“Stevanato” บริษัทอิตาเลียนผู้ผลิต “ขวดแก้ว” และกระบอกฉีดยา เบื้องหลังขวดแก้วถึง 90% ที่ใช้ในการบรรจุวัคซีนป้องกัน COVID-19 เข้าจดทะเบียน IPO ในตลาดหุ้นนิวยอร์กแล้ว โดยบริษัทนี้เป็นธุรกิจครอบครัวที่ตั้งขึ้นเมื่อ 72 ปีก่อน
บริษัทสัญชาติอิตาลี Stevanato Group ไม่เป็นที่รู้จักเท่าใดนักจนกระทั่งเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กไปเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2021 ระดมทุนได้ 672 ล้านเหรียญสหรัฐในวันแรกที่เข้าตลาด (ประมาณ 22,140 ล้านบาท) นับเป็นการเปิด IPO ที่ใหญ่ที่สุดของบริษัทจากอิตาลีในตลาดหุ้นสหรัฐฯ นับตั้งแต่ที่ Ferrari เคยเข้าจดทะเบียนเมื่อปี 2015
การเข้าตลาดของบริษัททำให้ครอบครัว Stevanato ผู้ก่อตั้ง ยิ่งร่ำรวยขึ้นอีก โดยผู้ก่อตั้งคือ Giovanni Stevanato ตั้งบริษัทนี้ขึ้นเมื่อปี 1949 ปัจจุบันบริษัทคือผู้ครองส่วนแบ่งตลาด 90% ของการผลิตขวดแก้วและกระบอกฉีดวัคซีน COVID-19 รวมถึงเป็นเจ้าตลาดหลอดและปากกาฉีดยาอินซูลินอีกด้วย
ขณะนี้ผู้กุมบังเหียนบริษัทคือ Franco Stevanato วัย 48 ปี เขาเป็นหลานชายของ Giovanni เขาคือผู้นำบริษัทเข้าสู่ยุคใหม่จากการเปิด IPO ในวอลล์สตรีท
Franco กล่าวกับนิตยสาร Forbes ว่า ปู่ของเขาก่อตั้งบริษัทนี้ในแบบ “สตาร์ทอัพ” เพราะช่วง 3-4 ทศวรรษแรกของบริษัท พวกเขาไม่ทำเงินเลย
ปู่ Giovanni ตั้งบริษัทที่เมืองเวนิซ เริ่มแรกผลิตขวดแก้วบรรจุไวน์กับน้ำหอม จนถึงต้นทศวรรษ 1970s ที่บริษัทเปลี่ยนมาบุกตลาดเวชภัณฑ์ และเติบโตจนเป็นผู้นำตลาดนี้ จากนั้นก็ทยอยขยายตัวไปตั้งโรงงานในเม็กซิโกเมื่อปี 2007 และในจีนเมื่อปี 2012 ตามด้วยสหรัฐฯ ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อปี 2016 (ขณะนี้มีโรงงาน 14 แห่งใน 4 ประเทศ)
จนกระทั่ง ปี 2020 นี้เองที่บริษัทเติบโตก้าวกระโดด ทำกำไรเป็นเท่าตัวแตะ 94 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 3,100 ล้านบาท) และทำให้ Sergio Stevanato รุ่น 2 ของบริษัทในวัย 79 ปีกลายเป็นมหาเศรษฐีโลก ยิ่งเปิด IPO แล้ว หุ้นที่เขายังถืออยู่ในบริษัทสัดส่วน 53% ทำให้เขามีสินทรัพย์ถึง 3,100 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1.02 แสนล้านบาท) ยังไม่รวมเงินสดและการลงทุนอื่นๆ อีก เช่น ไร่องุ่นทำไวน์ทางตะวันออกเฉียงเหนือของอิตาลี
การระดมทุนในตลาดครั้งนี้ Stevanato Group จะนำไปขยายโรงงาน เปิดสายการผลิตขวดแก้ว กระบอกฉีดยา และหลอดยา บริษัทจะบุกเปิดโรงงานใหม่ที่รัฐอินเดียนา สหรัฐฯ จากการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีของสหรัฐฯ คิดเป็นมูลค่าราว 2.9 ล้านเหรียญ (ประมาณ 96 ล้านบาท) เพื่อแลกกับการสร้างงานในพื้นที่ราว 200 ตำแหน่ง
จริงๆ แล้ว บริษัท Stevanato เน้นการผลิตหลอดและปากกาฉีดยาเป็นหลัก สินค้านี้คิดเป็น 45% ของยอดขายบริษัทเมื่อปี 2020 จนกระทั่งเกิดวิกฤตโรคระบาด COVID-19 ในอิตาลี บริษัทจึงกลายเป็นหัวหอกในการผลิตขวดแก้วและกระบอกฉีดยาสำหรับรองรับการผลิควัคซีน
อย่างไรก็ตาม แม้จะผลิตมากที่สุดในโลก แต่สินค้ากลุ่มขวดแก้ววัคซีนคิดเป็นเพียง 4% ของรายได้บริษัท โดย Franco ระบุว่า COVID-19 ยังเป็นเพียงหนึ่งในหลายๆ ธุรกิจที่บริษัททำ
“เราจะลงทุนวิจัยและพัฒนาต่อไป เพื่อสร้างไปป์ไลน์ของสินค้าให้ต่อเนื่องและยกระดับให้ดียิ่งขึ้น” Franco กล่าว