“ศุภาลัย” ประเดิมปี’65 เปิดคอนโดฯ “ห้องลอฟต์” ย่านวงศ์สว่าง ทำราคาถูกกว่าทำเล 20%

  • ศุภาลัยเปิดคอนโดฯ แรกของปี 2565 “ศุภาลัย ลอฟต์ รัชดา-วงศ์สว่าง” ชูจุดขาย “ห้องลอฟต์” ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการถูกกว่าทำเลเดียวกัน 20%
  • ตลาดคอนโดฯ เชื่อว่ากลุ่มราคาต่ำ 3 ล้านบาทที่เป็นเรียลดีมานด์ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว ส่วนคอนโดฯ ตลาดบนยังต้องรอพึ่งนักลงทุน

“ไตรเตชะ ตั้งมติธรรม” กรรมการผู้จัดการ บมจ.ศุภาลัย และ “ชัยจักร วทัญญู” ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายสร้างสรรค์และพัฒนาผลิตภัณฑ์ บมจ.ศุภาลัย ร่วมกันแถลงข่าวเปิดตัวคอนโดมิเนียม “ศุภาลัย ลอฟต์ รัชดา-วงศ์สว่าง” คอนโดฯ แรกของบริษัทที่เปิดตัวปี 2565

คอนโดฯ โครงการนี้ตั้งอยู่บน ถ.รัชดาภิเษก ห่างจาก MRT วงศ์สว่าง 1.1 กิโลเมตร เนื้อที่โครงการ 9 ไร่ เป็นอาคารชุด 17 ชั้น 3 ทาวเวอร์ จำนวนห้องชุดรวม 1,309 ยูนิต มูลค่าโครงการรวม 3,200 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 1.7 ล้านบาท เตรียมเปิดพรีเซลวันที่ 22-23 มกราคมนี้

โครงการเรียงเป็นแนวยาวจากถนนเข้าไป 3 ทาวเวอร์

ชัยจักรกล่าวถึงจุดเด่นของโครงการนี้เป็นคอนโดฯ ที่ปรับดีไซน์ให้เหมาะกับคนรุ่นใหม่และชีวิตหลังผ่าน COVID-19 จากการวิจัยของบริษัทพบว่าคนรุ่นใหม่ 56% ต้องการห้องชุดที่ใหญ่ขึ้นเป็น 30-40 ตร.ม. เพราะต้องการพื้นที่ไว้สำหรับทำงานหรือทำกิจกรรมอดิเรกอื่นๆ

ทำให้โครงการศุภาลัย ลอฟต์ รัชดา-วงศ์สว่าง มีไทป์ห้องให้เลือกหลากหลายขึ้น พื้นที่ห้องชุดตั้งแต่ 28-65 ตร.ม. แบบห้อง 1 ห้องนอน, 1 ห้องนอนพลัส และ 2 ห้องนอน

ศุภาลัย ห้องลอฟต์
ห้องลอฟต์ของ ศุภาลัย ลอฟต์ รัชดา-วงศ์สว่าง

รวมถึงไฮไลต์พิเศษของโครงการคือ “ห้องลอฟต์” 48 ตร.ม. ชั้นลอยในห้องไทป์นี้จะได้รับโฉนดตามจริงทั้งชั้นบนและชั้นล่าง ซึ่งหาได้ยากในตลาด โดยห้องลอฟต์มีเพียง 24 ยูนิตเท่านั้น

ไตรเตชะกล่าวถึงจุดแข็งของโครงการคือ “ราคา” ที่ทำได้ถูกกว่าในย่านประมาณ 20% โดยราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 65,000 บาทต่อตร.ม. เทียบกับคอนโดฯ ที่เปิดขายช่วงปี 2560-64 ในทำเลบางซื่อ-วงศ์สว่าง-ติวานนท์ จะอยู่ในช่วงราคา 78,000-95,000 บาทต่อตร.ม. ในแพ็กเกจราคาใกล้เคียงกัน ลูกค้าจะได้ห้องขนาดใหญ่กว่า

ส่วนทำเลที่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้า ทางโครงการมีชัตเติลบัสรับ-ส่ง และมีที่จอดรถ 53% ของจำนวนยูนิต ทำให้ตอบโจทย์กับกลุ่มคนเมืองที่ใช้รถยนต์ด้วย โดยทำเลโครงการอยู่ใกล้กับทางขึ้น-ลงทางด่วน

แม้จะได้รับผลกระทบบ้างจากการระบาดของไวรัสโรค COVID-19 สายพันธุ์โอมิครอน แต่จากยอดลงทะเบียนล่วงหน้า คาดว่าจะเห็นยอดพรีเซล 40-50% ได้ภายใน 2 เดือน

 

ตลาดคอนโดต่ำกว่า 3 ล้านบาทผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว

ไตรเตชะกล่าวต่อถึงสถานการณ์ตลาดคอนโดมิเนียม มองว่าควรมองแยกออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มคอนโดฯ ราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท และ คอนโดฯ ราคามากกว่า 3 ล้านบาท

ศุภาลัย ห้องลอฟต์
บรรยากาศห้องชุดพื้นที่ 35 ตร.ม. แบบหน้ากว้าง โครงการศุภาลัย ลอฟต์ รัชดา-วงศ์สว่าง

โดยตลาดราคาไม่เกิน 3 ล้านบาทเป็นตลาดที่คนส่วนใหญ่อยู่อาศัยจริง หลายรายซื้อเพื่อเป็นบ้านหลังแรก ขณะที่ตลาดคอนโดฯ ราคามากกว่า 3 ล้านบาท ส่วนใหญ่ซื้อเป็นบ้านหลังที่สอง และเป็นนักลงทุนจำนวนมาก โดยเฉพาะนักลงทุนต่างชาติ

จากการสำรวจตลาดหลัง COVID-19 ระบาด พบว่า ปี 2564 ทั้งยอดเปิดตัวโครงการใหม่และยอดขายคอนโดฯ ต่ำ 3 ล้านบาทฟื้นตัวขึ้นแล้วจากปี 2563 โดยมีอัตราการขาย 65-70%

สะท้อนให้เห็นว่าผู้ซื้อที่ต้องการซื้ออยู่เองมีความต้องการ เพียงแต่บริษัทต้องพัฒนาให้ตอบโจทย์ให้ได้ นั่นคือต้องทำราคาอยู่ในช่วงไม่เกิน 3 ล้านบาท ได้ห้องใหญ่ 30-40 ตร.ม. และใกล้สถานีรถไฟฟ้า

 

ลูกค้านักลงทุนยังเงียบยาว

กลับกันกับคอนโดฯ ราคามากกว่า 3 ล้านบาท ไตรเตชะกล่าวว่ายังค่อนข้างขายยาก เนื่องจากลูกค้าที่เป็นนักลงทุนจะต้องการซื้อเมื่อได้ ‘ดีล’ ราคาดีเท่านั้น รวมถึงนักลงทุนต่างชาติหายจากตลาด จากก่อน COVID-19 มีสัดส่วนผู้ซื้อชาวต่างชาติถึง 20-25% แต่เมื่อปี 2563-64 ลดลงมาเหลือ 5-6%

ปี 2565 นี้สำหรับคอนโดฯ ตลาดบนก็น่าจะยังไม่กระเตื้องมากนัก โดยนักลงทุนต่างชาติหลักคือ “ชาวจีน” ไม่น่าจะเดินทางออกนอกประเทศได้เร็ว ตามนโยบายของรัฐบาล แต่อาจมีลุ้นในช่วงปลายปีนี้อาจจะกลับออกมาได้ตามปกติ หากไม่มีการระบาดใหญ่ทั่วโลกอีก

โดยภาพรวมตลาดคอนโดฯ ไตรเตชะเชื่อว่าปีนี้น่าจะดีขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท คาดว่าจะเห็นการเปิดตัวโครงการใหม่มากกว่าปีก่อน แต่การฟื้นตัวที่จะไปเทียบเท่าจุดพีคก่อนเกิด COVID-19 ไม่น่าจะได้เห็นภายใน 2-3 ปีนี้อย่างแน่นอน