แม้จะไม่ใช่เป็นยักษ์ใหญ่ด้านโฆษณาออนไลน์รายเดียว แต่ธุรกิจโฆษณาของ Google ก็ยังคงเติบโตอย่างรวดเร็วถึง 33% ซึ่งช่วยดันให้ให้ผลประกอบการในไตรมาส 4 เติบโตได้ดีเกินคาด สามารถฟันกำไรได้ถึง 20,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากรายได้ทั้งหมด 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์ และปิดปีที่ 2.57 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ทำยอดขายได้เกิน 2 แสนล้านดอลลาร์
ยอดขายโฆษณาของ Google ช่วงไตรมาส 4 เพิ่มขึ้นเกือบ +33% เมื่อเทียบเป็นรายปี ปิดที่ 6.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีส่วนทำให้รายได้โดยรวมดีขึ้นเกินคาดสำหรับ Alphabet ซึ่งเป็นบริษัทแม่ โดยบริษัทมีผลกำไรประจำไตรมาสที่ 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 30.69 ดอลลาร์ต่อหุ้น โดยมีรายได้รวม 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ดีกว่าที่นักวิเคราะห์ของวอลล์สตรีทคาดการณ์ไว้ ซึ่งส่งผลให้หุ้น Alphabet เติบโตขึ้นมากถึง 8%
ยอดขายโฆษณาที่เพิ่มขึ้นเกิดขึ้นหลังจากที่ธุรกิจประสบกับการเติบโตอย่างรวดเร็วในไตรมาสที่ผ่านมา เนื่องจากผู้คนใช้เวลาออนไลน์มากขึ้นขณะอยู่ที่บ้านในช่วงการระบาดใหญ่ และธุรกิจต่าง ๆ ใช้เงินไปกับโฆษณาออนไลน์มากขึ้นเพื่อเข้าถึงผู้บริโภค แนวโน้มเดียวกันเหล่านี้ดูเหมือนจะทำให้ Big Tech ยิ่งเติบโตมากขึ้นไปอีก
“เป็นที่ชัดเจนว่าผู้ลงโฆษณาจำนวนมากลงงบไปที่การค้นหาและแสดงโฆษณาออนไลน์ และนี่ไม่ใช่แนวโน้มระยะสั้น” ทอม จอห์นสัน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายดิจิทัลระดับโลกของหน่วยงานสื่อ Mindshare Worldwide กล่าว
นอกเหนือจากโฆษณาที่เป็นแหล่งรายได้หลักแล้ว หน่วยอื่น ๆ ของบริษัทก็มีการเติบโตที่แข็งแกร่งเช่นกัน อย่างธุรกิจฮาร์ดแวร์ก็สามารถทำรายได้ 8.1 พันล้านดอลลาร์ (+22%) โดยสมาร์ทโฟน Pixel ของบริษัททำสถิติยอดขายในช่วงวันหยุดที่สำคัญทั้งหมด แม้ ซันดาร์ พิชัย ซีอีโอของ Alphabet จะระบุว่า Google เองก็เจอข้อจำกัดด้านซัพพลายที่เกิดจากปัญหาการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกก็ตาม อย่างไรก็ตาม Google ไม่ได้เปิดเผยตัวเลขของยอดขาย Pixel โดยเฉพาะ
ส่วนธุรกิจระบบคลาวด์ของ Google ทำรายได้ 5.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (+45%) โดยนับตั้งแต่ปี 2019 Google ได้เพิ่มพนักงานขายของระบบคลาวด์มากกว่าสามเท่า ส่วนโฆษณาบน YouTube ทำรายได้ 8.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (+25%)
อย่างไรก็ตาม Google ก็มีบางส่วนที่ติดตัวแดง อาทิ ค่าใช้จ่ายในการเข้าซื้อกิจการของ Google ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่ใช้เพื่อให้ผู้ใช้เข้าสู่แพลตฟอร์มของตนเพิ่มขึ้นประมาณ 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงไตรมาสดังกล่าว นอกจากนี้ รายได้จากส่วนอื่น ๆ ที่ Google เข้าไปลงทุน อาทิ Waymo บริษัทที่เกี่ยวกับรถยนต์ไร้คนขับ มีรายได้ลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบปีต่อปีที่ 181 ล้านดอลลาร์และขาดทุนเกือบ 1.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ