญหาทางพืชผล การนำเข้าส่งออก ตลาดหุ้น การค้าต่างๆ ยังผันผวน จะเกิดปัญหาคนว่างงาน ธุรกิจจะปิดตัวเป็นจำนวนมาก

การเงิน การคลัง รัฐบาลต้องทำงานหนักมากขึ้นเพื่อหาวิธีช่วยพยุงในเรื่องของเม็ดเงิน เงินตกต่ำเกิดข้าวยากหมากแพง ทำให้ผู้คนมีหนี้สิน การเสียเปรียบการค้าต่างประเทศ การแลกเปลี่ยนเงินตรา และสนธิสัญญาของชายแดน ระบบสื่อสารรำส่ำระสาย ผู้บริหารของประเทศจะมีการปฏิรูปวางแผนนโยบายใหม่ๆ เพื่อเป็นการรับมือ แต่การแก่งแย่งเอาผลงานทำให้เกิดการขัดแย้งกันภายใน จึงไม่ราบรื่น

4 กุมภาพันธ์ – 4 มีนาคม 2554
เศรษฐกิจระส่ำ-เกิดปัญหารุนแรง

การเมือง จะมีการวางแผนนโยบายปรับเปลี่ยนโครงสร้างภายใน ยังไม่โปร่งใส หรือมีการหมกเม็ด

เศรษฐกิจ ตกต่ำ เกิดความระส่ำระสาย ความอึดอัดคับขันกับทุกองค์กร ประชาชนพลเมืองโดยทั่วไปยังอดอยากปากแห้งเป็นจำนวนมาก เกิดหนี้สิน ความแห้งแล้ง ขาดแคลนทั้งเครื่องอุปโภคบริโภค ทำให้เกิดการโจรกรรม ศีลธรรมเสื่อมโทรม ผู้คนไม่เกรงกลัวกฎหมาย

สังคม ด้านเยาวชนวัยรุ่นยังก่อปัญหา แบ่งพรรคแบ่งพวก แบ่งสี ไม่แพ้นักการเมือง ยาเสพติดระบาด วงการบันเทิงยังมีเรื่องอื้อฉาว บุตรนอกสมรส และการทำแท้งระบาด

อุบัติภัย การเกิดอัคคีภัย อุบัติเหตุจากยวดยานพาหนะรุนแรง แก๊สระเบิด ไฟไหม้ แผ่นดินแยก แผ่นดินทรุด แผ่นดินถล่ม และเครื่องบินตก

การเงิน โดยภาพรวมภายในประเทศยังฝืดเคือง คนที่เล่นหุ้นต้องดูทิศทางลมให้ดี

4 เมษายน – 2 พฤษภาคม 2554
ระวังไฟไหม้ห้างสรรพสินค้า

การเมือง ต้องเผชิญกับปัญหาความวุ่นวาย การแตกแยกหลายด้าน ผู้คนในชาติเกิดการแตกกลุ่ม จะเกิดการใช้กำลังประหัตประหาร การซ่องสุมผู้คน การยุยงใส่ร้ายป้ายสีรุนแรง ถึงขั้นรัฐบาลอาจต้องใช้กฎหมายเข้ามาบังคับให้เด็ดขาด ผู้นำทั้งสองฝ่ายตกอยู่ในอันตรายกับการถูกปองร้าย

เศรษฐกิจ การค้า อุตสาหกรรม โรงงานต่างๆ ยังหาทางออกไม่ได้ ผู้ใช้แรงงานอาจรวมตัวกันสร้างความปั่นป่วน การสไตรค์หยุดงาน รวมตัวกัน และขอขึ้นค่าแรงงาน

อุบัติภัย ระวังจะเกิดอัคคีภัยโดยเฉพาะสถานเริงรมย์ ห้างสรรพสินค้า โรงแรมที่ระบบการเตือนภัยไม่ดีจะเกิดอันตรายได้ สินค้าที่จำเป็น แก๊ส น้ำตาล ข้าวสาร ยารักษาโรค จะปรับราคาให้สูงขึ้น ทำให้ค่าครองชีพสูงขึ้น เดือดร้อนไปทั่ว

3 พฤษภาคม – 1 มิถุนายน 2554
สูญเสียบุคคลสำคัญ

การเมือง สถานการณ์บ้านเมืองค่อนข้างน่ากลัวต่อการขัดแย้งกับปัญหาชายแดนที่จะก่อให้เกิดความรุนแรงมากขึ้น ในด้านการลอบวางเพลิง ลอบยิง กับทหาร ตำรวจ และครู เดือนนี้คนไทยอาจจะได้ยินข่าวร้ายเพราะอาจจะสูญเสียกับบุคคลสำคัญในบ้านเมือง

เศรษฐกิจ ตลาดหุ้น นักลงทุน ระวังถ้าสายป่านไม่ยาวจะเหมือนแมลงเม่าบินเข้ากองไฟ ส่วนสถาบันการเงิน การธนาคารตกต่ำ การเงินการคลังของประเทศมีปัญหา การค้า การตลาด และสินค้าที่จำหน่ายทั้งภายในและภายนอกประเทศประสบกับปัญหาอย่างรุ่นแรง ส่วนปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ อาจทำให้บางโรงงานอาจถึงขั้นปิดตัว หรือต้องลดจำนวนคนงานเพื่อความอยู่รอด

อุบัติภัย เกิดอุทกภัย วาตภัยหลายจังหวัด ทำให้เกิดความเดือนร้อนไปทั่ว

2 มิถุนายน – 30 มิถุนายน 2554
ภัยธรรมชาติ-ปัญหาชายแดนคุกรุ่น

การเมือง การบริหารบ้านเมืองยังเกิดการขัดแย้งไม่ลงรอย มีการแทรกแซงการทำงานทั้งด้านกฎหมาย ทำให้เกิดอุปสรรคในการบริหารประเทศไม่ราบรื่น

เศรษฐกิจ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ รับเหมา การซ่อมสร้างขยายตัว ส่งผลให้การเงินสะพัด แต่ต้องเก็งราคาให้ดี เพราะราคาของวัสดุก่อสร้างยังผันแปร เศรษฐกิจโดยภาพรวมยังพอไปได้

อุบัติภัย เดือนนี้ประชาชนทั่วไปต้องระวังให้มากเพราะเป็นเดือนที่มีลมพายุ มรสุมพัดแรง ดินฟ้าอากาศวิปริต ภัยธรรมชาติ ไต้ฝุ่น แผ่นดินไหว แผ่นดินถล่ม ตึกถล่ม และอุบัติเหตุรุนแรง โดยเฉพาะสถานที่ที่ใกล้น้ำ คลอง ทะเล ต้องหาทางป้องกันล่วงหน้าให้ดี ส่วนปัญหาชายแดนยังไม่มีทีท่าจะสงบ ต้องระวัง กองกำลังโจรซ่องสุม วางแผนเข้ามายึดครองพื้นที่บางจุดโดยคาดไม่ถึง และเกิดการขัดแย้งกันภายนอกประเทศ มีการอพยพรุกล้ำเข้ามาบางส่วน ควรเตรียมเฝ้าระวัง

1 กรกฎาคม – 30 กรกฎาคม 2554
ชุมนุมประท้วง-โรคระบาด

การเมือง เดือนนี้ยังเกิดปัญหาความขัดแย้งในโครงการภายใน ชะตาของผู้นำค่อนข้างเหน็ดเหนื่อย พรรคการเมืองต่างๆ ยังขาดความสามัคคี การร่างกฎหมาย หรือการปรับแก้ไข ไม่ลงตัว มีการขัดแย้ง แตกแยกชัดเจน ยังน่าเป็นห่วง ความยุ่งยากเกิดขึ้นหลายวงการ เช่น การศึกษา ศาสนา การแพทย์ เกษตรกร ผู้ใช้แรงงานมีการนักหยุดงานประท้วงค่าแรง และในช่วงเหตุการณ์ของเดือนนี้

ความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน ในเขตชายแดน พม่า กัมพูชา มีการขัดแย้งกันประปราย มีการรุกล้ำเขตแดน จนอาจถึงขั้นปิดเขตแดนชั่วคราว สนธิสัญญาระหว่างประเทศ หรือความสัมพันธ์ไมตรีกับมิตรประเทศ จะผิดปกติไม่ได้รับความร่วมมือ

อุบัติภัย ปัญหาอาชญากรรมรุนแรง การเจ็บป่วย โรคภัยไข้เจ็บรวมถึงโรคระบาดต่างๆ อุบัติเหตุ เภทภัย เช่น แผ่นดินไหว ลมพายุภัยทางอากาศ เครื่องบินตก ยังมีให้เห็น

เศรษฐกิจ การค้า การขนส่ง สื่อสารมวลชน สับสนวุ่นวาย สิ่งผิดกฎหมายเฟื่องฟู

31 กรกฎคม – 28 สิงหาคม 2554
เกิดเรื่องอื้อฉาวในวงการศาสนา

การเมือง เหตุการณ์บ้านเมืองยังไม่สงบ ความขัดแย้ง แตกแยก ไม่สามัคคี กลั่นแกล้ง ใส่ร้ายป้ายสี เพื่อชิงความเป็นใหญ่และอำนาจยังเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ความไม่ยุติธรรม ศีลธรรมเสื่อมถอย ก่อให้เกิดความร้าวฉานมากขึ้น ยากที่จะหาคนกลางมาประสานได้ และยังเป็นเดือนที่ต้องระวังอุบัติเหตุ อุทกภัย วาตภัย อัคคีภัย จะเกิดขึ้นในหลายจังหวัด โดยเกิดขึ้นในหลายภาคของเมืองไทย โรคภัยไข้เจ็บของคนในประเทศ มีโรคแปลกๆ ทำให้การรักษายากขึ้น

เศรษฐกิจ การค้ายังไม่คล่องตัว การเกษตร อุตสาหกรรม กสิกรรม มีปัญหา สินค้าราคาแพง การเติบโตในภาคธุรกิจชะลอตัว ระวังการถูกรุกราน ปัญหาประเทศเพื่อนบ้านติดชายแดนทางภาคเหนือ และภาคอีสาน

สังคม ด้านองค์การศาสนา จะเกิดปัญหาเกิดเรื่องอื้อฉาว เสื่อมเสียชื่อเสียงให้เกิดความมัวหมอง

29 สิงหาคม – 27 กันยายน 2554
สูญเสียสตรีมีชื่อเสียง

การเมือง ปัญหาบ้านเมืองยังไม่สงบ เศรษฐกิจ การค้า วงการสื่อสารมวลชน การคมนาคม การขนส่ง ยังมีอุปสรรค ประชาชนในชาติลุ่มหลงอบายมุข มีการโฆษณาชวนเชื่อ ศีลธรรมเสื่อมลง โดยเฉพาะวงการศิลปิน สตรีและเด็ก เยาวชนมีปัญหา ถูกเอารัดเอาเปรียบเรื่องของผลประโยชน์ มีการละเมิดสิทธิสตรี และอาจเกิดการสูญเสียกับสตรีที่มีชื่อเสียงของประเทศ การเจ็บป่วยจะมากขึ้น ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองและบุคคลสำคัญในประเทศมีปัญหาเรื่องสุขภาพ การเจ็บป่วย หรือมีการสูญเสียเกิดขึ้น

อุบัติภัย จะเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ หรือเกิดอุบัติเหตุใหญ่ๆ บ่อยครั้ง และต้องระวังการเกิดแผ่นดินไหว แผ่นดินทรุด ค่อนข้างรุนแรงตามเขตรอยต่อรวมถึงการเกิดอุบัติเหตุรุนแรงต่างๆ

สังคม ปัญหาในการใช้แรงงานของระดับชนชั้นยังถูกเอารัดเอาเปรียบ โดยเฉพาะการใช้แรงงานเด็กและสตรี หรือถูกลักลอบค้าแรงงานเด็ก เครื่องอุปโภค บริโภคยังมีราคาแพงต่อเนื่อง ไม่สามารถตรึงราคาได้ ประชาชนต้องรัดเข็มขัดให้มาก

28 กันยายน – 26 ตุลาคม 2554
การเมือง เดือนนี้เป็นเดือนที่อันตรายจะยังคงเกิดขึ้นรอบด้าน เศรษฐกิจ การค้า การเงินยังไม่คล่องตัว รัฐบาลต้องวางแผนเพื่อให้เกิดสภาพคล่อง โดยหากลยุทธ์วิธีหลากหลายมาปรับใช้ กองทุนฟื้นฟูและการออกเงินกู้ต่างๆ ความขัดแย้งภายในยังครุกรุ่น มีการปลุกปั่นยุยงให้เกิดความวุ่นวาย ประเทศเพื่อนบ้านยังก่อปัญหาเหมือนคลื่นใต้น้ำ แก้เท่าไรก็ยังไม่คลี่คลาย

ต้องระวังบุคคลในเครื่องแบบมีปัญหาขัดแย้งทางความคิด และมีการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ใช้อำนาจไม่ชอบธรรม ทำผิดกติกา วงการศาสนารวมถึงนักบวชทุศีล ทำให้วงการศาสนาเสื่อมเสียชื่อเสียง ไม่เกรงกลัวบาปกรรม

อุบัติภัย สภาพดินฟ้าอากาศก็ไม่เป็นใจ ยังเป็นเดือนที่น่าเป็นห่วงของภัยธรรมชาติทั้งทางบก ทางอากาศ ทางทะเล มีโอกาสเกิดอุบัติเหตุครั้งใหญ่ มีการสูญเสียตามมา และยังต้องเฝ้าระวังกับการเกิดพายุลูกใหญ่ที่พัดผ่าน ทำให้เกิดน้ำท่วมใหญ่ได้

เศรษฐกิจ ธุรกิจการค้าผันผวน ข้าว ยางพารา น้ำมัน ทอง ตลาดหุ้น ยังไม่สามารถจับทิศทางได้ นักลงทุนต้องศึกษาให้ดี

27 ตุลาคม – 25 พฤศจิกายน 2554
จับตาปรับ ครม. คนมีสีมีเอี่ยว

การเมือง ความเดือดร้อนไม่ลงตัวของการบริหารของรัฐบาลยังคงมีอยู่ เพราะปัญหาของเศรษฐกิจ การเงิน การคลัง ยังปั่นป่วน มีการคอรัปชั่น โกงกิน นายทุน แรงงาน กรรมกร ผู้ใช้แรงงาน ยังลำบาก จะมีคนว่างงานเพิ่มขึ้น มีการจลาจล ประท้วง การประสบปัญหาทางธุรกิจ การงาน เป็นเรื่องของผู้นำต้องทำงานหนักมากขึ้น ปัญหาด้านชายแดน ทั้งพม่า เขมร รอบบ้าน เกิดความปั่นป่วน วุ่นวาย ก่อกวน ต้องอดทนให้มาก

เดือนนี้ต้องจับตาให้ดี อาจมีการปรับคณะรัฐมรตรี หรือวางแผนนโยบายใหม่ และคนมีสีจะเข้ามามีบทบาทสำคัญในครั้งนี้ด้วย

เศรษฐกิจ ปัญหาเครื่องอุปโภคบริโภค อุตสาหกรรม การเกษตร อาชีพเกี่ยวกับของเหลว น้ำมัน น้ำเมา น้ำกาม จะเกิดอุปสรรค เกิดความเสียหาย

อุบัติภัย การเจ็บป่วย โรคระบาด ภัยที่มาแปลกๆ ทำให้รักษายากมากขึ้น สุขภาพของประชาชนย่ำแย่ และมีบุคคลสำคัญในบ้านเมืองหรือสตรีเกิดอันตราย อาจถึงแก่กรรม

26 พฤศจิกายน – 31 ธันวาคม 2554
วิกฤตการเงิน

การเมือง เป็นช่วงที่เกิดปัญหารุนแรงมากมายทั้งปัญหาภายในและภายนอกประเทศ การจลาจล ก่อหวอด ยุยง ปลุกบั่น ที่เกิดขึ้นในหน่วยงานของรัฐและรัฐวิสาหกิจ จะเกิดการแตกแยกความสามัคคี การขัดแย้ง จนนำไปสู่การพิพาทรุนแรง

เศรษฐกิจ การค้า การเงิน การคลัง เกิดความยุ่งยากถดถอย ส่งผลกระทบไปทั่ว การวางแผนนโยบายชะงัก การเงินผันแปร เข้าสู่จุดวิกฤต มีการฉ้อฉล ฉกฉวยโอกาสทางการค้าเป็นปัญหา นายทุน นายหน้า ไปจนถึงกรรมกร ชาวนา ชาวไร่ เกษตรกร สุขภาพของประชาชนกระทบกระเทือนเจ็บป่วย เป็นช่วงของการพนัน อบายมุข การเสี่ยง ของปลอมเฟื่องฟู การค้าแรงงานต่างแดนหรือการหลบหนีเข้าเมือง เป็นไปอย่างต่อเนื่อง เกิดปัญหาทางสังคม กฎหมายวุ่นวาย

อุบัติภัย ควรระมัดระวังดินฟ้าอากาศแปรปรวน แผ่นดินทรุด แผ่นดินถล่ม แผ่นดินไหว อาคารสูงพังทลาย เกิดวิปริตอาเพศ น้ำท่วม วาตภัย ปัญหาเพื่อนบ้าน ยังน่าเป็นห่วงไปตลอดเดือนจนถึงปลายปี

“ดาวต่างๆ ที่บ่งชี้เหล่านี้ เราทั้งสองได้พยากรณ์ไปตามหลักวิชาความรู้ที่มี เป็นแนวทางที่จะรับมือกับเหตุการณ์ต่างๆ อย่างมีสติ และเมืองไทยเป็นเมืองแห่งพระพุทธศาสนาศาสนา เรามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง มีพระมหากษัตริย์ คอยคุ้มครองป้องกันให้พวกเราชาวไทยผ่านพ้นไปด้วยดี”อาจารย์ทั้งสองกล่าวในที่สุด