บทวิเคราะห์ราคาทองคำ จะแตะ 30,000 บาท เมื่อไหร่?

Photo : Shutterstock
หลังจากเมื่อช่วงต้นเดือน พ.ย. ที่ผ่านมาทองคำขึ้นไปเฉียด 29,000 บาทต่อบาททอง นักลงทุนหลายท่านคงเริ่มเฮกันแล้วว่าทองคำจะมีโอกาสพุ่งขึ้นไปถึง 30,000 บาทได้ แต่ดีใจได้ไม่ถึง 2 สัปดาห์ ราคาทองก็โดนทุบกลับมาสู่ระดับ 28,000 บาทอีกครั้ง ในเวลาไม่ถึง 1 สัปดาห์

ได้แค่เฉียด 30,000 แต่ก็ไม่ถึงสักที …..  มี “เจ้ามือ” ที่ไหนกดราคาไว้หรือไม่?

ความหวังที่อยากจะหลุดดอยเป็นต้องหายไป สวดมนต์เท่าไหร่ทองก็ไม่ขึ้นไปถึง 30,000 สักที

หรือจริงๆ แล้วมีใครที่คอยกำหนดราคาทองคำโลกอยู่? “เจ้ามือ” คนนั้นมีอยู่จริงหรือไม่? วันนี้อินเตอร์โกลด์มีคำตอบมาให้คุณ

“หุ้นยังมีเจ้า แล้วทองละมีเจ้า (มือ) ด้วยไหม?” 

หลายคนอาจสงสัย เพราะถึงแม้ว่าในตอนนี้สัญญาณเงินเฟ้อทั่วโลกชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ 

โดยเฉพาะทางฝั่งสหรัฐฯ ที่เงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้นอย่างมาก สาเหตุมาจากการทำ QE อีกทั้งดอกเบี้ยทั่วโลกยังต่ำเตี้ยเรี่ยดิน จากภาวะเศรษฐกิจโลกซบเซา ปัจจัยต่างๆ ชี้นำให้จริงๆ แล้วราคาทองคำควรทะลุ 30,000 ไปนานแล้วด้วยซ้ำ ถึงแม้ล่าสุดทองคำจะขึ้นไปแตะ 29,000 ได้ จากเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่ถูกประกาศออกมาสูงสุดในรอบ 30 ปี 

Photo : Shutterstock

แต่ยืนได้ไม่นานก็โดนทุบลงมาอย่างรวดเร็ว ทำให้ตั้งแต่ต้นปี 2021 จนจะสิ้นปี้นี้ ทองคำไม่เพียงแต่ไม่ทะลุ 30,000 ซ้ำอาจจะปรับตัวเป็นขาลงเสียด้วย…มันเป็นเพราะอะไร

ในความเป็นจริงแล้ว ตลาดทองคำเป็นตลาดที่ถูกจัดว่าใกล้เคียงกับคำว่า Perfectly Competitive Market หรือเป็นตลาดที่กลไกตลาดทำงานอย่างเต็มที่ การขึ้นลงของราคาจึงมีผลต่อการตัดสินใจซื้อ-ขายทองคำของคนในตลาดเป็นอย่างมาก

ดังนั้นการจะมี ‘เจ้ามือ’ ผู้สามารถกำหนดทิศทางของราคาทองคำโลกก็อาจจะเป็นไปได้จริงๆ ลองนึกภาพว่ารายใหญ่ๆ ที่ถือทองคำเอาไว้แต่ยังไม่อยากให้ทองคำรีบขึ้นไปตอนนี้ ก็พอจะมีความเป็นไปได้ที่จะใช้เทคนิคบางอย่างทำให้ทองคำยังขึ้นไม่ได้ แม้ปัจจัยทางเศรษฐกิจหลายๆ อย่างจะเอื้อแค่ไหนก็ตาม

แต่ก็คงจะไม่ใช่เรื่องง่ายขนาดนั้นสำหรับผู้ที่เป็น “เจ้ามือ”

เนื่องจากตลาดทองคำโลกมีมูลค่าทั้งหมดอยู่ที่ 11.7 ล้านล้านดอลลาร์ การที่จะผลักดันราคาให้ไปทางใดทางหนึ่ง สัก 1% ก็ต้องใช้เงินกว่า 1.17 แสนล้านดอลลาร์แล้ว หากนึกภาพไม่ออกว่านั่นคือเงินที่มากมายขนาดไหน ให้นึกเทียบเท่า บริษัท Apple หรือ amazon แบ่งเงินทั้งหมด 10% ของมูลค่าบริษัทมาซื้อทองคำ ซึ่งทั้งสองบริษัทนี้ ติด Top 5 ของบริษัทที่มีมูลค่าสูงสุดในโลก

Photo : Shutterstock

ไม่เพียงแค่นั้น เพราะถึงแม้ว่าจะมี ‘เจ้ามือ’ ที่เกิดใจป้ำและรวยเวอร์อยากจะขยับราคาทองให้ขึ้นซัก 1% จริงๆ มันก็อาจจะไม่สำเร็จ หาก ตลาด’ หรือคนที่ถือทองอยู่แล้วไม่ว่าจะเป็น นักลงทุนรายย่อย รายใหญ่ หรือกองทุนอื่นๆ เขารวมพลังขายทำกำไรขึ้นมาแบบไม่ได้นัดหมาย ราคาที่ดันมา 1% ก็อาจจะกลับไปที่เดิมเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็เป็นได้ 

สรุปคือ รวยมหาศาลอย่างเดียวไม่พอ ต้องอาศัย ‘ปัจจัย’ ที่มากกว่าการโยนเงินปริมาณมากๆ เข้าไปในตลาด ให้ตลาดเป็นคนตัดสิน ซึ่งนี่คือการวัดดวง ถ้าพลาดก็เสี่ยงที่จะขาดทุนมหาศาลได้เช่นกัน

กลับมาที่คำถามว่า แล้วทำไมทองถึงไปไม่ถึง 30,000 สักที ทั้งๆ ที่ปัจจัยต่างๆ ก็ดูเหมือนจะเอื้อให้แล้ว

เศรษฐวัชร์ พุทธทิพย์ นักวิเคราะห์อินเตอร์โกลด์ มองว่าเป็นเรื่องของ การยังไม่ถึงจังหวะเวลาที่เหมาะสม 

เพราะตั้งแต่ต้นปี 2021 เป็นต้นมา เศรษฐกิจโลกกำลังอยู่ในช่วงฟื้นฟูจากวิกฤตโควิด และสหรัฐฯ ก็เป็นหนึ่งในประเทศที่แก้ปัญหาได้ดี และมีแนวโน้มสูงที่จะกลับมาเป็นปกติเป็นประเทศแรกๆ ทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และสินทรัพย์เสี่ยงอื่นๆ มีความน่าสนใจมากกว่าทองคำที่กำลังอยู่ในช่วงพักตัว ประกอบกับท่าทีของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด ที่ได้ส่งสัญญาณว่าจะขึ้นดอกเบี้ยเพื่อลดความร้อนแรงของเงินเฟ้อบวกกับเศรษฐกิจที่มีแววกลับมาฟื้นตัว ส่งผลให้ทองกลายเป็นสินทรัพย์ที่ดูน่าสนใจน้อยลงหรือถูกมองข้ามไป

ซึ่งถ้าถามว่าตอนไหนคือช่วงที่ทองคำจะกลับไปยืนเหนือ 30,000 บาทได้อีกครั้ง ก็ต้องตอบว่าตอนนี้ค่อนข้างจะเป็นไปได้ยาก สาเหตุสำคัญที่ทำให้ทองคำร่วงมาในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาคือ จากการที่นักลงทุนลุ้นกันว่าประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) คนใหม่จะมีส่วนส่งเสริมให้เงินเฟ้อสหรัฐฯ พุ่งสูงเพื่อเปิดทางให้กับทองคำ แต่ผลที่ออกมาก็คือนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟดคนเดิมกลับมาดำรงตำแหน่งสมัยที่ 2 แทน 

Photo : Shutterstock

ซึ่งนายพาวเวลล์มักจะส่งสัญญาณถึงเงินเฟ้อเสมอว่าจะเป็นการมาแค่ชั่วคราว อีกทั้งนโยบายของนายพาวเวลล์ก็ยังส่งเสริมให้การจ้างงานและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจต้องมาเป็นอันดับ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจริง ระดับเงินเฟ้อกลางๆ กับการจ้างงานที่จะกลับมา ก็ยังไม่มีเหตุผลที่ดีพอที่จะให้ทองคำจะกลับมาเป็นขาขึ้นได้เร็วๆ นี้ เจ้ามือที่เราพูดถึงไปเมื่อตอนต้นบทความก็อาจจะยังไม่เอาด้วย ทำให้นักลงทุนที่รอทองคำ 30,000 บาทอีกครั้ง

สิ่งที่ต้องจับตาก็คือเมื่อไหร่ที่เงินเฟ้อกลับมาพุ่งสูงอีกครั้ง และดูภาพรวมของการจ้างงาน และเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ดูจะไปต่อไม่ได้ เมื่อไหร่ก็รอลุ้นกันได้ยาวๆ แต่ในตอนนี้หลังจากราคาทองลงมาจนสู่ระดับ 28,000 บาทอีกครั้ง

หากเมื่อไหร่ราคาทองคำเริ่มหลุด 28,000 บาท หรือหลุดแนวรับสุดท้ายที่เป็นราคาดอลลาร์คือ 1,750 เมื่อไร ครั้งนี้ก็ต้องบอกว่าเราอาจจะได้เห็นการซึมของราคาทองคำระยะยาว อย่างน้อยก็กลายเป็นขาลงไม่ต่ำกว่า 6 เดือน – 1 ปี ก็เป็นได้ครับ

แต่คนที่ติดดอยอยู่ไม่ต้องตกใจไป ยังมีช่วงที่เรายังสามารถลุ้นได้ในประมาณช่วงกลางปี 2565 คือช่วงที่จะมีการสิ้นสุดการพิมพ์เงินของสหรัฐฯ ถ้าถามจังหวะไหนที่จะสามารถหลุดดอยได้ ก็คงจะมีแต่ช่วงนั้น…