Bitcoin (บิตคอยน์) สูญเสียมูลค่าเกือบครึ่งหนึ่ง หลังแตะระดับสูงสุดในเดือนพฤศจิกายน 2021 โดยมูลค่าเงินดิจิทัลที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากประเทศเศรษฐกิจหลักทั้งสหรัฐฯ และจีน ต่างพยายามควบคุม หลังกระแส Cryptocurrencies ได้ความนิยมเพิ่มขึ้น
ไม่ใช่แค่ Bitcoin เท่านั้นที่มูลค่าลดลง แต่เรียกได้ว่าแทบ ทั้งตลาดคริปโตฯ ที่เปิดปีมาแบบน่าผิดหวัง โดย Bitcoin ร่วงลงมากกว่า -8% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และซื้อขายที่ 35,479 ดอลลาร์ ณ เวลา 9:30 น. ET ตาม CoinDesk โดยสกุลเงินดิจิทัลที่มีค่าที่สุดในโลก มูลค่าได้ร่วงลงกว่า -20% ตั้งแต่ต้นปี และลดลงเกือบ 50% เมื่อนับระดับสูงสุดในเดือนพฤศจิกายน ที่มูลค่า 68,990 ดอลลาร์
ส่วน Ethereum ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่มีค่าที่สุดเป็นอันดับสองของโลก ร่วงลงมากกว่า -12% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และซื้อขายที่ประมาณ 2,400 ดอลลาร์ ในช่วงเช้าวันเสาร์ ตามรายงานของ CoinDesk นั่นลดลงเกือบ -30% ตั้งแต่เริ่มต้นปีใหม่
นักลงทุนเริ่มกระวนกระวายใจเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลและสินทรัพย์เสี่ยงอื่น ๆ นับตั้งแต่ธนาคารกลางสหรัฐส่งสัญญาณว่าอาจผ่อนคลายมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในเชิงรุกมากกว่าที่คาดไว้ นอกจากนี้ รัฐบาลในหลายประเทศก็เริ่มออกมาปราบปรามเช่นกัน
โดย ธนาคารกลางของรัสเซีย ได้เสนอห้ามการใช้คริปโตฯ และการขุด โดยธนาคารกลางกล่าวว่าสกุลเงินดิจิทัลอาจเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงทางการเงินของประเทศ ขณะที่รัสเซียถือเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการขุดคริปโตฯ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นที่รู้กันว่า จีน ก็มีนโยบายการปราบปรามคริปโตฯ อย่างเต็มรูปแบบโดยห้ามทั้งการซื้อขายและการขุด นอกจากนี้ยังมี อินเดีย ที่กำลังเตรียมที่จะแนะนำร่างกฎหมายที่จะควบคุมสกุลเงินดิจิทัล
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกคนที่มองโลกในแง่ร้าย Goldman Sachs มองว่า ราคาของ bitcoin อาจสูงถึง 100,000 ดอลลาร์ ภายใน 5 ปีข้างหน้า โดยนักวิเคราะห์มองว่า bitcoin จะขโมยส่วนแบ่งการตลาดจากทองคำมากขึ้นในอนาคต