เบญญาภา ปริญณรัฐ ชีวิตมี “เส้น”

อดีตสาวทำงาน คลุกคลีกับงานด้านบริการมาตลอด เธอได้รับโอกาส เปลี่ยนชะตาให้กับบะหมีสำเร็จรูป “ไวไว” ให้กลับมามีชีวิตชีวา ในตำแหน่ง ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายการตลาด บริษัท โรงงานผลิตภัณฑ์อาหารไทย จำกัด

ประสบการณ์ซึ่งล้วนคลุกคลีอยู่กับธุรกิจโรงแรม เริ่มต้นอาชีพคนโรงแรมหลังจากเรียนจบปริญญาโททางด้าน MBA จากประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีพื้นฐานการโรงแรมมาจากการเรียนในระดับปริญญาตรี อาจเป็นเรื่องที่ท้าทายมากสำหรับธุรกิจ Consumer Products

โดยเฉพาะกับสินค้าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ที่ไม่ใช่แค่สินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไป แต่ทุกการเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นล้วนถูกจับตามองจากคนทั้งประเทศ หรือแม้กระทั่งการจะขยับราคาขึ้นเพียง 50 สตางค์ ก็ส่งผลกระทบกับผู้บริโภคได้
ขณะที่การแข่งขันก็มีความรุนแรง แม้ไม่ได้แสดงออกให้คนทั่วไปเห็น แต่การช่วงชิงพื้นที่การจัดจำหน่ายผ่าน Trade Marketing ก็ฟาดฟันกันอย่างไม่มีใครยอมใคร

แต่เบญญาภาได้รับความไว้วางใจนี้มาจากเพื่อนร่วมก๊วนกอล์ฟที่เป็นผู้บริหารระดับสูงของไวไวและในที่สุด เธอยอมรับงานนี้ด้วยความอยากลอง ก่อนกลายเป็นผู้สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับผลิตภัณฑ์ไวไวอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

ภารกิจแรกที่เธอได้รับมอบหมายเมื่อเริ่มต้นงานกับไวไว 3 ปีที่แล้ว ไม่ใช่การสร้างแบรนด์ไวไวให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น แต่เป็นการปรับทีมการตลาดที่มีอยู่ประมาณ 500 คน ซึ่งรวมทั้ง Consumer Marketing และ Trade Marketing ให้ลงตัว

โดยเบญญาภาได้เปิดรับสมัครทีมงานใหม่เข้ามาร่วมงานการตลาด ซึ่งเธอคัดเฉพาะคนรุ่นใหม่จากหลากหลาย Background ไม่ใช่แค่จบสาขาการบริหาร หรือการตลาดเท่านั้น

เธอให้เหตุผลว่า หากเลือกเฉพาะคนที่จบการตลาด มุมมองที่สะท้อนออกมายังแบรนด์ก็ไม่แตกต่างมากนัก หากเลือกคนที่มีมาจากหลากหลายแขนงวิชา พวกเขามีความเชี่ยวชาญต่างกัน และสามารถเพิ่มเติมมุมมองบางมุมที่อาจขาดหายไปได้

ตัวอย่างเช่น ทีมการตลาดของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ควิก ที่เป็นการผสานกันระหว่างทีม 3 คนที่จบทางด้านวิทยาศาสตร์อาหาร นิเทศศาสตร์ และบัญชี

โดยตอนนี้ทีมการตลาดของไวไวอายุอยู่ระหว่าง 23 – 35 ปี ซึ่งถือว่าเป็นทีมงานของคนรุ่นใหม่ ที่เต็มไปด้วยความกระฉับกระเฉงและไฟในการทำงานอย่างแท้จริง

สำหรับเบญญาภา ทักษะสำคัญที่นักการตลาดจำเป็นต้องมี คือ จิตวิทยา เพราะจิตวิทยาจะช่วยให้เข้าใจในบุคคลรอบข้าง ทั้งเจ้านาย ลูกน้อง เพื่อนร่วมงาน และที่สำคัญที่สุด คือ ผู้บริโภค และรู้จักวิธีที่เหมาะสมในการเข้าหาพวกเขา

เมื่อปรับองค์การภายในเป็นที่เรียบร้อย ยังมีอีกจุดหนึ่งที่เบญญาภามองว่าควรต้องทำเป็นการเร่งด่วน คือ การสร้างความสัมพันธ์อันดีกับสื่อมวลชน ซึ่งในอดีต ไวไวไม่เคยเปิดเผยข้อมูลใดๆ กับสื่อมวลชนทั้งสิ้น ทำให้ความเข้าใจบางอย่างผิดเพี้ยนไป

ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ ”ไวไว” มีมากมาย แต่ที่หนักหนาสุดผู้บริโภคหลายคนคิดว่า ไวไว เป็นส่วนหนึ่งของสหพัฒนพิบูล ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป “มาม่า”

เหตุเพราะไวไวไม่เคยใช้วิธีการประชาสัมพันธ์ในการสื่อสารกับสื่อมวลชน ซึ่งเป็นกระบอกเสียงที่จะนำ Brand Message ไปยังผู้บริโภค ดังนั้น เมื่อจัดการเรื่องบุคลากรและทีมการตลาดลงตัว เบญญาภาจึงขอไปยังผู้บริหารระดังสูงในการเป็นตัวแทนทำความรู้จักและพบปะกับสื่อมวลชนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปีหนึ่งจะมีการจัดงานแถลงข่าวเพื่อพูดคุยถึงสิ่งที่ไวไวและแบรนด์อื่นๆ ที่อยู่ใน Portfolio ของบริษัทฯ กำลังดำเนินงานอยู่ รวมทั้งแผนการในอนาคตบางอย่าง

อีกทั้งยังเป็นการป่าวประกาศถึงความเคลื่อนไหวของแบรนด์ให้ผู้บริโภคได้รับรู้อีกด้วย

ส่วนกระบวนการสร้างแบรนด์นั้น ก่อนที่จะลงลึกไปยังบุคลิกของแบรนด์ เบญญาภาอยากตอกย้ำให้ผู้บริโภคเห็นถึงจุดเด่นหลักในทุกรสชาติของไวไวและควิกก่อน

ดังนั้น เธอจึงตัดสินใจออก TVC ที่แสดงให้เห็นถึงจุดแข็งของสินค้าตรง “ความเหนียวนุ่มของเส้น” ก่อนที่จะโปรโมตรสชาติ หรือแม้กระทั่งออกสินค้าตัวใหม่ ตามมาด้วยการรีแบรนด์ ควิก ใหม่ ให้มีบุคลิกที่ชัดเจน และแตกต่างจากไวไวโดยสิ้นเชิง

เกือบสี่ปีที่เบญญาภาเข้ามารับผิดชอบด้านการตลาด แม้จะผลักดันไวไวให้มาไกลจากวันแรกได้มากโข แต่เธอก็ยอมรับว่า ด้วยกำลังการผลิตที่มีอยู่ในปัจจุบันไม่มีทางที่ไวไวจะขยับขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งแทนมาม่าได้

แต่อย่างน้อย เธอก็ได้ทำตามโจทย์ที่ได้รับมอบหมายไว้แต่แรก ที่จะต้องให้แบรนด์ไวไวไม่เลือนหายไปจากความทรงจำของผู้บริโภคสำเร็จอย่างงดงาม และจะทำหน้าที่นี้ต่อไปให้ดีที่สุด

Profile
Name : เบญญาภา ปริญณรัฐ
Education : ปริญญาโททางด้าน MBA จาก Colorado Technical University ประเทศ สหรัฐอเมริกา
Career Highlight : ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายการตลาด บริษัท โรงงานผลิตภัณฑ์อาหารไทย จำกัด