DBS ธนาคารใหญ่สิงคโปร์ ปั้นเเพลตฟอร์มเทรด ‘คริปโต’ ขยาย 20-30% ต่อปี รับดีมานด์พุ่ง

อีกหนึ่งความเคลื่อนไหวสำคัญของ DBS ธนาคารใหญ่สุดในสิงคโปร์เเละเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่เดินหน้าลงทุนในเเพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซีโดยตั้งเป้าขยายฐานลูกค้าโตถึง 20-30% ต่อปี

‘DBS Digital Exchange’ เป็นแพลตฟอร์มซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลหรือคริปโตฯ สำหรับผู้ที่สมัครเป็นสมาชิก เปิดตัวเมื่อเดือนธ.. 2020 ที่ผ่านมา ได้รับกระเเสตอบรับดีเกินคาด โดยเฉพาะกลุ่มนักลงทุนสถาบัน เเละบริษัทด้านการลงทุนต่างๆ ที่หันมายอมรับสกุลเงินดิจิทัลกันมากขึ้น ทำให้ตลาดนี้ขยายตัวขึ้นเรื่อยๆ

จากกระเเสนี้ ทาง DBS Group ประเมินว่า เเพลตฟอร์ม DBS Digital Exchange จะมีจำนวนสมาชิกเพิ่มขึ้น ‘2 เท่าจากปัจจุบันเป็น 1,000 คนได้ ภายในเดือนธ..นี้ และจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องราว 20-30% ต่อปี ในช่วง 3 ปีข้างหน้า

เรามีการเติบโตที่รวดเร็วมากๆ หลังนักลงทุนเริ่มสนใจสกุลเงินคริปโตฯ และสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้นเรื่อยๆผู้บริหารระดับสูงของ DBS กล่าว

โดย DBS เริ่มปรับทิศทางธุรกิจจากธนาคารดั้งเดิมไปสู่วงการคริปโตเคอร์เรนซีอย่างจริงจัง ภายใต้การนำของ ‘Piyush Gupta’ ซีอีโอคนปัจจุบัน ที่ลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีของธนาคาร ตลอด 8 ปีที่ผ่านมา เพื่อรองรับระบบ Cloud Computing และบริการดิจิทัลต่างๆ

ความนิยมสกุลเงินคริปโทเคอร์เรนซีที่เพิ่มขึ้น เป็นความท้าทายของธนาคารในกระแสหลัก ที่ต้องพยายามสร้างสมดุลระหว่างความสนใจของลูกค้าในสกุลเงินดิจิทัล กับความกังวลเรื่องความเสี่ยงด้านกฎระเบียบ

ณ ตอนนี้ DBS เป็นธนาคารรายใหญ่เพียงรายเดียวเท่านั้น ที่ให้บริการด้านคริปโตเคอร์เรนซีอย่างเต็มรูปแบบ โดยมีทั้งเเพลตฟอร์มที่ให้บริการซื้อขายคริปโตฯ การเปลี่ยนสินทรัพย์ให้เป็นโทเคน และบริการรับฝากสินทรัพย์ดิจิทัล

ขณะเดียวกัน จากความนิยมที่มาเเรงไม่หยุด สถาบันการเงินยักษ์ใหญ่หลายแห่ง ก็เริ่มหันมาให้ความสนใจในตลาดคริปโตเคอร์เรนซีมากขึ้น อย่าง Standard Chartered ที่กำลังจัดตั้งบริษัทร่วมทุน เพื่อสร้างแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัล ในสหราชอาณาจักรและยุโรป

โดยการเคลื่อนไหวดังกล่าว เกิดขึ้นพร้อมๆ กับช่วงเวลาที่ธนาคารต่างๆ ต้องการเพิ่มรายได้จากค่าธรรมเนียม เนื่องจากรายได้จากดอกเบี้ย ‘ลดลง’ ท่ามกลางภาวะอัตราดอกเบี้ยต่ำทั่วโลก

DBS Group คาดว่า ธุรกิจใหม่ของบริษัท ซึ่งรวมไปถึงเเพลตฟอร์มอย่าง DBS Digital Exchange เเละแพลตฟอร์ม Carbon Exchange จะสามารถทำรายได้ถึง 350 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในสิ้นปี 2022

 

ที่มา : CNA , Reuters