จับตา ‘YouTube’ ที่รายได้กำลังจะแซง ‘Netflix’ อีกหนึ่งศัตรูตัวฉกาจในศึกสตรีมมิ่งที่ห้ามมองข้าม

หากพูดถึงตลาดวิดีโอสตรีมมิ่ง แน่นอนว่าหลายคนไม่ได้คิดถึง ‘YouTube’ เท่าไหร่ โดยส่วนใหญ่จะไปคิดถึง Netflix, Disney+ และอื่น ๆ ที่มีรูปแบบรายได้แบบซับสคริปชั่นหรือสมัครสมาชิก และเน้นแย่งชิงฐานคนดูด้วยภาพยนตร์-ซีรีส์ แต่หากพูดกันตามจริงสงครามนี้คือการแย่งชิง ‘เวลา’ ผู้ชม ดังนั้น YouTube จึงถือเป็นศัตรูที่มองข้ามไม่ได้

จากผลการเก็บข้อมูลของ Nielsen พบว่า ปัจจุบันผู้คนรับชมคอนเทนต์บน YouTube และ Netflix แค่ 2 แพลตฟอร์มก็มากกว่าแพลตฟอร์มวิดีโอสตรีมมิ่งอื่น ๆ รวมกัน ซึ่งไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ เพราะปัจจุบัน YouTube มีผู้ใช้งานกว่า 2,000 ล้านคนทั่วโลก ส่วน Netflix ที่มียอดผู้ใช้งานทั้งหมด 209 ล้านบัญชี ตามด้วย Disney+ ที่มียอดผู้ใช้งานทั้งหมด 104 ล้านบัญชี

ขณะที่ยอดรับชม YouTube ผ่าน ‘ทีวี’ ก็เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ จากปีก่อนมียอดรับชมที่ 100 ล้านคน/เดือน มาปีนี้เติบโตเป็น 120 ล้านคน/เดือน นั่นแสดงให้เห็นว่า การรับชมทีวีปกติก็ได้ถูก YouTube แย่งเวลาไปแล้ว แม้ว่าการรับชมผ่านสมาร์ทโฟน, คอมพิวเตอร์ และแท็บเล็ตยังคงเป็นสัดส่วนหลักก็ตาม ซึ่ง Nielsen ระบุว่า YouTube และ Netflix เป็นสตรีมเมอร์สองอันดับแรก โดยแต่ละบริการคิดเป็น 6% ของเวลาที่ใช้ในการดูทีวี

ในส่วนของรายได้ก็มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยไตรมาส 2 ที่ผ่านมามีรายได้โฆษณาเพิ่มขึ้น 83% จากปีที่แล้ว โดยทำรายได้กว่า 7,002 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 230,400 ล้านบาท เทียบกับรายได้ไตรมาส 2 ของ Netflix ที่ 7.34 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 241,600 ล้านบาท เติบโต 19.4% จากปีที่แล้ว

จะเห็นว่า YouTube ไม่ได้เป็นเพียงผู้นำด้านสตรีมวิดีโอที่มีอัตราเติบโตที่น่าเหลือเชื่อ แต่ยังกลายเป็นคู่แข่งสำคัญของแพลตฟอร์มวิดีโอสตรีมมิ่งแบบ SVOD (Subscription Video On Demand) หรือแบบเสียเงินสมัครสมาชิก เพราะรายได้ดังกล่าวของ YouTube มาจากแค่ค่าโฆษณา ยังไม่รวมรายได้จากผลิตภัณฑ์ที่ต้องสมัครสมาชิก เช่น YouTube TV และ YouTube Premium นอกจากนี้ยังแย่งเวลาของการดูทีวีอีกด้วย ดังนั้น YouTube ยังมีพื้นที่มากมายให้เติบโต

ไม่ใช่แค่วิดีโอยาว แต่วิดีโอแบบสั้นที่เป็นเทรนด์บนโซเชียลมีเดียในปัจจุบัน YouTube เองก็มี YouTube Shorts บริการวิดีโอแบบสั้นของตัวเองที่ออกแบบมาเพื่อแข่งขันกับ TikTok อย่างไรก็ตาม Alphabet บริษัทแม่ของ YouTube ยังไม่ได้เปิดเผยว่ามีคนใช้ YouTube Shorts กี่คน แต่มีการรับชมทั่วโลกเพิ่มขึ้นจาก 6.5 พันล้านครั้งต่อวันในเดือนมีนาคมเป็น 1.5 หมื่นล้านครั้งต่อวันภายในสิ้นไตรมาสที่ 2

อย่างไรก็ตาม ตามรายงานของ Nielsen เมื่อเดือนที่แล้วแสดงให้เห็นว่ายังมีที่ว่างมากมายสำหรับสตรีมเมอร์ทุกคนที่จะเติบโต เนื่องจากผู้คนจำนวนมากขึ้นไม่ได้ดูทีวีแบบเดิม ๆ และการสตรีมยังคงเป็นเพียง 1 ใน 4 ของเวลาที่ใช้รับชมทีวีทั้งหมด ดังนั้น ด้วยเทรนด์ของวิดีโอสตรีมมิ่งที่ยังเติบโต แปลว่าทุกแพลตฟอร์มก็ยังมีโอกาสที่จะเป็นผู้ชนะในสงครามนี้

Source