เรื่องไม่เล็กของซีอีโอ

การรณรงค์ให้ประหยัดพลังงานไฟฟ้าด้วยการเปลี่ยนมาใช้หลอดผอมเบอร์ 5 เป็นสิ่งที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) รณรงค์มาอย่างต่อเนื่อง แต่ที่ผ่านมาก็ต้องยอมรับ ไม่ว่าจะเป็นโครงการรณรงค์ใหญ่แค่ไหนก็ยังดูเป็นเรื่องพื้นๆ ยิบย่อยในชีวิตประจำวันของคนทั่วไป ทำอย่างไรก็กระชากใจผู้ใช้ไฟให้เปลี่ยนไปใช้หลอดผอมจริงจังไม่ได้สักที เว้นเสียแต่ถึงเวลาเปลี่ยนหลอดไฟแล้วจริงๆ เท่านั้น

แต่เมื่อผลรวมของสิ่งเล็กๆ คือผลลัพธ์อันยิ่งใหญ่ระดับประเทศ การรณรงค์เรื่องการประหยัดพลังงานด้วยการใช้หลอดผอมจึงเป็นนโยบายที่ กฟผ. ดำเนินงานเป็นนโยบายอย่างต่อเนื่อง เพราะในประเทศนี้ยังมีช่องว่างให้ประหยัดพลังงานกันได้อีกมากจากเรื่องเล็กๆ เพียงเรื่องเดียวนี้

ล่าสุด สุทัศน์ ปัทมสิริวฒน์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย นอกจากลงทุนเป็นพรีเซ็นเตอร์ในภาพยนตร์โฆษณาทางโทรทัศน์ (TVC) ด้วยตัวเองแล้ว ยังชวนเอาเซเลบฯ ระดับซีอีโอแถวหน้าที่เป็นที่รู้จักกันดีของเมืองไทย อย่าง ดร.อนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) และเสี่ยปั้น-บัณฑูร ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ.ธนาคารกสิกรไทย มาร่วมเป็นพรีเซ็นเตอร์รณรงค์ให้ประชาชนใช้หลอดผอมเบอร์ 5 ในโฆษณาเดียวกัน

เป้าหมายก็เพื่อแสดงให้เห็นว่า แม้กระทั่งองค์กรที่ทำรายได้ระดับประเทศในกลุ่มพลังงานทางเลือกในฐานะบริษัทผู้ผลิตแก๊สโซฮอล์อย่างบางจาก และธนาคารระดับแนวหน้าของประเทศ ก็ยังต้องให้มาให้ความสำคัญกับเรื่องที่มองจิ๊บๆ ในสายตาคนทั่วไป เพราะผลรวมจากเรื่องเล็กน้อยที่ระดับนายใหญ่ยังให้ความสำคัญ คือผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่ที่เพิ่มรายได้ให้กับองค์กรได้โดยไม่ต้องใช้เงินลงทุนเพิ่มเหมือนการหารายได้

แนวคิดนี้เป็นบทสะท้อนให้เห็นว่า การมุ่งไปข้างหน้าเพื่อหารายได้โดยปล่อยให้เกิดข้อผิดพลาดเล็กๆ ที่มีผลกระทบต่อค่าใช้จ่ายจำนวนมาก ไม่ใช่วิธีที่องค์กรพึงละเลย เหมือนคำพูดของบัณฑูร ที่พูดไว้ใน TVC ว่า “ธุรกิจไม่ใช่แค่คิดใหญ่ ต้องคิดเล็กด้วย”

คำว่า “เล็ก” ในที่ย่อมไม่ใช่การสื่อความถึงขนาดธุรกิจ แต่ต้องการบอกให้ทุกคนรู้ว่าอย่าละเลยหรือรั่วไหลกับเรื่องเล็กๆ ที่คุณอาจจะมองข้ามไป

สามองค์กรที่เป็นมีนายใหญ่มาเป็นพรีเซ็นเตอร์เองครั้งนี้ มีผลงานการลดการใช้พลังงานไฟฟ้าขององค์กรรวมกันได้กว่า 13.92 ล้านหน่วยต่อปี หรือคิดเป็นมูลค่าปีละ 41.7 ล้านบาท ช่วยลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการใช้พลังงานลงได้ 13,140 ตันต่อปี

การประสานงานของพรีเซ็นเตอร์จากสามองค์กรใหญ่ พร้อมกับตัวเลขที่นำมาแสดงเพียงเท่านี้ ก็น่าจะเพียงพอที่ กฟผ.คาดว่าจะทำให้การรณงค์ให้ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม หันมาใช้หลอดผอมเบอร์ 5 กันมากขึ้นทั่วประเทศในเร็ววัน เพื่อผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นทั้งต่อตัวเองและประเทศชาติ

สำหรับซีอีโอทั้งสามองค์กรที่ลงทุนมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับหนังโฆษณาชุดนี้ ยังได้ภาพลักษณ์ที่ดีของการมีร่วมการช่วยเหลือสังคม สอดคล้องกับแนวทางการตลาดยุค 3.0 ได้พอดี

ชื่อภาพยนตร์โฆษณา กฎใหม่ของการลงทุน
พรีเซ็นเตอร์ สุทัศน์ ปัทมสิริวัฒน์ ดร.อนุสรณ์ แสงนิ่มนวล และ บัณฑูร ล่ำซำ
เป้าหมาย เพื่อเผยแพร่ผลสำเร็จจากการใช้หลอดผอมเบอร์ 5 ของ 3 องค์กร ได้แก่ กฟผ. บางจากปิโตรเลียม และธนาคารกสิกรไทย โดยคาดว่าจากจุดเริ่มต้นนี้จะทำให้ภาคประชาชน ภาคธุรกิจ และภาคอุตสาหกรรม ร่วมกันใช้หลอดผอมเบอร์ 5 ขนาด 28 วัตต์ แทนหลอดฟลูออเรสเซนต์ T8 ขนาด 36 วัตต์ ทั้งประเทศ จำนวน 18.5 ล้านหลอด ภายในปี 2556 กฟผ.จะสามารถส่งผลให้ลดปริมาณความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดได้ 174.8 MW ลดพลังงานไฟฟ้าได้ถึงประมาณ 800 ล้านหน่วยต่อปี หรือลดค่าใช้จ่ายได้ 2,400 ล้านบาทต่อปี และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 400,000 ตันต่อปี