ขณะที่ธุรกิจค้าปลีกกลุ่มดิสเคาน์สโตร์ อย่างโลตัส บิ๊กซี นับวันก็เร่งติดอาวุธด้วยสาขาใหม่ไซส์เล็กลง จากถนนใหญ่มาอยู่ในตรอกซอกซอย แต่กลุ่มคอนวีเนี่ยนสโตร์อย่าง เซเว่น อีเลฟเว่น ของซีพีออลล์กำลังพยายามจัดเต็ม เปิดสาขาใหม่ใหญ่ขึ้น และที่มีอยู่ก็รีโนเวตจาก 1 ห้อง เป็น 2 ห้อง เป็น 3 หรือบางแห่งก็เต็มที่ได้ถึง 4 ห้อง การแข่งขันรอบนี้แม้กลุ่มลูกค้าต่าง Positioning คนละจุด แต่ก็ใกล้เคียงกัน โดยเฉพาะเมื่อบิ๊กซีแข็งแรงกว่าเดิมหลังเทกโอเวอร์คาร์ฟูร์ เซเว่นฯ จึงต้องออกแรงยิ่งกว่าเดิม
“สุวิทย์ กิ่งแก้ว” รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท ซีพีออลล์ จำกัด (มหาชน) บอกว่า หลังบิ๊กซีรวมกับคาร์ฟูร์ทำให้กลุ่มนี้ได้เปรียบในการต่อรองกับซัพพลายเออร์ และทำราคาได้ถูกกว่า และเมื่อกลุ่มนี้ขยายไซส์เล็กมากขึ้น เซเว่นฯ ก็ต้องรับมือ ซึ่งยุทธศาสตร์นับจากนี้คือการทำให้เซเว่นฯ มีสินค้าครบในร้านใหญ่ขึ้น
ปัจจุบันเซเว่นฯ ขนาด 2 ห้องเกือบทุกสาขาจะมีบุ๊คสไมล์ ส่วนขนาด 3 ห้องมีจำนวนประมาณ 30 สาขาที่มี ”เอ็กซตร้า” โปรเจกต์ขยายธุรกิจ ที่เริ่มจากร้านจำหน่ายอาหารเสริมและความงาม และมีกาแฟ ชา เครื่องดื่ม แบรนด์ ”คัดสรร” และอีกประมาณ 8 สาขาที่มีเบเกอรี่แบรนด์ ”ยูริ”
ในปี 2554 จะเปิด 3 ห้องเพิ่มอีก 12 สาขา แม้จะเทียบไม่ได้กับจำนวนที่มีอยู่กว่า 5 พันสาขาทั่วประเทศ แต่ไซส์ใหญ่ขึ้นในทำเลที่ดีคืออาวุธสำคัญในเวลานี้
“ปิยะวัฒน์ ฐิตะสัทธาวรกุล” กรรมการผู้จัดการ ซีพีออลล์ บอกว่า เอ็กซตร้าตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ห่วงใยสุขภาพและความงาม ในคอนเซ็ปต์ ”หน้าเด้ง เต่งตึง แข็งแรง สวย” ที่เซเว่นฯ พยายามทำมาแล้ว 2-3 ปี และแนวโน้มกำลังไปได้ดี นอกจากนี้เซเว่นฯ กำลังมองการขยายห้องที่ 4 ให้ลูกค้านั่งทานอาหาร โดยนำร่องสาขาในปั๊ม ปตท. ที่เปิดให้ลูกค้าที่ซื้ออาหารพร้อมรับประทานกลุ่มRTE (Ready to Eat) แล้ว ส่วนจะขยาย 4 ห้องกี่แห่งนั้นอยู่ระหว่างการศึกษาความคุ้มค่าการลงทุน
“สุวิทย์” บอกว่าการมีพื้นที่นั่งทำให้เซเว่นฯ เป็นคอนซูเมอร์สโตร์ ที่มาแล้วได้สินค้าครบในชีวิตประจำวัน โอกาสทำยอดขายจึงมากขึ้น เพราะการมานั่งรับประทาน มีโอกาสที่ลูกค้าจะซื้อสินค้าอื่นๆ อย่างน้อยเช่นน้ำดื่ม และขนม
นี่คือเกมนี้ผู้เล่นรายใหญ่อย่างเซเว่นฯ ไม่ได้คิดแค่ว่าขยายสาขาแล้วจบ แต่คือการขยายสินค้าให้ตรงกับไลฟ์สไตล์ลูกค้าในยุคที่ความสะดวกคือความต้องการสูงสุด เมื่อรวมกับแผนธุรกิจการตั้งโรงงานผลิตอาหารและศูนย์กระจายสินค้าทั่วประเทศแล้ว งานนี้เซเว่นฯ จึงมีแต่โตและโตเท่านั้น
เป้าหมายการเติบโตของเซ่เว่นฯ ในไทยอีก 3 ปีข้างหน้า
- 7,000 สาขา จากปัจจุบัน 5,790 สาขา ซึ่งมากเป็นอันดับ 3 รองจากญี่ปุ่นที่มี 13,000 สาขา และอเมริกา 6,700 สาขา
- 10,000 คน คือจำนวนคนเข้าสาขาจากปัจจุบัน 5,660 คน
- 60,000 บาท รายได้ต่อสาขาจากปัจจุบัน 40,000 บาท
- 8 ครั้ง เฉลี่ยลูกค้าเข้าร้าน จากปัจจุบันเฉลี่ย 3 ครั้ง และเฉลี่ยซื้อของครั้งละ 3 ชิ้น