คนงานในสหราชอาณาจักรราว 2 ล้านคน จะได้รับเงินเดือนที่มากขึ้น โดยจะเริ่มในเดือนเมษายนปีหน้า หลังจากที่มีการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเพื่อแก้ปัญหาเงินเฟ้อ
สหราชอาณาจักรเตรียมค่าแรงขั้นต่ำต่อชั่วโมง สำหรับผู้ที่มีอายุ 23 ปีขึ้นไป โดยจะเพิ่มขึ้น 6.6% เป็น 9.50 ปอนด์ หรือราว 430 บาท โดยการเพิ่มขึ้นของค่าครองชีพนั้น คิดเป็น สองเท่า ของอัตราเงินเฟ้อในปัจจุบันที่ 3.1% อย่างไรก็ตาม เหล่านักวิเคราะห์มองว่ายัง ไม่เพียงพอ เนื่องจากคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะพุ่งสูงขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า และรัฐบาลกำลังลดสวัสดิการสำหรับผู้มีรายได้น้อยในขณะที่ขึ้นภาษีแรงงาน
ขณะที่ครัวเรือนที่มีรายได้ต่ำ ยังต้องเผชิญกับรายจ่ายในสัดส่วนที่สูงขึ้นเนื่องจากค่าใช่จ่ายด้านที่พุ่งสูงขึ้น โดยหน่วยงานกำกับดูแลภาคก๊าซและไฟฟ้าของสหราชอาณาจักรประกาศเมื่อเดือนสิงหาคมว่า ขีดจำกัดราคาปกป้องบ้านจากบิลที่พุ่งขึ้นสูงถึง 15 ล้านครัวเรือน จะเพิ่มขึ้นถึง 13% ในเดือนนี้ หลังจากที่ราคาก๊าซธรรมชาติสร้างสถิติใหม่
Nye Cominetti นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสด้านนโยบายเศรษฐกิจคิดว่า การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำถือเป็นเรื่องที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้มีรายได้น้อยที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากการระบาดใหญ่ของ COVID-19 แต่มองว่า การปรับขึ้นราคาเดือนเม.ย. ปี 65 อาจทำให้มูลค่าดูน้อยลง เนื่องจากเมื่อถึงช่วงเวลาดังกล่าว อัตราเงินเฟ้อน่าจะมากกว่า 4%
นักเศรษฐศาสตร์บางคนคาดว่า เงินเฟ้อน่าจะพุ่งสูงขึ้นไปอีก โดย Huw Pill นักเศรษฐศาสตร์ชั้นนำของ Bank of England กล่าวกับ Financial Times เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า เขา “จะไม่ตกใจ” ที่อัตราเงินเฟ้อจะอยู่ที่ 5% ในต้นปีหน้า ดังนั้น ค่าจ้างที่สูงขึ้นจะไม่ชดเชยอย่างเต็มที่ สำหรับการลดลงของสวัสดิการรัฐบาลสำหรับผู้มีรายได้ต่ำ โดยลดลง 20 ปอนด์ หรือราว 920 บาทต่อสัปดาห์
Tom Waters นักเศรษฐศาสตร์วิจัยอาวุโสขององค์กรวิจัย Institute for Fiscal Studies กล่าวว่า คนงานเต็มเวลาที่ได้รับค่าแรงขั้นต่ำจะได้รับรายได้เพิ่มขึ้นมากกว่า 1,000 ปอนด์ หรือราว 46,000 บาทต่อปี