ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต่างต้องกำหนดมาตรการที่เข้มงวดขึ้นในช่วงเดือนพฤษภาคม หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 เพิ่มสูงขึ้นในเดือนเมษายน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ สิงคโปร์ อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีลี เซียนลุง ของสิงคโปร์ ได้ออกมาเปิดเผยว่า ข้อจำกัดด้านโควิดของประเทศอาจผ่อนคลายหลังจากวันที่ 13 มิถุนายน หากสถานการณ์ดีขึ้น
ตั้งแต่วันที่ 8 พฤษภาคมสิงคโปร์ขยายการกักกันนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากต่างประเทศ และได้สั่งปิดยิมในร่ม รวมถึงการจำกัดการพบปะสังสรรค์เป็นกลุ่มละ 5 คน แต่ต่อมาได้ประกาศห้ามรับประทานอาหารในร้าน, ปิดการชุมนุมในที่สาธารณะ และให้คนทำงานจากที่บ้าน
และเพราะจำนวนเคสที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้แผนการทำ Travel Bubble ระหว่างสิงคโปร์และฮ่องกงล่าช้าไปอีก โดย ลี กล่าวว่า สิงคโปร์กำลังต่อสู้กับ สายพันธุ์ไวรัสที่ติดเชื้อได้ง่ายมากขึ้น ดังนั้น ประเทศจะต้องฉีดวัคซีนให้มากที่สุดเพื่อให้ได้ ภูมิคุ้มกันหมู่ ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อมีคนในชุมชนได้รับฉีดวัคซีนมากพอที่โรคนี้จะไม่สามารถแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็วอีกต่อไป
“สิงคโปร์ประเทศน่าจะสามารถควบคุมการระบาดของโรค COVID-19 ได้ภายในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า และน่าจะสามารถผ่อนปรนมาตรการป้องกันการระบาดของโรคได้บางส่วน ตามกำหนดการหลังวันที่ 13 มิถุนายน นี้ หากไม่มีซูเปอร์สเปรดเดอร์หรือคลัสเตอร์ขนาดใหญ่อื่น ๆ หากสถานการณ์ของเรายังดีขึ้น และจำนวนเคสในชุมชนลดลงอีก เราน่าจะสามารถผ่อนคลายข้อจำกัดได้หลังจากวันที่ 13 มิ.ย.” ลี เซียนลุง นายกรัฐมนตรีของสิงคโปร์ กล่าว
ที่ผ่านมา สิงคโปร์ใช้การทดสอบ COVID-19 ประเภทต่าง ๆ ควบคู่ไปกับการทดสอบปฏิกิริยาลูกโซ่พอลิเมอเรส ซึ่งถูกมองว่าเป็นมาตรฐาน โดยลีระบุว่า การทดสอบตามปกติที่รวดเร็ว และง่าย เป็นส่วนหนึ่งของ New Normal ของสิงคโปร์ และจากนี้ ผู้ที่อาศัยอยู่ใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อจะต้องถูกแยกออก ไม่ใช่เฉพาะผู้ใกล้ชิดเท่านั้นที่จะต้องถูกกักตัว
ทั้งนี้ สิงคโปร์ได้ปรับแผนการฉีดวัคซีน โดยตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. เป็นต้นไป นักเรียนมากกว่า 400,000 คนในสิงคโปร์จะสามารถจองช่องฉีดวัคซีนได้ และจะสามารถเริ่มฉีดวัคซีนได้ทันทีในวันพฤหัสบดีที่ 3 มิ.ย. ส่วนผู้ใหญ่อายุไม่เกิน 39 ปีจะสามารถจองฉีดวัคซีนได้ประมาณกลางเดือนมิถุนายน ส่วนผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป สามารถฉีดวัคซีนได้โดยไม่ต้องลงทะเบียนล่วงหน้า โดยสามารถฉีดวัคซีนที่ศูนย์ใดก็ได้
“เราต้องปรับกลยุทธ์ของเราอย่างต่อเนื่อง และยกระดับเกมของเราเพื่อควบคุม COVID-19 ดังนั้น ประเทศต้องทดสอบ ติดตาม และฉีดวัคซีนให้เร็วขึ้น ด้วยแนวทางเชิงรุกมากขึ้นนี้จะช่วยให้เราปิดคลัสเตอร์ได้เร็วขึ้น”
ณ วันที่ 30 พ.ค. สิงคโปร์รายงานผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยัน 62,028 ราย มีผู้เสียชีวิต 33 ราย โดนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐบาลสิงคโปร์ยังคงคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจไว้ที่ 4-6% ในปี 2564