เรียกได้ว่าร้อนแรงไม่มีแผ่วสำหรับสงคราม ‘5G’ เพราะการลงทุนทั้งการประมูลคลื่นและโครงข่ายต่าง ๆ ไม่ได้มีมูลค่าน้อย ๆ ดังนั้นต้องเร่งทำทุกวิถีทางที่จะเปลี่ยนผู้ใช้ 4G เดิมให้มาใช้ 5G และจะดียิ่งกว่าหากเปลี่ยนเอาลูกค้าของคู่แข่งมาใช้งานค่ายตัวเอง ซึ่ง ณ ปัจจุบันจะเห็นว่า ‘เบอร์ 1’ และ ‘เบอร์ 2’ อย่าง ‘เอไอเอส’ และ ‘ทรู’ จะแลกหมัดกันอย่างเมามันในศึกนี้
เดือดตั้งแต่พรีเซ็นเตอร์
เรื่องการดึงพรีเซ็นเตอร์ ต้องยอมรับว่าทั้งเอไอเอสและทรูต่างไม่มีใครยอมใครมานานแล้ว เพราะหากลิสต์รายชื่อแต่ละคนต่างก็มีแต่ ‘ดาราเบอร์ต้น’ ด้วยกันแทบทั้งสิ้น อย่างเอไอเอสก็มีทั้ง เป๊ก ผลิตโชค, เจมส์ จิรายุ, แต้ว ณฐพร, มิว นิษฐา, พุฒ พุฒิชัย, เวียร์ ศุกลวัฒน์, เบลล่า ราณี, แบมแบม กันต์พิมุกต์ และ ลิซ่า ลลิษา ส่วนทรูก็ไม่น้อยหน้า ได้ดาราแถวหน้าอย่าง ณเดช คูกิมิยะ, ญาญ่า อุรัสยา เสปอร์บันด์, เฌอปราง BNK48, ไบร์ท วชิรวิชญ์ และ ไอซ์ พาริส
อย่างไรก็ตาม ย้อนไปช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่มหกรรมกีฬา ‘โอลิมปิก 2020’ ที่เหล่านักกีฬาต่างกำลังขับเคี่ยวกัน แบรนด์ต่าง ๆ ก็เล็งแล้วว่าจะต้องดึง ‘ฮีโร่ทีมชาติ’ มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้ได้ และในธุรกิจโทรคมนาคม เอไอเอส ก็มือไวคว้าตัว ‘น้องเทนนิส’ พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ หนึ่งเดียวที่สามารถคว้าเหรียญทองโอลิมปิกปี 2020 มาได้
ขณะที่ ทรู แม้จะพลาดน้องเทนนิสแต่แก้ตัวด้วยการดึง ‘โค้ชเช’ ชเว ยอง-ซอก โค้ชของน้องเทนนิส และถือเป็นเบื้องหลังความสำเร็จของวงการกีฬาเทควันโดไทยเกือบ 20 ปี นอกจากนี้ยังได้ ‘แต้ว’ สุดาพร สีสอนดี เจ้าของเหรียญทองแดงโอลิมปิกแรกกีฬามวยสากลสมัครเล่นหญิง
แม้จะคว้ามาถึง 2 ฮีโร่โอลิมปิก แต่ก็องยอมรับว่าอิมแพ็คของทั้งโค้ชเชและน้องแต้วจะยังสู้น้องเทนนิสไม่ได้ ดังนั้น ผ่านไปไม่ถึงเดือนทรูก็เปิดตัวพรีเซ็นเตอร์คนใหม่อีกหนึ่งคน ก็คือ ‘กันต์ กันตถาวร’ พิธีกรเบอร์ต้น ๆ ของไทยมาช่วยสื่อสารผ่านแคมเปญ ‘ยุคนี้ต้องทรู 5G’
ด้วยชื่อเสียงที่โด่งดังจากการเป็นพิธีกรประจำรายการฮิตของเวิร์คพอยท์หลายรายการ และมีฐานแฟนในโลกออนไลน์กว่า 10 ล้านผู้ติดตาม นอกจากนี้ยังมีทักษะการสื่อสารที่ดี ทำให้ โอลิเวอร์ กิตติพงษ์ วีระเตชะ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านแบรนด์และการสื่อสาร บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น เชื่อว่ากันต์จะสามารถเข้าถึงกลุ่ม Early Adopter ได้
เอไอเอสปาดหน้าคว้า ‘ไทยลีก’
หากพูดถึงการแข่งขันด้านคอนเทนต์ของทั้งเอไอเอสและทรู จะเห็นถึงความดุเดือดมาตลอด โดยเอไอเอสก็มี ‘AIS Play’ ส่วนทรูมี ‘True ID’ ซึ่งทั้ง 2 แพลตฟอร์มก็ต่างเปิดให้ ‘ดูฟรี’ ไม่จำกัดค่าย (แต่ไม่ใช่ทุกคอนเทนต์) อย่างไรก็ตาม เอไอเอสที่ได้ ‘Disney+ Hotstar’ มาอยู่ในมือ ถือว่าเป็นการสร้างแต้มต่อขึ้นอย่างมาก เพราะแฟน ๆ ดิสนีย์, มาร์เวล หรือแม้กระทั่งสตาร์วอส์ต่างใจจดใจจ่อที่จะใช้บริการ
ล่าสุด เอไอเอสก็ได้สิทธิ์ในการถ่ายทอดการแข่งขัน ‘ไทยลีก 2021-2022’ อีกด้วย โดยในรอบเกือบ 10 ปีที่ผ่านมา ‘True Visions’ คือผู้ได้สิทธิ์ถ่ายทอดการแข่งขัน ฟุตบอลไทยลีก ก่อนที่จะเกิดการระบาดของ COVID-19 ทำให้การแข่งขันต้องเลื่อนออกไป และเกิดกรณีดราม่าระหว่าง True Visions กับ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย จนสุดท้าย True Visions ก็เลือกที่จะไม่ต่อสัญญาฤดูกาล 2021-2022
จริง ๆ แล้วในฤดูกาล 2021-2022 ผู้ที่ได้สิทธิ์ในการถ่ายทอดการแข่งขันคือ เซ้นส์ เอนเตอร์เทนเมนท์ จำกัด อย่างไรก็ตาม ยังไม่ทันที่จะเริ่มฤดูกาลก็เกิดดราม่าอีกรอบ โดยสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ออกแถลงการยกเลิกสัญญาการถ่ายทอดการแข่งขันฉบับดังกล่าว โดยอ้างว่า เซ้นส์ฯ ไม่วางหนังสือค้ำประกันจากธนาคารตามที่ตกลง ส่วน เซ้นส์ฯ เองตอบโต้ว่า ยังอยู่ระหว่างเจรจาเงื่อนไขบางประการกับสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ
จากปัญหาดังกล่าว ทำให้สิทธิ์ในการถ่ายทอดการแข่งขันไทยลีกต้องว่างไป และ True Visions ก็กลายเป็นตัวเต็งที่จะกลับมาคว้าสิทธิ์ถ่ายทอด โดยช่วงวันที่ 4 สิงหาคมมีข่าวว่าทรูเองก็ได้เปิดโต๊ะเจรจากับสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ด้วย แต่สุดท้ายแล้วกลับกลายเป็นเอไอเอสที่ ปาดหน้า คว้าสิทธิ์ไปครอง โดยถ่ายทอดสดผ่านแอปพลิเคชัน AIS Play บนโทรศัพท์มือถือ, กล่อง AIS Playbox, Samsung Smart TV, Apple TV และเว็บไซต์ aisplay.ais.co.th ที่สำคัญ ชมฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายได้ทุกเครือข่าย
ไม่รู้ว่าภาพของ ‘King of Sports’ ที่ทรูพยายามสื่อสารนั้นสั่นคลอนไปมากน้อยแค่ไหน เพราะแม้จะไม่มีไทยลีกในมือ แต่ยังมีลิขสิทธิ์ของ ‘พรีเมียร์ลีก’ นอกจากนี้ยังมี ลาลีกา, กัลโช่เซเรีย อา, ลีกเอิง และบอลถ้วยยุโรป ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก, ยูฟ่ายูโรปาลีก, ยูฟ่าซูเปอร์คัพ และ เอฟเอคัพ แต่แน่นอนว่า ไม่ฟรี โดยมีค่าแพ็กเกจ 399 บาท/เดือน ลูกค้าทรู 299 บาท/เดือน และแพ็กเกจ beIN ราคา 199 บาท/เดือน ลูกค้าทรู 119 บาท/เดือน
แจกมือถือ 5G หมัดฮุกของทรู
หลายค่ายคาดการณ์ว่า เมื่อสมาร์ทโฟน 5G มีราคาถูกลง การใช้งานจะยิ่งแพร่หลายมากขึ้น อย่างไรก็ตาม แม้เอไอเอสจะมีลูกค้ากว่า 43.2 ล้านราย โดยใช้งาน 5G แล้ว 1 ล้านราย (สิ้นสุดไตรมาส 2) ซึ่งถือว่ายังเป็นสัดส่วนที่ไม่มากนัก เช่นเดียวกันกับทรู 5G ยังมีเพียง 1 ล้านรายเท่านั้น จากลูกค้าในเครือข่าย 31.7 ล้านราย
ดร. ธีรเดช ดำรงค์พลาสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น มองว่า แม้สมาร์ทโฟน 5G จะราคาถูกลงมาก แต่ราคายังอยู่ในระดับสูงกว่า 6,000 บาทขึ้นไป ดังนั้น ทรูจึงแก้ปัญหาด้วยการ ‘แจกมือถือ 5G’ รุ่น Mid-Tier ฟรี หรือรับส่วนลดเพิ่ม 3,000 บาท สำหรับซื้อมือถือ 5G รุ่น High-Tier ให้กับลูกค้าที่ร่วมโครงการ 5G VIP ด้วยการสมัครและชำระค่าบริการแพ็กเกจรายเดือนล่วงหน้าตามที่กำหนด ซึ่งแคมเปญดังกล่าวลากยาวถึงสิ้นปีนี้เลยทีเดียว
ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเอไอเอสหรือทรูต่างก็มีเป้าหมายในการดันผู้ใช้ 5G ให้แตะ 2 ล้านรายภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งอาจต้องรอดูกลยุทธ์จากฝั่งเอไอเอส ว่าจะมีการ ‘ลด แลก แจก แถม’ อะไรมาเขย่าตลาดอีกหรือไม่ แต่ที่น่าหนักใจอาจจะเป็น ‘เบอร์ 3’ ที่หากไม่เร่งทำอะไร ลูกค้าอาจจะค่อย ๆ ถูกดูดหายไปก็ได้