National Press and Publication Administration ของจีนได้เผยแพร่กฎระเบียบใหม่ โดยจะกำหนดให้เด็กและวัยรุ่นที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีในประเทศจีน สามารถเล่นวิดีโอเกมออนไลน์ได้ไม่เกิน 3 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ซึ่งข้อจำกัดดังกล่าวก็ได้ส่งผลให้หุ้นของบริษัทเกมรายใหญ่อย่าง เน็ตอีส ร่วงระนาว
ตามประกาศฉบับแปลเกี่ยวกับกฎใหม่ ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีจะได้รับอนุญาตให้เล่นวิดีโอเกมได้วันละหนึ่งชั่วโมง ระหว่างเวลา 20.00 น. ถึง 21.00 น. ในวันหยุดสุดสัปดาห์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เพื่อเป็นแนวทางในการปกป้องสุขภาพร่างกายและจิตใจของเด็ก โดยกฎดังกล่าวจะนำไปใช้กับบริษัทที่ให้บริการเกมออนไลน์แก่ผู้เยาว์ โดยจำกัดความสามารถในการให้บริการผู้ใช้เหล่านั้นนอกเวลาที่กำหนด บริษัทจะไม่ได้รับอนุญาตให้ ให้บริการแก่ผู้ใช้ที่ไม่ได้เข้าสู่ระบบด้วยการลงทะเบียนชื่อจริง
กฎล่าสุดจาก NPPA ช่วยลดระยะเวลาที่ผู้เยาว์สามารถเล่นเกมออนไลน์ได้อย่างมาก ภายใต้กฎ 2019 ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีสามารถเล่นเกมได้ 1½ ชั่วโมงต่อวันในเกือบทุกวัน
“ปัจจุบันมีผู้เยาว์มากกว่า 110 ล้านคนที่เล่นวิดีโอเกมในประเทศจีน และเราคาดว่าข้อจำกัดใหม่จะนำไปสู่การลดลงของจำนวนผู้เล่น และลดเวลาและเงินที่ใช้ในเกมของผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี” Daniel Ahmad นักวิเคราะห์อาวุโสของ Niko Partners กล่าว
“อย่างไรก็ตาม เราไม่คาดว่าการใช้จ่ายที่ลดลงจะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อผลประกอบการของบริษัทเกม เนื่องจากมีการจำกัดเวลาและการใช้จ่ายของผู้เยาว์ได้เกิดขึ้นแล้วในช่วงสองปีที่ผ่านมา ดังนั้นเราจึงคาดว่าผลกระทบต่ออัตราการเติบโตโดยรวมจะเบาลง เนื่องจากการใช้จ่ายของผู้เยาว์นั้นต่ำอยู่แล้ว”
เทนเซ็นต์ (Tencent) ได้กล่าวก่อนหน้านี้ว่า รายได้จากการเล่นเกมเพียงเล็กน้อยมาจากผู้เล่นที่อายุน้อยในประเทศจีน โดยในไตรมาสที่ 2 รายได้จากเกมรวม 2.6% ในประเทศจีนมาจากผู้เล่นอายุต่ำกว่า 16 ปี โดย Tencent กล่าวว่าจะดำเนินการตามข้อกำหนดใหม่และสนับสนุนกฎใหม่ และในเดือนกรกฎาคม Tencent ได้แนะนำข้อกำหนดสำหรับเกมเมอร์ในการสแกนการจดจำใบหน้าบนโทรศัพท์เพื่อยืนยันว่าพวกเขาเป็นผู้ใหญ่หรือไม่
หุ้นที่จดทะเบียนในสหรัฐฯ ของ เน็ตอีส (NetEase) ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทเกมยักษ์ใหญ่ของจีน ร่วงลง 4% หลังจากมีมาตรการดังกล่าวออกมา