ประเด็นร้อนแรงบนโลกออนไลน์ในช่วงไม่กี่วันมานี้คงหนีไม่พ้นเรื่อง “นมโคไทย” ที่จุดตั้งต้นมาจากรายการหนึ่งในเครือของ Woody World (วู้ดดี้ เวิลด์) ที่เนื้อหาเกิดการสร้างความเข้าใจผิดในสังคมอย่างมาก รวมไปถึงสร้างความกลัวให้กับคนดื่มนม ทำให้นักวิชาการ นักวิทยาศาสตร์ รวมไปถึงสัตว์แพทย์ หรือผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องกับระบบนี้ต่างออกมาให้ข้อมูลข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง
แต่ดราม่าก็ยังทวีคูณไปจนถึงแขกรับเชิญที่มาพูดในรายการ และที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือรายการของวู้ดดี้เองก็คือ Woody Avengers ที่มีคอนเซ็ปต์เชิญกูรูในแต่ละด้านมาคุยกัน ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องราวเกี่ยวข้องกับสุขภาพ
ปัจจุบัน “วู้ดดี้ – วุฒิธร มิลินทจินดา” ได้บริหารบริษัท วู้ดดี้ เวิลด์ จำกัด ธุรกิจหลักจะเป็นการผลิตสื่อบันเทิง รายการคอนเทนต์ออนไลน์ และงานอีเวนต์ ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่ามีรายได้ย้อนหลัง 3 ปี ดังนี้
- ปี 2567 รายได้ 115 ล้านบาท กำไร 28 ล้านบาท
- ปี 2566 รายได้ 96 ล้านบาท กำไร 28.2 ล้านบาท
- ปี 2565 รายได้ 77 ล้านบาท กำไร 9 ล้านบาท
ในอดีตเราคุ้นเคยกับวู้ดดี้ในบทบาทของพิธีกร มีรายการที่โด่งดังทั้งวู้ดดี้ เกิดมาคุย และวู้ดดี้ ตื่นมาคุย ที่ออกอากาศทางช่อง 9 แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยน วู้ดดี้ได้เบนเข็มมาช่องทางออนไลน์ 100%
ทำให้ในปัจจุบันธุรกิจภายใต้วู้ดดี้ เวิลด์ แบ่งออกเป็น 4 กลุ่มด้วยกัน ได้แก่
1. คอนเทนต์ : สร้างรายได้ทั้งหมด 40% แบ่งเป็นอีก 2 กลุ่ม ก็คือ รายการที่มีวู้ดดี้ เช่น Woody FM, Woody Interview, Woody Review และวอดอวอแว เป็นต้น เป็นรายการที่วู้ดดี้เป็นคนดำเนินรายการเอง และอีกกลุ่มคือรายการที่ไม่มีวู้ดดี้ (Non-Woody) เช่น Life Dot, WE DO, Alive Dot, Tuck Talk, เบิ้ล AM และเกิดมาเว่า เป็นรายรายที่ให้พิธีการ หรือดารา เซเลบคนอื่นๆ มาดำเนินรายการ ส่วนใหญ่เป็นเนื้อหาเกี่ยวกับสุขภาพ เวลเนส การใช้ชีวิต และความสวยความงาม เป็นต้น ทุกรายการจะอยู่บนช่องทางออนไลน์ทั้งหมด ทั้ง YouTube, TikTok, Instagram และ Facebook โดยที่ช่องของ Woody ใน YouTube มีคนติดตามกว่า 4.24 ล้านแอคเคาท์
2. อีเวนต์ : สร้างรายได้ในสัดส่วน 40% เช่นกัน ได้แก่ S2O Festival, Dragonfly Summit, Fit Fest และล่าสุดกับงาน Life Expo ปัจจุบันงาน S2O ได้ไปเปิดตลาดหลายเมืองแล้ว ได้แก่ ไต้หวัน, เกาหลี, นิวยอร์ก, ลอสแองเจลิส, ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย
3. สินค้า : มีสัดส่วนรายได้ 20% แต่เดิมวู้ดดี้เองมีการร่วมทุนในหลายๆ บริษัทในโมเดลพาร์ทเนอร์ อย่างที่เคยเห็นในกระทะโคเรียนคิงส์ และวู้ดดี้ ซี+ ล็อค ปัจจุบันมีสินค้าขายในแบรนด์ WANDO วิตามินดูแลผม
4. ธุรกิจ Talent Management : เป็นธุรกิจที่จะเปิดในอนาคตในชื่อ Dot Talent เน้นการบริหารศิลปิน นักแสดงรุ่นใหม่
หลังจากที่เกิดประเด็นดราม่าดังกล่าว ทางวู้ดดี้ได้ออกมาชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กว่าน้อมรับทุกคำแนะนำ และระงับคลิปชั่วคราว พร้อมจะทำรายการพิเศษเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ถูกต้องกับผู้เชี่ยวชาญโดยตรง
กลายเป็นกรณีศึกษาในการทำคอนเทนต์บนโลกออนไลน์ ยิ่งเป็นประเด็นละเอียดอ่อน ยิ่งต้องอาศัยข้อมูลข้อเท็จจริงหลายส่วน ใช้เพียงความรู้สึกส่วนตัวไม่ได้ ทางด้านรายการ และตัวสื่อเองก็ต้องมีความรับผิดชอบที่เพียงพอต่อสังคมในการส่งต่อข้อมูลที่ถูกต้อง ไม่สร้างความตระหนก สร้างความกังวลเพิ่มขึ้น ต้องรอติดตามว่าวู้ดดี้จะแก้เกมครั้งนี้อย่างไร
อ่านเพิ่มเติม



