แค่ 3 ไม่พอ ต้อง 6 มิติถึงจะเอาอยู่

นับจากนี้ประสบการณ์ในการได้สัมผัสสินค้า ไม่ใช่แค่เห็น ได้ยินและแตะต้องเท่านั้น แต่ต้องมีหลากหลายมิติ (Multisensory Brand Experiences) เพิ่มขึ้น คือสัมผัสด้วยกลิ่น รสชาติ ความรู้สึก นับไล่เรียงกันได้ไปถึง 6 มิติเลยทีเดียว เหมือนอย่างที่ 4 สินค้านำร่องไปแล้ว คือ Pizza เครื่องเทศ, โรงหนัง 6-D หรือ 6 มิติ, Ferrari

โรงหนัง 6 มิติ เป็นสินค้าที่ตอบโจทย์เทรนด์เร็วที่สุด ด้วยที่นั่งที่ไม่เพียงขยับได้ แต่ยังมีกลิ่นตามเรื่องราวของหนัง เป็นการทำให้ความบันเทิงมีชีวิตชีวามากขึ้น ล้ำกว่า 3 มิติทั้งในทีวีและโรงหนังที่ให้เพียงรู้สึกสมจริงเท่านั้น

Ferrari ก็ใช้ในการเปิดตัว Ferrari World ที่อาบู ดาบี ที่ผู้เข้าชมงานได้สัมผัสในมิติของภาพ เสียง และกลิ่นในแบบอิตาเลียน และขับขี่ผ่านรถจำลองในการแข่งฟอร์มูล่าวัน G-Force ซึ่งจะทำให้ลูกค้ารู้สึกเข้าถึงแบรนด์และกระตุ้นความรู้สึกอยากได้มากขึ้นเหมือนอย่างที่นิสสันที่เพิ่งเปิดตัวรถที่ปล่อยอากาศบำรุงผิวด้วยวิตามินซีได้ ที่สามารถเล่นกับ 6 มิติได้อย่างดี

หรืออย่างกลุ่มอาหารที่ไม่ใช่แค่แจกชงชิมเท่านั้น แต่ต้อง 6 มิติด้วยการเพิ่มความรู้สึกภาคภูมิใจ ที่กำลังแรงคืออาหารรสเผ็ดร้อนที่กำลังเทรนด์ แบบยิ่งกินยิ่งเทห์ โดยเฉพาะผู้ชาย ทำให้ “พิซซ่าโดมิโน่” หน้า The Revenge ที่มีเครื่องเทศกับมัสตาร์ด ออกแคมเปญยิ่งกินยิ่งได้เหรียญประดับโชว์สถานะความเก่งในการกินเผ็ด เป็นการเล่นกับมิติของความรู้สึกมากขึ้น