ช่วง 5 ปีนี้สมรภูมิการแข่งขันค้าปลีกไทยไซส์ใหญ่ “ไฮเปอร์มาร์เก็ต” ออกอาการนิ่ง สวนทาง “คอนวีเนียน สโตร์” ที่เปิดเพิ่มทุกปี แม้มีอยู่ในตลาดแล้วกว่า 20,000 สาขา
ค้าปลีกทุกรายในตลาดมองว่าประเทศไทยยังเปิด “ร้านสะดวกซื้อ” ได้อีก จากการขยายตัวของประชากรอาศัยในพื้นที่เมืองเมื่อ 25 ปีก่อนอยู่ที่ 30% ปี 2020 สัดส่วนแตะ 50% ทำให้พฤติกรรมการจับจ่ายผู้บริโภคเปลี่ยนไป ต้องการความสะดวก ใกล้บ้าน 24 ชั่วโมง เป็นปัจจัยที่ผู้ค้าปลีกต้องยอมรับและปรับตัวให้ทัน
สมพงษ์ รุ่งนิรัติศัย ประธานกรรมการบริหาร เทสโก้ โลตัส กล่าวว่า ในปี 2030 หรืออีก 10 ปีข้างหน้าประชากรไทยที่อาศัยในเมืองจะเพิ่มสัดส่วนเป็น 58% เพิ่มขึ้นจากปี 1994 ที่เทสโก้ โลตัสเข้ามาเปิดสาขาแรกในไทย ขณะนั้นสัดส่วนอยู่ที่ 30% ผู้บริโภคใน “สังคมเมือง” และประชากรไทยที่เข้าถึงอินเทอร์เน็ตสัดส่วนกว่า 80% ในวันนี้ ส่งผลต่อพฤติกรรมการจับจ่าย สินค้า “ราคาถูก” จึงไม่ใช่คำตอบในการเลือกซื้อเพียงอย่างเดียว แต่ต้องตอบโจทย์ความสะดวกและประสบการณ์ช้อปปิ้งที่ดี เป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการค้าปลีกต้อง “ปรับตัว”
หั่นพื้นที่ไฮเปอร์มาร์เก็ต
ปัจจุบันเทสโก้ โลตัส มีค้าปลีก 2 ฟอร์แมต รวม 2,100 สาขา คือ ไซส์ใหญ่ ไฮเปอร์มาร์เก็ตและซูเปอร์มาร์เก็ต รวม 400 สาขา และไซส์เล็ก คอนวีเนียน สโตร์ 1,600 สาขา ต้องยอมรับว่าไฮเปอร์มาร์เก็ตทั้งอุตสาหกรรมเป็นฟอร์แมตที่ “ไม่เติบโต”
พฤติกรรมผู้บริโภควันนี้ มีช่องทางเข้าถึงสินค้าหลากหลาย ทั้งสโตร์และออนไลน์ การมาใช้เวลาอยู่ในไฮเปอร์มาร์เก็ตเป็นเวลานาน อาจไม่ตอบโจทย์ ความถี่ในการมาจึงมีแนวโน้มลดลง
เทสโก้ โลตัส จึงปรับทิศทางธุรกิจสาขาไฮเปอร์มาร์เก็ตใหม่ ในสาขาเก่าได้ลดพื้นที่จำหน่ายสินค้าลงราว 2,000 ตร.ม. เช่น จากเดิมพื้นที่ขาย 6,000 ตร.ม. ก็จะเหลือ 4,000 ตร.ม. โดยยกเลิกขายสินค้าประเภท Non Food เช่น ของเล่น เสื้อผ้าแฟชั่น ซึ่งลูกค้าสามารถซื้อผ่านช่องทางอื่นๆ ได้
โดยโฟกัสจำหน่ายสินค้าที่เป็น “จุดแข็ง” ในกลุ่มอาหารสด (Grocery) สินค้าอุปโภคบริโภค (FMCG) พื้นที่ขายที่ลดลงปล่อยเป็น “ร้านค้าเช่า” แต่ละทำเลจะมีร้านค้าเช่าแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความต้องการแต่ละพื้นที่ หรือบางสาขาดึงโรงภาพยนตร์เข้ามาเปิดให้บริการเพิ่มเติม การปล่อยพื้นที่เช่าจะทำให้มีรายได้ประจำจากค่าเช่าเพิ่มขึ้น
เทสโก้ อังกฤษ ลงทุนปีละ 5 หมื่นล้าน
ปีนี้เทสโก้ โลตัส มีแผนเปิดไฮเปอร์มาร์เก็ต สาขาใหม่ 3 สาขา ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่เมืองรอง โดยสาขาไฮเปอร์มาร์เก็ตที่จะเปิดใหม่หลังจากนี้ จะมีพื้นที่เล็กลง ขนาด 3,000-4,000 ตร.ม. จากเดิมพื้นที่อยู่ที่ 10,000-12,000 ตร.ม.
เทสโก้ อังกฤษ ยังมีนโยบายลงทุนต่อเนื่อง แต่ละปีใช้งบประมาณ 50,000 ล้านบาท กระจายการลงทุนไปทั่วโลก โดยเฉพาะภูมิภาคเอเชีย ที่มีอัตราการเติบโต 2.6% ในปีที่ผ่านมา ขณะที่ภาพรวมเทสโก้ เติบโตเพียง 0.4% ขณะที่ไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการเติบโตดี
ลุยศึกคอนวีเนียนสโตร์ 3 ปี เปิด Express 750 สาขา
นโยบายการขยายธุรกิจค้าปลีกของเทสโก้ โลตัส หลังจากนี้ สมพงษ์ กล่าวว่าจะเน้นไปที่ฟอร์แมต “ร้านสะดวกซื้อ” Tesco Lotus Express เป็นหลัก จากปัจจุบันมีสาขาทั่วประเทศ 1,600 สาขา ภายใน 3 ปีนี้ จะเปิดเพิ่มอีก 750 สาขา หรือเฉลี่ยปีละ 250 สาขา สปีดจะเร็วขึ้นกว่าเดิม “5 เท่าตัว” ที่เปิดปีละ 50 สาขา ดังนั้นภายใน 3 ปีนี้จะมีสาขา Tesco Lotus Express รวม 2,350 สาขา
แม้ตลาดไทยจะมีร้านสะดวกซื้ออยู่แล้วกว่า 20,000 สาขา แต่หากเทียบกับอัตราการให้บริการต่อสาขากับประชากร ญี่ปุ่นมีร้านสะดวกซื้อมากกว่าไทย 3 เท่าตัว เกาหลีใต้มากกว่าไทย 2 เท่าตัว จึงมองว่าไทยยังมีโอกาสเปิดร้านสะดวกซื้อได้อีกมาก
ปัจจุบันสาขา Tesco Lotus Express กระจายอยู่ในทำเลชุมชน ตรอกซอย ใกล้ผู้บริโภค เป้าหมายเปิดสาขาอีก 3 ปีข้างหน้าก็ต้องขยับเข้าไปใกล้ผู้บริโภคให้มากขึ้นอีก รวมทั้งทำเลในเมืองริมถนน ก็ต้องขยายด้วย เพราะผู้บริโภคที่อยู่ระหว่างเดินทาง ก็เป็นกลุ่มเป้าหมายเช่นกัน นอกจากพื้นที่ใกล้ที่อยู่อาศัย
Express เสริมบริการ “ร้านกาแฟ-ไปรษณีย์”
สำหรับสาขา Tesco Lotus Express ที่มีจำนวน 1,600 สาขา ได้ปรับโฉมใหม่ด้วยคอนเซ็ปต์สินค้า For Now เพิ่มกลุ่มอาหารสดพร้อมรับประทานทันทีเข้ามามากขึ้น พร้อมทั้งให้บริการ “ร้านกาแฟ” Tesco Coffee โดยใช้ผลิตภัณฑ์เมล็ดกาแฟจากดอยตุง บริการไปรษณีย์ 24 ชั่วโมง โดยเป็นจุดรับส่งของไปรษณีย์ไทย นอกจากนี้ “แดรี่ ควีน” ได้เข้ามาเข้าพื้นที่ให้บริการอีกด้วย
ขณะนี้ได้ปรับปรุงร้าน Tesco Lotus Express โฉมใหม่ไปแล้ว 20 สาขา ในช่วง 3 ปีนี้จะทยอยปรับปรุงโฉมใหม่ให้ครบทั้ง 1,600 สาขา
ในด้านบริการออนไลน์ ได้ให้บริการทั้งแพลตฟอร์มของเทสโก โลตัส และมีช้อปบนมาร์เก็ตเพลส Lazada ปัจจุบันคลอบคลุมสัดส่วนประชากรไทยใช้บริการ 11% ภายใน 3 ปีนี้จะครอบคลุม 100%
ข่าวเกี่ยวเนื่อง