‘เน็ตฟลิกซ์’ โกยสมาชิกเพิ่ม 1.54 ล้านรายในไตรมาส 2 พร้อมยืนยันเพิ่ม ‘เกม’ ลงแพลตฟอร์ม

Photo : Shutterstock
แม้ว่า เน็ตฟลิกซ์ (Netflix) จะเจอกับคู่แข่งรายสำคัญจำนวนมาก โดยเฉพาะ ‘ดิสนีย์พลัส’ (Disney+) ที่เพิ่งให้บริการในไทยไปหมาด ๆ แต่แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งเบอร์ 1 ยังคงสามารถสร้างการเติบโตได้ โดยในไตรมาส 2 จำนวนผู้ใช้รวมถึงรายได้ยังสามารถเติบโตได้มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาด พร้อมกับเตรียม ‘เกม’ เป็นไพ่ตายสู้ศึกสตรีมมิ่ง

เน็ตฟลิกซ์ได้ออกมาเปิดเผยถึงผลประกอบการไตรมาส 2 โดยมีสมาชิกทั้งหมด 209 ล้านคนทั่วโลก โดยเติบโตได้ 1.54 ล้านคน สูงกว่าที่นักวิเคราะห์ประเมินไว้ว่าจะเติบโต 1.19 ล้านคน ส่วนรายได้สุทธิ 7.34 พันล้านดอลลาร์ จากที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะปิดที่ 7.32 พันล้านดอลลาร์ โดยเติบโตจากปีก่อน 19%

“โควิดถือเป็นปัจจัยในการเติบโตของสมาชิกของเรา แม้การเติบโตที่สูงขึ้นในปี 2020 และปีนี้จะเริ่มเติบโตได้ช้าลง”

เน็ตฟลิกซ์คาดว่า ในช่วงไตรมาสที่ 3 จำนวนสมาชิกจะมีการเพิ่มสุทธิ 3.5 ล้านคน ในขณะที่นักลงทุนคาดการณ์ว่าจะมีการเพิ่มสมาชิกสุทธิ 5.46 ล้านคน เนื่องจากคอนเทนต์ใหม่ ๆ ที่กำลังจะลงในแพลตฟอร์มที่จะเริ่มมีมากขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้และปีหน้า

โดยในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ เน็ตฟลิกซ์ได้ทุ่มงบกว่า 8 พันล้านดอลลาร์ในการซื้อและผลิตคอนเทนต์ และคาดว่างบที่ใช้ในส่วนนี้ตลอดทั้งปีจะสูงถึง 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยบริษัทได้ยืนยันด้วยว่ากำลังผลักดันแพลตฟอร์มเข้าสู่ เกม โดยจะเป็นหมวดหมู่เนื้อหาใหม่ และจะไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เบื้องต้น เน็ตฟลิกซ์จะเน้นไปที่เกมมือถือก่อน

“เรารู้สึกตื่นเต้นเช่นเคยเกี่ยวกับการนำเสนอภาพยนตร์และซีรีส์ของเรา และเราคาดหวังว่าจะมีการลงทุนและการเติบโตเพิ่มขึ้นในหมวดหมู่เนื้อหาที่มีอยู่ทั้งหมดของเราในระยะยาว แต่เนื่องจากเราเกือบทศวรรษในการผลักดันรายการดั้งเดิม เราคิดว่าเวลานี้เหมาะสมที่จะเรียนรู้เพิ่มเติมว่าสมาชิกของเราให้ความสำคัญกับเกมอย่างไร”

ในช่วงที่ผ่านมา เน็ตฟลิกซ์กำลังเผชิญกับแรงกดดันจากการแข่งขันที่ยากขึ้นทุกปี แต่เนื่องจากปีที่แล้วผู้บริโภคอยู่ท่ามกลางการระบาดใหญ่ของ COVID-19 และใช้เวลาออนไลน์มากขึ้นและต้องการความบันเทิงมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ในไตรมาสที่สองการมีส่วนร่วมต่อครัวเรือนของสมาชิกลดลงเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว แต่ยังคงเพิ่มขึ้น 17% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่สองของปี 2019

“แน่นอนว่า Disney ที่ซื้อ Fox ช่วยให้ Disney กลายเป็นบริการความบันเทิงที่มากกว่าแค่บริการสำหรับเด็กและครอบครัว”

Source