ธุรกิจที่ไม่อยากให้โต! เสียงสะท้อน “สุริยาหีบศพ” โควิดทำยอดขายโลงพุ่งขึ้น 3 เท่า

สุริยาหีบศพ
Photo : facebook.com/SuriyaFuneral
เสียงสะท้อนจาก “สุริยาหีบศพ” ระบุยอดขายโลงพุ่งขึ้น 3 เท่า หลังโควิดระบาดหนัก ส่วนใหญ่เป็นโลงราคาไม่สูง ไม่มีลวดลาย เนื่องด้วยพิษเศรษฐกิจและต้องรีบเผา สุดหดหู่ บางศพไม่มีญาติร่วมงาน เพราะติดโควิดยกบ้าน!

โลงธรรมดา ยอดขายเพิ่ม 3 เท่า!

“(ยอดขาย) คิดว่าเพิ่มประมาณ 3 เท่า ตอนนี้เฉพาะโควิดต่ำสุดประมาณ 3-10 เคสต่อวัน ของสาขานี้ (สาขาแคราย) ถ้าไม่รวมโควิดก็เยอะอยู่แล้ว เฉลี่ยวันนึงก็ 10-15 เคส พอมามีโควิดด้วยก็เป็นประมาณ 20 กว่าเคสได้”

ริญญารัตน์ สุริยเสนีย์ กรรมการผู้จัดการ “สุริยาหีบศพ” ผู้ผลิตจัดจำหน่ายหีบศพชื่อดังอันดับต้นๆ ของประเทศ  ได้ฉายภาพว่า หลังเกิดการระบาดของไวรัส COVID-19 ที่นับวันจะทวีความรุนแรง และพรากชีวิตคนไทยไปเป็นจำนวนมาก โดยเหตุการณ์ดังกล่าวนั้น ส่งผลให้ยอดจำหน่ายโลงศพทุกสาขาของสุริยาหีบศพ เพิ่มขึ้นราว 3 เท่า ในช่วงเวลาไม่กี่เดือน

“รายได้จากหีบเพิ่มขึ้น แต่ว่ามากมั้ยก็ไม่ได้มากไป ส่วนใหญ่เฉลี่ยหีบก็ไม่ได้เป็นราคาที่สูงค่ะ ถ้าเป็นเคสโควิด สตาร์ทเริ่มต้นเป็นหีบไม่มีลวดลาย มีลายนิดนึง ไปจนถึงฐาน 2 ชั้น ที่จะสามารถเข้าเตาได้เลย แต่ถ้าญาติบางเคส อยากจะได้หีบที่สวยขึ้น โลงนึงก็ประมาณพันกว่าบาทถึงหลักหมื่นก็มีค่ะ แล้วแต่ความสวยงามของหีบ

ถ้าญาติพอมีกำลังซื้อ เขาก็จะซื้อในส่วนของที่ไม่แพงมาก เป็นเพราะพิษเศรษฐกิจ พอประหยัดอะไรได้ก็ประหยัด และอาจจะกะทันหัน ต้องรีบ ไม่มีเวลาที่จะเลือกหีบ พอใส่ร่าง เชิญดวงวิญญาณไปเสร็จ ก็ขึ้นเมรุเผาเลย ทางเราก็จะมีทีมที่บริการในส่วนของรับศพด้วย และดำเนินการจนถึงที่เผา ไปถึงที่เมรุ ถ้าหาวัดไม่ได้ เราก็จะจัดหาให้ด้วย

กำลังทรัพย์ของญาติบางคนก็บอกว่าเขาตกงาน ไม่มีเงินที่พอจะช่วยได้ เราก็พูดตรงๆ ถ้าไม่มีเลยเราสามารถช่วยให้ได้หมด จนกระทั่งหาวัดเผาให้ฟรีได้ โควิดบางเคสเราก็บริจาคให้นะคะ เคสไหนไม่มี เราก็ช่วยทั้งหมด เรื่องหีบศพ เรื่องรถบริการ อุปกรณ์ต่างๆ แล้วเราก็ติดต่อที่วัดให้ ก็จะมีบางวัดที่เขาเผาให้ฟรีได้ ญาติก็ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเลย”

นอกจากนี้ ผู้ประกอบธุรกิจโลงศพ ยังได้สะท้อนเสียงจากญาติผู้เสียชีวิตจาก COVID-19 ที่ตนเองได้ให้บริการ ว่า เป็นการประกอบพิธีส่งผู้วายชนม์ที่น่าสลดหดหู่ หลายบ้านไม่สามารถเดินทางมาร่วมพิธีได้ เนื่องจากติดโควิดกันทั้งบ้าน…

“ตอนนี้เป็นเหตุการณ์ที่ไม่ได้ตั้งตัว ความเสียใจของญาติที่ได้ประสบมา บางทีญาติยังอยู่ในโรงพยาบาลอยู่เลย ไม่สามารถที่จะมาเผาได้ด้วย เป็นกันทั้งบ้าน บางทีญาติยังไม่ได้เตียง ก็เคยโทร.ช่วยหาเตียงหาอะไรให้ก็มี แต่เราก็ช่วยเหลือไม่ได้มาก เพราะมันเป็นตามขั้นตอน ก็น่าเป็นห่วง

บางบ้านติดกันทั้งบ้านเลย เขาขอให้เขาออกไปได้มั้ย เพื่อที่เขาจะได้ไปดูหน้าครั้งสุดท้าย แต่เราก็บอกว่า มันเป็นเหตุการณ์รีบด่วน เพราะไม่สามารถเก็บไว้ได้ เขาก็ฝากเราให้ถ่ายรูปส่งไป ก็จะให้เจ้าหน้าที่ของเราถ่ายรูปเก็บไว้ให้เขา เพราะญาติไม่ได้ไปเลย เราก็จะจัดการให้ตั้งแต่ต้นจนจบ”

งานหนักสัปเหร่อ “ไม่ไหวก็ต้องไหว”

ไม่เพียงแค่ตัวแทนจากกิจการจำหน่ายหีบศพชื่อดัง ยังมีอีกหนึ่งอาชีพที่ทำงานหนักอย่างมากในวิกฤตที่เกิดขึ้นครั้งนี้ นั่นก็คืออาชีพ “สัปเหร่อ” อาชีพที่อาจกล่าวได้ว่า เป็นทั้งด่านหน้า และด่านสุดท้ายที่ต้องเผชิญกับผู้ติดเชื้อ

ทางด้านของ สุรเสก เนื่องน้อย หรือ “สัปเหร่อต๋อย” แห่งวัดสุทธาวาส (ใหม่ตาสุต) แขวงบุคคโล เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงการทำหน้าที่ของตนเอง ผ่านเฟซบุ๊ก “ผู้ควบคุมการเดินทาง ข้ามมิติ” โดยมีใจความ ขอความกรุณาวัดย่านฝั่งธนบุรีให้ช่วยกันรับศพไปฌาปนกิจ เนื่องจากเตาของวัดที่รับเผาจะไม่ไหวแล้ว

พร้อมกันนี้ ยังได้มีการโพสต์ขอรับบริจาคชุดป้องกันโควิด ชุด PPE หรือชุด 3M และถุงมือ เพราะเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้รับวัคซีนป้องกัน และล่าสุด มีการยืนยันตัวเลขผู้เสียชีวิตจาก COVID-19 ที่สัปเหร่อผู้นี้ที่ทำพิธีฌาปนกิจศพให้ มีจำนวนถึง 45 ศพ

“มันเป็นโรคเ_ี้ยอะไร บ้านเนี้ยเพิ่งเผาเสร็จไม่ถึงชั่วโมง ตายอีกศพแล้ว เขาโทร.ขอให้ช่วยเผาให้ได้ไหม ไม่ไหวก็ต้องไหว ถึงตัวเองจะตายก็ไม่ทิ้ง ทำให้ทุกศพ” สัปเหร่อต๋อยโพสต์

ขณะที่ทางด้านของตัวแทนจากสุริยาหีบศพ ก็กล่าวต่อถึงการทำงานในภาคส่วนของตน ที่ต้องมีมาตรการให้พนักงานป้องกันอย่างเข้มงวดเป็นพิเศษ

และแม้ไม่ต้องการจะให้ไวรัสร้ายพรากชีวิตคนไทยไปอีก แต่จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าในอนาคตหีบศพของทางร้านจะถูกนำไปบรรจุร่างของผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 มากขึ้น

“ปีที่แล้วเดือนนึงประมาณซัก 2-3 เคส ก็เป็นเรื่องตื่นเต้นของเราแล้ว ทางพนักงานเราก็ยังกลัวอยู่ เพราะไม่มีใครกล้ารับ ยังไม่มีความเข้าใจ ปีนี้ค่อนข้างเยอะขึ้น ตอนหลังมาเราก็ขอร้อง ถ้าไม่มีใครช่วยเขาแล้วใครจะช่วย ญาติเขาก็ทุกข์อยู่แล้ว ตรงนี้ก็มีแต่คนกลัว ถ้าเราไม่ช่วยเขาแล้วจะไปทำการฌาปนกิจไม่ได้สำเร็จค่ะ

เราก็จะต้องให้ความรู้กับพนักงานเรื่องการป้องกัน ใส่ชุด PPE ใส่รองเท้า Face Shield ต้องเซฟ ต้องมีน้ำยาฆ่าเชื้อติดรถเราไปด้วย ทีมนึงก็ 4 คน ถ้าในโรงพยาบาลที่เราคอนแทกต์ก็จะต้องมีอีก 2 คน เพื่อช่วยแพ็กลงหีบ ช่วยกันยกขึ้นแล้วก็เชิญดวงวิญญาณไปที่วัดให้ และ 4 คนนี้เขาจะต้องนำร่างไปจนถึงรอขึ้นเตาเผาให้เลยค่ะ พอเสร็จกลับมาเขาต้องอาบน้ำชำระร่างกายให้เรียบร้อย

สุดท้าย กรรมการผู้จัดการหีบศพเจ้าดัง ได้ฝากความห่วงใยถึงคนไทยที่เผชิญสถานการณ์ด้วยกัน และหากใครก็ตามที่ต้องการบริจาคเงิน หรือชุด PPE เพื่อเจ้าหน้าที่ของสุริยาหีบศพ สำหรับใช้ในการดำเนินการกับศพผู้ติดเชื้อ สามารถติดต่อบริจาคได้ที่สุริยาหีบศพทุกสาขา สามารถดูรายละเอียดได้ทางเฟซบุ๊กและเว็บไซต์ www.suriyafuneral.com

Source