WhatsApp..แชตกระจาย

“บีบีเอ็ม” ต้องหลบไป เมื่อ “WhatsApp” แอพพลิเคชั่นสื่อสารยอดฮิตบน “สมาร์ทโฟน” กำลังสร้าง “ปรากฏการณ์ใหม่” ในโลกการแชต ที่เคยถูกครองตลาดด้วย “บีบี” อาจต้องเปลี่ยนแปลง

เมื่อ WhatsApp ทำให้การใช้งานข้ามระบบหรือแพลตฟอร์มที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็น บีบี ไอโฟน แอนดรอยด์ และโนเกีย “แชต” หากันได้ เพียงแค่โหลดโปรแกรม เท่านั้นก็ใช้งานได้ทันที ผ่านเบอร์มือถือ ด้วยแพ็กเกจดาต้าปกติ ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม

ไม่ต้องแปลกใจ หากวันนี้คุณจะเจอคำถามจากคนรอบข้าง “เล่น WhatsApp หรือยัง” เหมือนอย่างที่ยุคก่อนที่เคยมีเพื่อนๆ ถามว่า “มีพินหรือเปล่า” หรือมี “เอ็มหรือยัง”

“ผมกับแฟนไม่ค่อยได้คุยกันหรอก สื่อสารกันผ่าน WhatsApp ไม่ก็ Facebook เพราะว่างไม่ตรงกันเสียที”

“กับแฟนไม่ค่อยได้คุยเหมือนกันอ่ะ ส่วนมากก็คุยเอ็ม ว้อทแอ๊บ บีบี ตามเรื่อง รวมทั้งเพื่อนๆ ด้วยนะคะ เออ.. สมัยนี้เปลี่ยนไปกว่าสมัยก่อนจริงๆ”

“มันประหยัดดีออกครับผมว่า บางคนคุยโทรศัพท์แล้วมันเขิน คุย BB มีเวลาคิดคำที่จะคุยหยอกล้อเล่น มันเป็นความสุขอีกแบบนะครับ ผมก็ชอบคุยผ่าน WhatsApp”

นี่คือบางส่วนของข้อความจำนวนมากที่ถูกโพสต์บนเว็บพันทิป เมื่อมีคนตั้งกระทู้ถาม สื่อสารกับแฟน

ข้อความเหล่านี้ สะท้อนชัดเจนถึงพฤติกรรมของคนไทยยุคสมาร์ทโฟน ที่ได้เปลี่ยนจากพูดคุยมาเป็นการ “แชต” หากัน ผ่านโปรแกรมยอดฮิตต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น BBM (BlackBerry Massaging) การส่งข้อความผ่านเฟซบุ๊ก รวมถึงแอพฯ ล่าสุดอย่าง WhatsApp ที่ได้กลายเป็น แอพฯ ด้านสื่อสารยอดนิยมที่กำลังมาแรงที่สุดเวลานี้

“เพื่อนๆ เวลานี้ 80% ใช้ WhatsApp พอเพื่อนใช้กันเยอะเราก็ต้องใช้ ทำให้เราคุยกันที่เดียว คนที่มีบีบีก็ยังเปลี่ยนคุยบนนี้ เพราะเขาคุยกับไอโฟนได้ การทำงาน WhatsApp ก็เหมือนกับ BBM ส่งข้อมูลที่เป็น Text รูปภาพ รู้ว่าเขาเปิดอ่านหรือเปล่า อีกอย่างเราไม่ต้องเสียเงิน เสียเป็นแพ็กเกจดาต้า ยิ่งเป็นแบบ Unlimited ก็ยิ่งคุ้ม คนเลยใช้เยอะ” อรรถวุฒิ เวศรานุรักษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท adapter digital ดิจิตอล เอเยนซี่ บอกเล่าสาเหตุที่ทำให้เขาเปลี่ยนมาใช้ WhatsApp

กติกา สายเสนีย์ Invention Director (Digital) บริษัท มายด์แชร์ ประเทศไทย เจ้าของเว็บเก่งดอทคอมเขาเชื่อว่า นี่คือการปฏิวัติตลาดสมาร์ทโฟน เพราะทุกวันนี้เขาและทีมงานรวมถึงเพื่อนๆ ใช้ WhatsApp ในการแชตคุยงานสื่อสารกันเป็นหลัก เพราะความง่าย และสะดวก ใช้งานข้ามแพลตฟอร์มได้ คนใช้บีบี ก็ติดต่อไอโฟนได้ และไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม

ส่งผลให้ค่าใช้จ่าย ค่าแอร์ไทม์ที่ใช้โทรศัพท์ลดลงจากเดิมที่ต้องจ่ายหลัก 1,200 -1,400 บาทต่อเดือน เหลือ 800 บาท ที่เหลือเป็นแพ็กเกจดาต้าแบบ Unlimited ซึ่งเสียอยู่ราว 600-700 บาท ซึ่งกลายเป็นการสื่อสารหลักในชีวิตประจำวันไปแล้ว

“ค่าโทรลดลงไปทันที เพราะ WhatsApp ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มมันเป็นการใช้ดาต้า ซึ่งผมก็ เสียเป็นค่าแพคเกจดาต้า ที่ผมใช้ประจำอยู่แล้วผมว่างานนี้โอปะเรเตอร์โทรศัพท์มือถือคงต้องคิดหนัก” เก่ง สะท้อนความเห็น

นีคือตัวอย่างการเปลี่ยนแปลง อันเป็นผลมาจากการเลือกใช้ WhatsApp ในการสื่อสาร ที่ส่งผลต่อค่าใช้จ่ายในการโทรศัพท์ลดลงอย่างเห็นได้ชัด

ในขณะที่ ผู้บริหารโทรศัพท์มือถือทั้ง 3 ค่ายเอง ก็สัมผัสถึง ปรากฎการณ์ของ WhatsApp ที่เกิดขึ้นรอบตัวเขา ที่และผลักดันให้ WhatsApp เป็นหนึ่งใน แอพพลิเคชั่นที่พวกเขาใช้ในการสื่อสารกับคนรอบข้าง

“เพื่อนๆ คนรู้จักกว่า 35% ใช้ WhatsApp แชตหากันแล้ว น้องๆ ที่ทำงาน หรือคุณอาผม อายุ 63 ปี ก็ใช้ WhatsApp แชตกับเพื่อนๆ เขา เป็นเพราะความง่ายและใช้ได้ทุกแพลตฟอร์ม ก็เลยถูกบอกต่อ” ปกรณ์ พรรณเชษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายผลิตภัณฑ์ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) บอกถึงความนิยม WhatsApp ที่เขาสัมผัสได้โดยตรง

“ส่วนตัวผมเล่นทุกวัน ไว้แชต จะมีทั้งเพื่อน ลูกน้อง และติดต่อธุรกิจกับพาร์ตเนอร์ ความสวยงามของ WhatsApp ความสะดวก และง่าย พอโหลดแอพฯ แล้ว จะไปดึงโทรศัพท์เพื่อนที่เราบันทึกไว้ในคอนแทร็กลิสต์เลยว่า มีใครที่มี WhatsApp อยู่บ้าง” พิรุณ ไพรีพ่ายฤทธิ์ ผู้อำนวยการ สายงานบริการมัลติมีเดียและการตลาด บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น

ส่วนกรณีของปรัธนา ลีลพนัง ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานบริการเสริม บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส ที่เคยใช้แล้วหยุดใช้ไป แต่ในที่สุดต้องกลับมาใช้ WhatsApp “เราไม่ได้พูดว่าชอบหรือไม่ชอบ แต่สุดท้ายเมื่อเพื่อนๆ ใช้เราก็ต้องใช้ แม้แต่ผู้ใหญ่ในบริษัทยังถามว่าใช้หรือยัง เป็นภาวะของอิทธิพลของการบอกต่อ Viral Effect”

ปรากฏการณ์ความนิยมของ WhatsApp ที่แซงหน้าแอพฯ สื่อสารอื่นๆ จนกลายเป็นแอพฯ ยอดนิยมที่ผู้ใช้สมาร์ทโฟนต้องมีไว้แชตประจำเครื่อง มาจากจุดเด่นในด้านต่างๆ ที่นักพัฒนาแอพพลิเคชั่นบนมือถือ ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือจากเอไอเอส ดีแทค และทรู ได้ให้ข้อสรุป ไว้อย่างน่าสนใจ

เรียนรู้จาก BBM คนไทยจำนวนหนึ่ง โดยเฉพาะลูกค้าระดับไฮเอ็นท์ ได้เรียนรู้การใช้บริการ “แชต” มาจากบริการ BBM หรือ BlackBerry ซึ่งประสบความสำเร็จในการทำตลาด จนทำให้บีบีแพร่หลายในหมู่นักแชต วัยรุ่น คนรุ่นใหม่ เมื่อ WhatsApp ออกแบบบริการ ให้ใช้งานได้ไม่ต่างจาก BBM ที่สามารถใช้แชตระหว่างบุคคลหรือแชตเป็นกลุ่ม แต่ทำได้มากกว่า BBM ที่จำกัดการใช้งานเฉพาะเครื่อง BlackBerry ด้วยกันเท่านั้น

Cross Platform แม้ว่า BBM จะสร้างความต้องการ “แชต” ขึ้นมาในตลาด แต่ก็จำกัดการใช้งานเฉพาะผู้ที่มีเครื่อง BlackBerry เท่านั้น และยังต้องเสียค่าบริการในการใช้ จนเมื่อ WhatsApp เปิดตัวออกมา ซึ่งมีฟังก์ชันการใช้งานคล้ายกับ BBM แต่ WhatsApp ทำให้มือถือทุกแพลตฟอร์ม หรือทุกระบบปฏิบัติการ ไม่ว่าจะเป็น บีบี ไอโฟน แอนดรอยด์ และโนเกีย ใช้งานร่วมกันได้ และไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น เป็นอีกจุดขายสำคัญที่ทำให้ WhatsApp ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ไม่ใช่แค่ไอโฟน แอนดรอยด์เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงผู้ใช้ BlackBerry เองก็หันมาใช้ WhatsApp แทน BBM ซึ่งเป็นปรากฎารณ์ที่เกิดขึ้นแล้วเวลานี้

ความง่าย ในการติดตั้งและใช้งานไม่ต้องยุ่งยาก เป็นอีกแรงจูงใจสำคัญที่ทำให้ WhatsApp ได้รับความนิยม ด้วยการผูกไว้กับเบอร์โทรศัพท์ของผู้ใช้ โดยทันทีที่ผู้ใช้โหลดโปรแกรมลงเครื่องระบบเซิร์ฟเวอร์ของ WhatsApps จะค้นหาเลขหมายโทรศัพท์ หรือ Contract List ที่อยู่ในโฟนบุ๊กของสมาร์ทโฟนโดยอัตโนมัติว่ามีใครใช้ WhatsApp บ้าง ระบบจะเชื่อมต่อและใช้งานได้ทันที โดยไม่มีข้อจำกัดต้องแลก Pin เหมือนบีบี และไม่ต้องลงทะเบียนหรือต้อง Add รายชื่อเอง และเมื่อมีคนใช้ WhatsApp เพิ่มระบบอัพเดตให้อัตโนมัติ

เสียค่าใช้จ่ายถูก เนื่องจากข้อความจะถูกส่งผ่านระบบอินเทอร์เน็ต การใช้งานจึงไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มนอกจากค่าอินเทอร์เน็ตที่เสียอยู่แล้วตามแพ็กเกจดาต้าของผู้ใช้โทรศัพท์ และทำให้ติดต่อกับเพื่อนหรือเครือข่ายสังคมได้ตลอดเวลาในรูปแบบของข้อความ ซึ่งสามารถส่งได้ทั้งที่เป็น Text และรูปภาพ ในขณะที่การแชตของบีบีต้องเสียค่าบริการค่อนข้างแพง แต่ Whatsapp ซึ่งใช้งานได้ไม่ต่างกันนัก ทำให้ค่าใช้จ่ายในการสื่อสารน้อยลง

โหลดฟรี เป็นอีกจุดขายของ WhatsApp ที่ผู้ใช้บีบีและแอนดรอยด์โหลดมาใช้งานได้ฟรี แต่ถ้าไอโฟน เสียค่าโหลดจากแอพสโตร์ครั้งแรก 99 เซ็นต์ แต่ก็ครั้งเดียว คิดเป็นเงินไทยก็แค่ 30 บาท นอกจากนี้โนเกียก็ใช้ WhatsApp ได้แล้ว

Viral Effect จุดเด่นอีกข้อที่สิทธิพล พรรณวิไล หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ เนย ตั้งข้อสังเกต ไว้ คือ บริการที่เกี่ยวข้องกับการสื่อสาร จะมีเส้นทางการเติบโตคล้ายกันคือ “การบอกต่อ” เช่นเดียวกับที่ MSN Messenger และ BBM เติบโตขึ้นได้ด้วยคำถามสั้นๆ ว่า “เธอมีเอ็มรึเปล่า” หรือ “เธอมีพินรึเปล่า” เช่นเดียวกันกับที่ Whatsapp หลังจากเริ่มมีคนใช้ระดับหนึ่งก็เริ่มมีคนถามแล้วว่า “เล่นWhatsappรึเปล่า” ดึงดูดคนรอบข้างให้มาใช้ ส่งผลให้เป็นที่นิยมขึ้นเรื่อยๆ อย่างทุกวันนี้

มาได้ถูกที่ถูกเวลา ปรัธนา เอไอเอส มองว่า WhatsApp มาในจังหวะเวลาที่เหมาะสม รองรับกับความต้องการในเรื่อง “แชต” ได้พอดี โดยเฉพาะในตลาดไอโฟน

“ถ้า WhatsApp เข้ามาในช่วงไอโฟนมีคนใช้น้อยๆ ก็ไม่เวิร์ค เพราะมีคนจำนวนหนึ่งที่อยากใช้ไอโฟน แต่ต้องเลือกบีบีเพราะต้องเอาไว้ แชต หรือบีบีเอ็มกับเพื่อน การมาของ WhatsApp เลยตอบโจทย์ความต้องการแชตที่ขาดหายไปของไอโฟน ความนิยมก็เลยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว”

ด้วยจุดเด่นในด้านต่างๆ เหล่านี้เอง ทำให้ Whatsapp ตอบโจทย์การแชตจนได้รับความสนใจและใช้งานในวงกว้าง ทั้งจากผู้ใช้ไอโฟน แอนดรอยด์ หรือแม้แต่ผู้ใช้บีบีเองก็เปลี่ยนมาใช้งาน Whatsapp แล้ว

เฉพาะแค่ดีแทค ปกรณ์ บอกว่า ถ้าประเมินจากตัวเลขสมาร์ทโฟนในเครือข่ายดีแทค (ไม่รวมระบบซิมเบียนของโนเกีย) เขาคาดว่าจะใช้ WhatsApp อยู่ราวๆ 8 แสนเครื่อง อนาคตเขาคาดว่าจะเพิ่มเป็น 1.5 – 2 ล้าน ตามการขยายตัวของสมาร์ทโฟน

“ตัว WhatsApp จะไปได้แค่ไหน เราก็ยังไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ เป็นตัวแชตที่ใหญ่ที่สุด ไม่ต้องโปรโมตเลย คนเริ่มใช้กันเอง และมากันเอง และเห็นเลยว่า พอผมอินสตอรครั้งแรก ผมเห็นเลยว่า 20% ของเพื่อนๆ ผม มันเห็นเลยว่า ป๊อปปูล่าร์ขนาดไหน” ปกรณ์บอก

คุณล่ะใช้ WhatsApp แล้วหรือยัง