เมื่อปัญหาการนอนกลายเป็นปัญหาระดับชาติ อาจจะส่งผลต่ออาการปวดเมื่อยตามร่างกาย และประสิทธิภาพในการใช้ชีวิตประจำวัน ทำให้ Index Living Mall จึงปิ๊งไอเดียในการสร้างแบรนด์หมอนระดับพรีเมียม งานนี้ได้แท็กทีม “วู้ดดี้” ในการปั้นแบรนด์ Dreamia หมอนไฮบริด จับตลาดหมอนพรีเมียม เพื่อรองรับตลาดสุขภาพ
คนไทย 40% มีปัญหาการนอน
ข้อมูลจากการสำรวจ Super Poll เกี่ยวกับการนอนหลับของคนไทยทั่วประเทศ 1,109 ตัวอย่าง (ณ กันยายน 2564) พบว่า 30-40% ของประชากรไทยหรือราว 19 ล้านคนต้องเผชิญปัญหานอนไม่หลับ โดยระบุสาเหตุจากที่รองนอน ฟูก และหมอน ทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับการนอนถึง 96.5%
จากปัญหาด้านการนอนนี่เอง ก็ส่งผลกระทบต่อปัญหาสุขภาพอื่นๆ เช่น นอนไม่หลับ ปวดหัว ปวดคอ บ่า ไหล่ หลับไม่สนิท ตื่นก่อนเวลาที่ต้องการตื่น แน่นอนว่ากระทบต่อเนื่องไปกับการใช้ชีวิต และการทำงานต่างๆ ได้ด้วย
การใช้หมอนที่ไม่ตรงกับสรีระร่างกาย ก็เป็นปัญหาหลัก รวมไปถึงระยะเวลาในการใช้งานหมอน ควรเปลี่ยนทุกๆ 1 ปี เพราะมีการยุบ เมื่อหมอนมีความสูงไป หรือต่ำไปก็ทำให้นอนหลับไม่สบายได้
ด้วยเหตุผลต่างๆ ทำให้คนไทยหันมาให้ความสำคัญกับสุขภาพมากขึ้น เลือกอุปกรณ์การนอนที่ส่งผลต่อสุขภาพ เลือกสินค้าที่พรีเมียม ใช้วัสดุที่ดี เพื่อช่วยประสิทธิภาพในการนอนที่ดีขึ้น ยิ่งในช่วงของการแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่ต้องอยู่บ้านกันมากขึ้น หลายคนจึงเลือกลงทุนกับการแต่งบ้าน อุปกรณ์การนอน การทำงาน ทำให้ตลาดนี้เติบโตมากขึ้นเช่นกัน
Collab กับวู้ดดี้ ปั้นหมอนพรีเมียมระดับตัวท็อป
คำถามที่ว่า… ทำไมต้องเป็นหมอน?
คำตอบมี 2 อย่างด้วยกัน คือ 1. ตลาดเครื่องนอนมีการเติบโตสูง และจากปัญหาเรื่องการนอนที่กล่าวไปข้างต้นทำให้มีโอกาสในการเติบโตมาก
2. ในปีนี้ Index ได้เพิ่มกลยุทธ์ในการ Collaboration กับพาร์ตเนอร์ทางธุรกิจ หรือเซเลบริตี้ จึงเกิดเป็นการจับมือ “วู้ดดี้-วุฒิธร มิลินทจินดา” ผู้มีหลายบทบาททั้งพิธีกร นักธุรกิจ และเซเลบริตี้ เปิดตัวแบรนด์ DREAMIA เป็นหมอนแบบไฮบริดใช้วัสดุขนเป็ด ผสมเมมโมรี่โฟม ตอบรับตลาดสุขภาพ
หมอน DREAMIA เป็นโมเดลแบบการเป็นพาร์ตเนอร์ทางธุรกิจกัน โดยทั้ง Index และวู้ดดี้ได้ร่วมกันพัฒนาสินค้า ออกแบบ และสร้างแบรนด์ โดย Index ได้รับลิขสิทธิ์เรื่องของนวัตกรรมจากอเมริกาเพียงเจ้าเดียวในไทยสำหรับการจัดจำหน่ายสินค้าตัวนี้
การร่วมมือกันครั้งนี้เป็นการรวมจุดแข็งของทั้ง 2 ฝ่าย ทาง Index มีข้อมูลสินค้า พฤติกรรมผู้บริโภค และช่องทางการขาย ส่วนทางวู้ดดี้จะช่วยโปรโมต เท่ากับว่าวู้ดดี้จะไม่ได้เป็นแค่พรีเซ็นเตอร์อย่างเดียว แต่เป็นพาร์ตเนอร์ทางธุรกิจเลย
กฤษชนก ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด (มหาชน) เริ่มเล่าว่า
“โมเดลนี้ไม่ใช่การ Collab แบรนด์กับดาราเฉยๆ แต่เป็นการทำธุรกิจร่วมกันโดยใช้ความเชี่ยวชาญของแต่ละฝ่าย จุดเริ่มต้นมาจากที่วู้ดดี้เป็นคนนอนหลับยาก มีปัญหานอนไม่หลับ จึงให้วู้ดดี้เลือก และได้ทดลองนอนหมอนจริงมากกว่า 10 ใบ เพื่อ ออกเป็นแบรนด์ DREAMIA โดย Index เป็นผู้จัดจำหน่าย และนำเข้า ส่วนวู้ดดี้ทำหน้าที่กึ่งพรีเซ็นเตอร์ทางธุรกิจ”
หมอน DREAMIA มีการพัฒนาด้วยการนำ 7 นวัตกรรมจากประเทศสหรัฐอเมริกามาใช้ในกระบวนการผลิตเพื่อสร้างมิติใหม่แห่งการนอนแบบ All in one ได้แก่
- Softcell Construction ให้ความนุ่มสบายรองรับศีรษะด้วยเส้นใยขนเป็ดเทียม
- Elongated Softcell ทุกสัมผัสการนอนราบรื่น
- ผ้าหุ้มหมอน Tencel ใช้เทคโนโลยีการผลิตจากเซลลูโลสของเปลือกไม้ ให้เนื้อสัมผัสที่ละเอียดนุ่มเรียบลื่น
- MEMORY FOAM ช่วยกระจายน้ำหนักของศีรษะ และปรับอุณหภูมิให้เหมาะสม
- เส้นใย Celliant ช่วยการทำงานของระบบการไหลเวียนโลหิต และกล้ามเนื้อ ให้รู้สึกสดชื่นหลังตื่นนอน
- เลือกปรับระดับสูง-ต่ำของหมอนได้ เพียงนำหมอนใบเล็กที่เสริมไว้ด้านในออก
- Antimicrobial Silver Chloride Treatment ช่วยป้องกันแบคทีเรีย เชื้อรา กลิ่นและรอยคราบต่างๆ
ตลาดเครื่องนอน ศักยภาพสูง!
แม้ว่าตลาดกลุ่มเครื่องนอน และหมอนเพื่อสุขภาพจะมีจำนวนผู้ผลิต และผู้จัดจำหน่ายที่หลากหลาย แต่มองว่ายังมีโอกาส และช่องว่างในการทำตลาด โดยเฉพาะผู้บริโภคกลุ่ม Premium Segment และกลุ่ม Health Conscious ที่มีกำลังซื้อสูง ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพซึ่งคาดว่าจะยังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
สำหรับ Index เอง กลุ่มที่นอน และเครื่องนอนมีสัดส่วนรายได้ถึง 10% และมีการเติบโต 16% กฤษชนกบอกว่า ถือว่าเป็นสัดส่วนรายได้ที่ค่อนข้างสูง และยังมีศักยภาพในการเติบโตได้อีก เนื่องจากหมอนเป็นสินค้าที่ทุกคนต้องมีคนละ 1 ใบ และเป็นสินค้าที่ต้องซื้อซ้ำตลอด
หมอน DREAMIA ถือว่าเป็นตัวท็อปที่สุดของ Index ในเวลานี้ ตั้งราคาขายปลีกอยู่ที่ 3,990 บาท แต่มีโปรโมชันเปิดตัว หมอนรุ่น Recovery พร้อมปลอกหมอนกันเปื้อนรุ่น Omniguard ราคาเริ่มต้น 2,990 บาท จากราคาปกติ 4,980 บาท ซึ่งวางจำหน่ายที่ Index Living Mall 31 สาขาทั่วประเทศ หรือช้อปออนไลน์
แต่เดิม Index มีจำหน่ายหมอนราวๆ 5-6 แบรนด์ มีเฮาส์แบรนด์ประมาณ 3 แบรนด์ มีราคาตั้งแต่ 199-3,990 บาท คาดว่าการออกหมอน DREAMIA จะกระตุ้นยอดขายเพิ่มขึ้น 20%
กฤษชนก บอกว่า ครั้งนี้เป็นการพัฒนาร่วมกัน แต่ยังไม่แยกบริษัท แต่ถ้าอะไรลงตัวอาจจะแยกบริษัทใหม่ก็ได้ รวมไปถึงมองผลิตภัณฑ์อื่นๆ เช่น เครื่องนอน และที่นอน เพิ่มเติมด้วย
สำหรับภาพรวมของ Index ในปี 2564 มียอดขาย 7,433 ล้านบาท เติบโต 5% ยอขายจากช่องทางออนไลน์ 1,000 ล้านบาท มีสัดส่วน 12% ต้นทุนค่าใช้จ่ายลดไป 3% หรือราวๆ 100 กว่าล้านบาท มีกำไรสุทธิ 453.2 ล้านบาท ในปี 2565 ตั้งเป้ารายได้ 8,200 ล้านบาท หรือโตเติบโต 10%
แบ่งสัดส่วนรายได้ เฟอร์นิเจอร์ 69% ของตกแต่ง 19% ที่นอน 6.5% อื่นๆ 5.5%
ในปี 2565 ใช้งบลงทุนรวม 480 ล้านบาท แบ่งเป็น ลงทุนสาขาใหม่ 220 ล้านบาท ที่ลาดกระบัง, รีโนเวตสาขาภูเก็ต และเกษตรนวมินทร์ 185 ล้านบาท, ปรับปรุงเครื่องจักร 30 ล้านบาท และลงทุนด้านไอที 45 ล้านบาท