ปั่นปั้นวิดีโอให้ดัง จาก Royal Wedding ถึงเรยา

ปั่นปั้นวิดีโอให้ดัง จาก Royal Wedding ถึง เรยา

โอกาสสร้างแบรนด์ในยามที่มหาชนเทกระแสความสนใจไปยังเรื่อง Hot Issue ประเด็นร้อนๆ ของโลกหรือสังคม หลายครั้งแบรนด์เองก็จำเป็นต้องเลื่อนกิจกรรมในการสื่อสารการตลาดออกไปจนกว่ากระแสจะซา เพื่อเลี่ยงความเสี่ยงของการสื่อสารออกไปแล้ว แป็ก แต่นั่นก็ไม่ใช่คำตอบสุดท้าย

แต่ในวิกฤตย่อมมีโอกาสเสมอ ในสภาวะเช่นเดียวกันบางแบรนด์ปรับกิจกรรมการตลาดเข้าสู่กระแสความสนใจ ด้วยการปรับตัวเสมือนหนึ่งการเข้าไปมีส่วนร่วมกับกระแสที่เกิดขึ้น สร้างกระแสตอบรับที่เหนือกว่าความคาดหมาย ด้วยการเข้าไปเป็นผู้ร่วมเล่นในกระแสนั้นๆ เห็นได้ชัดจากโฆษณาต่างประเทศในช่วง Super Bowl มีหลายสินค้าที่จับกระแสนี้สร้างให้แบรนด์และสินค้าเป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็ว

ไม่ต่างกันกับการทำการตลาดบนสื่อออนไลน์ก็จะต้องคาดการแนวโน้มของ Trend ที่จะเกิดขึ้นว่ากระแสของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตมีแนวโน้มจะสนใจอะไร นั่นก็จะให้ทำกิจกรรมออนไลน์ต่างๆ จะได้ผลพลอยได้จาก Trend เทรนด์ที่เกิดขึ้น ไม่ต่างจากการเป็นสื่อมวลชนที่จะต้องนำเสนอข่าว ตามกระแสความสนใจของผู้อ่าน สำหรับการทำการตลาดดิจิทัลก็จำเป็นต้องทราบแนวโน้มเทรนด์โดยอาจคาดคะเนจากเครื่องมือต่างๆ อาทิ Google Trend / Twitter Trendเพื่อดูความสนใจที่กำลังจะมาถึง ก็จะเป็นโอกาสที่จะสร้างชื่อเสียงและยอดผู้ชมเว็บไซต์ ที่จะสูงขึ้นตามแนวโน้มเช่นกัน ไม่เว้นแม้แต่บรรดาแบรนด์สินค้าก็ใช้โอกาสนี้เกาะกระแสสร้าง Buzz ช่วยให้แบรนด์ได้เสนอแง่มุมบุคลิกหรือกิจกรรมที่ช่วยให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากขึ้น

ยกตัวอย่าง การทำการตลาดด้วย Viral Video ของ Blend it เครื่องปั่นพลังสูงที่เกาะกระแสความสนใจของการเปิดตัวตัว iPhone รุ่นใหม่ ท่ามกลางกระแสความอยากได้ของมหาชน ที่กำลังค้นหาข้อมูลวิดีโอและเนื้อหา Review ประกอบการตัดสินใจซื้อ ในการตัดสินในนำ iPhone มาปั่นถือเป็นการเกาะกระแสที่ถูกที่ถูกเวลาเพราะทำให้วิดีโอ Blend it ชุดปั่น iPhone กลายเป็นวิดีโอที่สร้าง Buzz มีผลตอบรับที่ดีเยี่ยมทำให้ชื่อ Blend it เป็นที่รู้จักและ Converse เป็นยอดขายที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด YouTube Star หลายคนก็ดังจากการสร้าง Video Content ที่สร้างมาเพื่อเกาะกระแสด้วยเช่นกัน ทำให้บางคลิปแจ้งเกิดไปพร้อมกับคนที่อยู่ในคลิปนั่นในเวลาอันสั้น

เกาะกระแสด้วย Content คุณภาพยังไงก็ดัง
เมื่อครั้งงานแต่งงาน Royal Wedding การอภิเษกสมรสครั้งประวัติศาสตร์ของชาวอังกฤษ ที่เป็นกระแสความสนใจของคนทั่วทั้งโลก และครั้งนี้ก็ถือเป็นหน้าประวัติศาสตร์ของชาวดิจิทัลด้วยเช่นกันกับการมีผู้ชมวิดีโอถ่ายทอดสดพร้อมกันร่วม 100 ล้านคน ผ่านระบบ Video Real-time Broadcasting ของ YouTubeซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของการถ่ายทอดวิดีโอStreaming กรณีเป็นเป็นตัวอย่างของการสร้างแบรนด์โดยเกาะกระแสที่ดีเพราะในช่วงที่ทั่วโลกสนใจข่าวเกี่ยวกับงาน Royal Wedding มีสื่อดิจิทัลเข้ามาจับกระแสสร้างกิจกรรมต่างๆ ของเว็บไซต์จำนวนมากอย่าง Yahoo สร้างหน้าสำหรับลงอวยพร และอีกหลายๆ กิจกรรม

ความน่าสนใจในกระแสครั้งนี้ แบรนด์ใหญ่อย่าง T – Mobile ก็เกาะกระแส Buzz สร้างโอกาสให้แบรนด์เข้าใกล้ผู้บริโภค เสริมทัพความแข็งแรง ในแง่ของแบรนด์ที่เป็นมิตรสนุกสนานและจริงใจ ด้วยการสร้าง Viral Video Content ที่ชื่อ “The T – Mobile Royal Wedding” วิดีโอที่ล้อเลียน โดยการจำลองพิธีการเดินเข้าโบสถ์ โดยรับแรงบันดาลใจจาก JK Wedding Entrance Dance Viral Video งานแต่งที่โด่งดังตลอดกาลของ YouTube ส่งให้ Royal Wedding ฉบับ T – Mobile แรงจนมียอดผู้ชมสูงมากกว่า 22ล้านครั้ง ซึ่ง Viral Video ชิ้นนี้ก็ยังอยู่ภายใต้ Concept “Lift’s for Sharing” ที่ทางแบรนด์ต้องการสื่อสาร

แจ้งเกิดจาก ดอกส้มสีทอง (ล้อเลียน)
อีกปรากฏการณ์ในประเทศใกล้ๆ ตัว ก็มีการแจ้งเกิดจากการสร้างวิดีโอ Viral ตามความแรงของ”เรยา” ในละครดอกส้มสีทอง จนเกิดปรากฏการณ์บนสื่อดิจิทัลมากมายที่อาจจะเป็นส่วนหนึ่งทำให้กระแสของละครดีขึ้น เมื่อมีการ Mention พูดถึง เรยา บนทวิตเตอร์และ Facebook และก็มีวิดีโอ Viral หลายตัวที่แจ้งเกิดสร้างปรากฏการณ์การส่งต่อในครั้งนี้

จากคาดคะเนกระแสความสนใจบนสื่อดิจิทัลมีเครื่องมือในการช่วยวัด และมองภาพรวมอยู่หลายตัวที่ช่วยให้การทำดิจิทัล Campaign หรือกิจกรรมทางการตลาดบนสื่อดิจิทัลสามารถเพิ่มความแรงเข้าไปได้อีกจากกระแสเทรนด์นั้นๆ ในช่วงเวลาเหล่านี้กิจกรรมของการใช้ Social Media รวมถึงการค้นหาผ่าน Search Engine นั้นสูงขึ้นมากกว่า 1000% จากสภาวะปกติ เหล่านี้เองจะเป็นโอกาสในการดึงกระแสมาเพิ่มโอกาสของการสื่อสาร อยู่ที่ว่าจะดึงมุมไหนมาเชื่อมโยงและสื่อสารกับแบรนด์ให้เกิดประโยชน์ กับแผนการตลาดดิจิทัล

ตัวเลขที่น่าสนใจจาก YouTube ในการ Broadcasting งานอภิเษกสมรสของราชวงศ์อังกฤษ
สรุป มียอดผู้ชม Live Streaming ถ่ายทอดสดสูงถึง 72 ล้านครั้งใน 188 ประเทศและเมื่อรวมการ Re-broadcasts นำการถ่ายทอดมาฉายอีกครั้งในวันถัดมาจำนวนผู้ชมทะลุ 100 ล้านครั้งเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของ YouTube เลยทีเดียว ในครั้งนี้เอง กระแสยังส่งไปถึงสมัย Royal Wedding เมื่อปี 1981 เมื่อครั้งเจ้าหญิงไดอาน่า อภิเษกสมรส วิดีโอบน YouTube มียอดผู้ชมสูงขึ้นมากขึ้นด้วยเช่นกัน