3,000 ก็เทรดได้! “ทรูมันนี่” จับมือ “เมอร์เคิล” เปิดพอร์ตกองทุน “คริปโต” ผ่านอีวอลเล็ต

ทรูมันนี่ เมอร์เคิล คริปโต
“เมอร์เคิล แคปปิตอล” ผนึกกำลังกับ “ทรูมันนี่” เปิดช่องทางซื้อกองทุน “คริปโต” ผ่านอีวอลเล็ต ลดเงินขั้นต่ำเหลือ 3,000 บาท แก้ปัญหานักลงทุนต้นทุนน้อยหรือไม่มีเวลา โดยมี 4 กลยุทธ์การลงทุนให้เลือกตามธีมของเหรียญคริปโตที่คัดเลือก คาดมีผู้ลงทุนผ่านทรูมันนี่ 1-2 แสนรายในปีนี้

กระแสการเทรดคริปโตมาแรงด้วยความเป็น ‘ตลาดซิ่ง’ ที่มีโอกาสได้กำไรสูง แต่ความเสี่ยงก็สูง และต้องใช้เวลาในการศึกษาเนื่องจากตลาดเปลี่ยนเร็ว ทำให้ผู้ประกอบการด้านการเงินเริ่มจับโอกาสที่จะดึงนักลงทุนหน้าใหม่ให้เข้าตลาดคริปโตได้ง่ายขึ้น

“ธัญญพงศ์ ธรรมาวรานุคุปต์” กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด ผู้ให้บริการ “ทรูมันนี่” เกริ่นก่อนว่า ปัจจุบันแอปพลิเคชันนี้ไม่ได้เป็นแค่ช่องทางการชำระเงิน แต่ยังมีบริการทางการเงินอื่นอีก 3 ด้าน ได้แก่ สินเชื่อ ประกัน และการลงทุน

ในด้านของการลงทุนนั้น ทรูมันนี่มีช่องทางให้ซื้อกองทุนจากผู้บริหารกองทุน 10 บริษัทผ่านแอปพลิเคชันได้อยู่แล้ว และวันนี้ทรูมันนี่จะเพิ่มบริการการลงทุนแบบใหม่ด้านสกุลเงิน “คริปโต” ผ่านการจับมือกับ บริษัท เมอร์เคิล แคปปิตอล จำกัด ซึ่งเป็น “ผู้จัดการเงินทุนสินทรัพย์ดิจิทัล” รายแรกที่ได้ใบอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และยังคงเป็นรายเดียว ณ ขณะนี้

โดยลูกค้าทรูมันนี่สามารถเปิดพอร์ตการลงทุนคริปโตผ่านแอปฯ ได้อย่างรวดเร็ว และเลือกลงทุนตามกลยุทธ์การลงทุนที่ดูแลโดยเมอร์เคิล แคปปิตอล

เมอร์เคิล ทรูมันนี่ คริปโต

ด้าน “อัครเดช เดี่ยวพานิช” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมอร์เคิล แคปปิตอล จำกัด กล่าวถึงที่มาของบริษัทนี้เป็นส่วนหนึ่งในเครือ CryptoMind ที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 4 ปีก่อน เกิดจากกลุ่มนักเทรดคริปโตที่มารวมตัวกัน เพื่อช่วยเหลือแลกเปลี่ยนข้อมูลความรู้ในการเทรด จนมาสู่การก่อตั้งบริษัทเพื่อบริการปรึกษาการเทรดในวงกว้างขึ้น

สิ่งที่เมอร์เคิลทำคือ การคัดแยกเหรียญที่ส่อแววเป็นการหลอกลวง (scam) ออกไป และนำเหรียญที่มีศักยภาพมาจัดพอร์ตการลงทุนตามธีม ขณะนี้มี 4 ธีมกลยุทธ์การลงทุนให้เลือก ได้แก่

1.M-Bitcoin Alpha สำหรับลงทุนในบิตคอยน์ทั้งหมด ซึ่งบิตคอยน์ถือเป็นเหรียญเริ่มต้นของตลาดคริปโต และได้รับการยอมรับทั่วโลก เปรียบได้กับทองคำในโลกดิจิทัล
2.M-Large Cap พอร์ตการลงทุนในเหรียญคริปโตที่มีมูลค่าทางตลาดขนาดใหญ่ เช่น อีเธอเรียม เป็นการกระจายการลงทุนไปยังเหรียญอื่นที่มีศักยภาพ
3.M-Blockchain ลงทุนในเหรียญที่เป็นพื้นฐานของบล็อกเชน ซึ่งถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานของคริปโต
4.M-Metaverse ลงทุนในเหรียญพื้นฐานของเมตาเวิร์ส ลงทุนตามโปรเจ็กต์ใหม่ๆ ที่น่าสนใจและมีโอกาสเติบโต

เมอร์เคิล
พอร์ตลงทุนตามกลยุทธ์ 4 ธีมของเมอร์เคิล

แต่เดิมนั้นเมอร์เคิล แคปปิตอลเปิดรับนักลงทุนด้วยมูลค่าพอร์ตขั้นต่ำ 100,000 บาท เพราะต้องการเจาะกลุ่มที่เป็นไพรเวทเวลธ์ แต่ขณะนี้เมื่อจับมือกับทรูมันนี่จะเป็นการเปิดทางเข้าสู่ตลาดแมส เพราะใช้เงินลงทุนน้อยลง แต่สามารถเลือกการลงทุนตามธีม 4 กลยุทธ์ในแบบเดียวกันได้

 

เริ่มต้นที่ 3,000 บาท เจาะคนงบน้อย-ไม่มีเวลา

การเทรดของผู้ที่ต้องการลงทุนคริปโตปัจจุบัน ส่วนใหญ่จะต้องเข้าไปเทรดเองบนกระดานเทรด แต่ตลาดคริปโตนั้นมีความยากและความเสี่ยงกว่า เพราะตลาดเปิด 24 ชั่วโมง 7 วันต่อสัปดาห์ โอกาสเปลี่ยนแปลงสูง มีเหรียญจำนวนมากให้ศึกษาติดตาม และมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ด้วย

“การซื้อขายเองจะติดปัญหาเรื่องคุณไม่มีเวลาศึกษามากเพียงพอว่าจะซื้อเหรียญไหน เวลาไหน หรือไม่มีเวลาเทรด ตรงนี้เราทำการคัดเหรียญที่ไม่หลอกลวง และจัดเหรียญออกมาเป็นธีมกลยุทธ์การลงทุน มีผู้เชี่ยวชาญมาคอยเทรดตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงเราจะดูแลความปลอดภัยให้ ไม่ต้องกลัวเรื่องการถูกแฮกเหรียญออกจากบัญชี” กานต์นิธิ ทองธนากุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุน บริษัท เมอร์เคิล แคปปิตอล จำกัด กล่าว

เมอร์เคิล ทรูมันนี่ คริปโต

ด้าน “ณัฐวดี แซ่เอี้ย” ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์และนวัตกรรมทางธุรกิจ บริษัท ทรูมันนี่ จำกัด กล่าวต่อถึงรายละเอียดการลงทุนกับเมอร์เคิลผ่านทรูมันนี่ เริ่มขั้นต่ำที่ 3,000 บาท (*ต่อการลงทุนหนึ่งกลยุทธ์การลงทุน) หากสมัครแอปฯ ทรูมันนี่ซึ่งเป็นการยืนยันตัวตนและเครดิตสกอร์ไว้แล้ว เมื่อเปิดพอร์ตกับเมอร์เคิลจะใช้เวลาไม่เกิน 5 นาที ไม่ต้องยื่นเอกสารเพิ่ม ลดความยุ่งยากในการเริ่มลงทุนคริปโต

ส่วนค่าธรรมเนียมนั้นทั้งสองบริษัทไม่ได้แจกแจงรายละเอียดบนเวที แต่ระบุว่าคิดเท่าๆ กับที่คิดกับลูกค้ากองทุนไพรเวทเวลธ์ และอัครเดชเชื่อว่าไม่แพงไปกว่าค่าธรรมเนียมที่ต้องจ่ายเมื่อลูกค้าเข้าไปเทรดเองบนกระดานเทรด แถมยังได้ความสะดวกมากกว่าเพราะไม่ต้องเฝ้ากระดานเอง

ณัฐวดีกล่าวต่อว่า การเปิดพอร์ตด้วยเงินลงทุนต่ำเช่นนี้ คาดว่าจะเจาะกลุ่มนักลงทุนที่ไม่มีเวลาศึกษา ไม่เคยลงทุนคริปโตมาก่อน และมีงบลงทุนน้อย รวมถึงกลุ่มนักลงทุนที่อาจจะมีประสบการณ์การเทรดคริปโตด้วยตนเอง แต่ต้องการกระจายความเสี่ยงด้วย ทำให้แม้จะเริ่มลงทุนต่ำแต่ทรูมันนี่ไม่ได้กำหนดเพดานการเทรด สามารถลงทุนได้เต็มที่

โดยทรูมันนี่ปัจจุบันมีผู้ใช้งาน 24 ล้านคน ในจำนวนนี้มีการซื้อขายกองทุนอยู่แล้ว 2 ล้านคน คาดว่าการลงทุนรูปแบบใหม่กับคริปโตน่าจะมีการใช้งาน 1-2 แสนคนภายในปีแรกนี้