เมื่อต้องจับลูกค้า Gen Y ธุรกิจขายตรงจากอเมริกาอย่างแอมเวย์จะใช้วิธีเดิมๆ ไม่ได้ งานนี้ ต้องควักกระเป๋าทุ่มเงิน 70 ล้านบาท ย้ายช็อปในห้างเซ็นทรัลชิดลม มาเปิดเป็น Flagship Store ในห้างสรรพสินค้าบนถิ่นวัยรุ่นอย่างสยามดิสคัฟเวอรี่ แม้ว่าห้างนี้จะไม่คึกคักมากนัก แต่ด้วยขนาดพื้นที่ 1,200 ตารางเมตร บนชั้น 3 ของห้างฯ เป็นรองแค่พิพิธภัณฑ์มาดามทุสโซ่ กรุงเทพฯ ที่มีพื้นที่ 3,000 ตารางเมตร ช็อปแห่งนี้เลยเป็น Flagship Store แห่งแรก ซึ่งมีพื้นที่ใหญ่กว่าแอมเวย์ช็อปทั่วไปเฉลี่ย 2-3 เท่า และกลายเป็นช็อปที่มีพื้นที่ใหญ่ที่สุดในสยามดิสคัฟเวอรี่
ปรีชา ประกอบกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด บอกว่า ถึงแม้เวลานี้กลุ่ม Gen X และ Baby Boomer หรืออายุ 35-50 ปีขึ้นไป จะยังเป็นลูกค้ากลุ่มหลักด้วยสัดส่วน 65% แต่กลุ่มคนรุ่นใหม่ ซึ่งมีอายุ 18-33 ปี หรือกลุ่ม Gen Y เป็นกลุ่มสำคัญ ที่เป็นแรงผลักดันให้ธุรกิจของแอมเวย์เติบโต และเป็นกลุ่มที่สนใจเข้ามาทำธุรกิจขายตรงจำนวนมาก โดยมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นจาก 29% เป็น 35%
การลงทุนมีช็อปในห้างฯ หรูแบบนี้ แอมเวย์มองผลลัพธ์หลายอย่าง อย่างแรก ช่วยเรื่องสร้างการรับรู้แบรนด์ หรือ Brand Awareness และทำให้แบรนด์แอมเวย์ได้ใกล้ชิดกับคนรุ่นใหม่ ซึ่งมีไลฟ์สไตล์ชื่นชอบการใช้ชีวิตในศูนย์การค้า และการช้อปปิ้ง
ช็อปใหม่นี้ มีไว้เพื่อเป็นช่องทางร้านค้าปลีกไว้ขายสินค้าจากแค็ตตาล็อกแอมเวย์ ทั้งที่เป็นของแอมเวย์เอง และคู่ค้าที่มีทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้า สินค้าแฟชั่นและสินค้าอุปโภคบริโภค ในพื้นที่ขนาดใกล้เคียงกับคอนวีเนี่ยนสโตร์ขนาดกลาง
นอกจากยังมีพื้นที่สาธิตสินค้าราคาแพง อย่าง เครื่องกรองน้ำอีสปริง และเครื่องกรองน้ำแอทโมสเฟียร์ ยังมีโซนโอกาสธุรกิจ โซนบริการทางธุรกิจ โซนแอมฟิตคลับ โซนการตรวจสุขภาพและความงามให้นักธุรกิจแอมเวย์ไว้พบปะกับสมาชิก ซื้อขายและทำกิจกรรม
การมีช็อปบนห้างหรูแบบนี้ ยังเป็นช่องทางที่สร้าง Brand Visibility ทำให้เกิด Brand Experience กับลูกค้าได้โดยตรง เพราะการให้ลูกค้ามีประสบการณ์กับแบรนด์เป็นเรื่องสำคัญสำหรับตลาดยุคนี้ แม้แต่ธุรกิจขายตรง และน่าจะมีส่วนช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ ดึงดูดนักธุรกิจแอมเวย์รุ่นใหม่ๆ ให้เข้ามาในเครือข่ายขายตรงแบบ MLM ซึ่งยังเป็นช่องทางขายที่จำเป็นของแอมเวย์ได้ง่ายขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาแอมเวย์ก็โดนโจมตีเกี่ยวกับระบบ MLM มาแล้ว
ตามแผนที่วางไว้ แอมเวย์ช็อปจะเปิดเพิ่มอีก 10 แห่งภายในปี 2554 นี้ ด้วยงบ 140 ล้านบาท จากปกติจะเปิดเพียงปีละ 3-4 แห่งเท่านั้น เน้นการออกแบบจะเน้นความทันสมัยสไตล์ “เทรนดี้ช็อป” จากปัจจุบันมีอยู่แล้ว 48 แห่ง แบ่งเป็นสาขาในกรุงเทพฯ และปริมณฑล 9 แห่ง และสาขาในต่างจังหวัดอีก 39 แห่งโดยภายใน 5 ปีตั้งเป้าที่จะเปิดครบทุกจังหวัด
การขยายแอมเวย์ช็อป นับเป็นส่วนหนึ่งในยุทธศาสตร์สำคัญที่จะทำให้แอมเวย์มีผลประกอบการ 20,000 ล้านบาทภายในปี 2555 และเป็นแนวทางเดียวกับอีกหลายประเทศแม้จะเรียกขานต่างกัน เช่น ฮ่องกง ที่มี Amway Showroom and Merchandising Centre และอังกฤษมี Amway Experience Center เป็นต้น