เจ้าหน้าที่สาธารณสุขระดับสูงสหรัฐฯ รับ ‘ล้มเหลว’ จากการสกัดโควิดระลอกใหม่

(Photo by Paul Yeung - Pool/Getty Images)
ในช่วงวันที่ 2-6 สิงหาคมที่ผ่านมา ผู้ติดเชื้อ COVID-19 ในสหรัฐฯ ทำสถิติสูงสุดในรอบ 6 เดือน เจ้าหน้าที่สาธารณสุขระดับสูงได้เตือนว่าประเทศกำลัง ‘ล้มเหลว’ ในการต่อสู้เพื่อควบคุมการระบาดของ COVID-19 เนื่องจากตัวแปรเดลตาที่ระบาดอย่างรวดเร็วจนปัจจุบันมีรายงานผู้เสียชีวิตกว่า 6.16 แสนราย ซึ่งสูงสุดของโลก

ยอดผู้ป่วยรายใหม่รายวันในสหรัฐฯ เพิ่มเป็น 118,000 ราย ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธุ์ที่ผ่านมา ขณะที่อัตราการเสียชีวิตเพิ่มขึ้น 89% ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่โรงพยาบาลเด็กในสหรัฐอเมริกา เช่น ฟลอริดา กำลังมีคนไข้มากขึ้น เนื่องจากคนหนุ่มสาวได้รับผลกระทบมากขึ้น

“เราไม่ควรไปถึงที่ที่เราอยู่เลยจริง ๆ และเรากำลังล้มเหลว” ฟรานซิส คอลลินส์ ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพแห่งชาติ (National Institutes of Health) กล่าว

ปัจจุบัน เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปียังไม่มีสิทธิ์ได้รับวัคซีน แต่ข้อมูลจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐฯ (CDC) ระบุว่า แม้แต่เด็กที่ไม่แสดงอาการก็สามารถแพร่เชื้อ COVID-19 ได้ ดังนั้น เด็กอายุ 2 ปีขึ้นไปควรสวมหน้ากากในที่สาธารณะซึ่งรวมถึงโรงเรียนด้วย

อย่างไรก็ตาม มีการเตือนว่าหากเด็กหลายล้านคนที่กลับไปเรียนที่โรงเรียนและไม่สวมหน้ากาก ไวรัสจะ แพร่กระจายไปในวงกว้างมากขึ้น

แม้ความกลัวเกี่ยวกับตัวแปรเดลตาได้ทำให้ประชาชนกระตือรือร้นที่จะฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้น แต่คนนับล้านโดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่เอนเอียงไปทางอนุรักษ์นิยมของประเทศยังคงมีข้อกังวลเกี่ยวกับการฉีดวัคซีน

“เราจะไม่อยู่ในจุดที่เราอยู่ตอนนี้แม้จะมีตัวแปรเดลตาที่ระบาดเพิ่มขึ้น ถ้าเรามีประสิทธิภาพมากขึ้นในการฉีดวัคซีนทุกคน”

Photo : Shutterstock

Anthony Fauci ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขระดับสูงอีกคนเตือนว่า ความล้มเหลวในการควบคุมตัวแปรเดลตา อาจจะเพิ่มโอกาสที่เชื้อจะกลายพันธุ์รูปแบบใหม่ซึ่งอาจมีปัญหามากกว่าเดลตา

จากการระบาดอย่างรวดเร็วในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้จัดงาน New Orleans Jazz Fest ได้ประกาศเมื่อวันอาทิตย์ว่างานที่จะจัดขึ้นในวันที่ 8-17 ตุลาคมได้ถูกยกเลิก ถือเป็นหนึ่งในสัญญาณที่บ่งบอกว่ามีความกลัวที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มมากขึ้น

ย้อนไปช่วงเดือนพฤษภาคม ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ ประกาศเปลี่ยนแปลงแนวปฏิบัติในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 โดยอนุญาตให้ผู้ที่ได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว ไม่ต้องสวมใส่หน้ากากอนามัย หลังจากที่มีหลักฐานยืนยันว่าวัคซีนช่วยลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดลงอย่างมาก และยังมีประสิทธิภาพต่อไวรัสกลายพันธุ์ จนกระทั่งการมาของสายพันธุ์เดลตา ทำให้ในเดือนกรกฎาคม บางรัฐออกกฎบังคับให้ประชาชนกลับมาสวมหน้ากากอนามัยอีกครั้ง

Source