แม้จะมีปัญหาเรื่องการขาดแคลนชิป แต่ผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ของ ‘เสียวหมี่’ (xiaomi) ยังคงเติบโตทั้งรายรับและกำไร โดยได้รายได้จากการให้บริการอินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้นสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ ทำให้มีกำไรที่สูงขึ้น โดยปัจจุบันจำนวนผู้ใช้งานต่อเดือนของ MIUI ทั่วโลกเพิ่มขึ้นเกินกว่า 500 ล้านราย
ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2564 รายรับรวมของเสียวหมี่อยู่ที่ 7.81 หมื่นล้านหยวน (ราว 4 แสนล้านบาท) เติบโตขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า 8.2% และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 5.2 พันล้านหยวน (ราว 2.7 หมื่นล้านบาท) โดยเติบโตขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า 25.4%
ในฝั่งของ สมาร์ทโฟน ยังคงครองตำแหน่งอันดับ 3 ของโลก โดยมียอดขาย 43.9 ล้านเครื่องทั่วโลก แม้ว่าจะเกิดวิกฤตขาดแคลนชิ้นส่วนในการผลิตทั่วโลก มีส่วนแบ่งการตลาดที่ 13.5% โดยมีรายได้จากการขายสมาร์ทโฟนอยู่ที่ 4.78 หมื่นล้านหยวน (ราว 2.4 แสนล้านบาท) ทั้งนี้ ยอดส่งมอบสมาร์ทโฟนของเสียวหมี่ที่มีราคา 3,000 หยวน (ราว 16,000 บาท) มีสัดส่วนประมาณ 18 ล้านเครื่อง หรือคิดเป็น 12% ของยอดส่งมอบทั้งหมดเติบโตขึ้น 180% โดยเสียวหมี่จะยังรุกตลาดพรีเมียมต่อไป
ด้านรายได้จากการให้บริการอินเทอร์เน็ตรายไตรมาสเพิ่มขึ้นสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยมีรายได้กว่า 7.3 พันล้านหยวน (3.8 หมื่นล้านบาท) เติบโตขึ้น 27.1% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า ผลกำไรขั้นต้นของธุรกิจด้านบริการอินเทอร์เน็ตนั้นอยู่ที่ 73.6% สูงขึ้นกว่าไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 13.1%
โดยฐานผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตของเสียวหมี่ทั่วโลกยังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว มีจำนวนผู้ใช้งานต่อเดือนของ MIUI ทั่วโลก สูงเกินกว่า 500 ล้านรายเป็นครั้งแรก เพิ่มขึ้น 32% ในส่วนของธุรกิจโฆษณามีรายได้ 4.8 พันล้านหยวน (ราว 2.5 หมื่นล้านบาท) เพิ่มขึ้น 44.7% เสียวหมี่มีรายรับจากธุรกิจเกมอยู่ที่ 1 พันล้านหยวน (5.2 พันล้านบาท) เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า 25% จากการนำเสนอเกมคุณภาพสูง อีกทั้งรายได้เฉลี่ยจากเกมต่อผู้ใช้ (ARPU) จากกลุ่มผู้ใช้สมาร์ทโฟนระดับพรีเมียมและเกมมิ่งสมาร์ทโฟนสูงขึ้นอีกด้วย
“ช่วงไตรมาสที่ 3 เสียวหมี่ยังคงเดินหน้าเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับกลยุทธ์หลัก “Smartphone × AIoT” และรุกหน้าเข้าสู่ตลาดสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียม เสียวหมี่ครองอันดับ 1 ของยอดการจัดส่งสมาร์ทโฟนใน 11 ประเทศและภูมิภาค”
ทั้งนี้ เสียวหมี่ได้ลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนากว่า 9.3 พันล้านหยวน (ราว 4.8 หมื่นล้านบาท) ใน 3 ไตรมาส เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 51.4% โดยในเดือนกันยายน 2564 เสียวหมี่เปิดตัว Xiaomi Smart Glasses แว่นอัจฉริยะ