หลังจากที่ ‘เน็ตฟลิกซ์’ (Netflix) ต้องหั่นงบแผนก Animation ทิ้ง จนถึงขั้นที่อนิเมชั่นซีรีส์เรื่อง Pearl ที่สร้างโดยบริษัทของ เมแกน ดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ ยังต้องถูกพับโครงการไป ล่าสุด ถึงคิวของ พนักงาน ที่ต้องลาออกไปถึง 150 คน เพื่อลดต้นทุนของบริษัท เซ่นพิษของปัญหาจำนวนผู้ใช้งานลดลงครั้งแรกในรอบ 10 ปี
บริษัทตัวแทนของ Netflix เปิดเผยว่า การเลิกจ้างงานในครั้งนี้มีประมาณ 150 คน โดยส่วนใหญ่เป็นการเลิกจ้างในสหรัฐอเมริกา ซึ่งจำนวนพนักงานที่ถูกคัดออกนั้นมีสัดส่วนน้อยกว่า 2% ของพนักงาน 11,000 คน
“ดังที่เราอธิบายเกี่ยวกับการเติบโตของรายได้ที่ชะลอตัวของเรา หมายความว่าเราต้องชะลอการเติบโตของต้นทุนในบริษัทด้วย มันน่าเศร้าที่เราต้องเลิกจ้างพนักงานประมาณ 150 คน ซึ่งการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เกิดจากความต้องการทางธุรกิจ มากกว่าผลการปฏิบัติงานของแต่ละคน ซึ่งทำให้ยิ่งยากเป็นพิเศษเพราะไม่มีใครอยากบอกลาเพื่อนร่วมงานที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้”
จำนวนพนักงานที่ลดลงเกิดขึ้นหลังจากที่ Netflix รายงานการสูญเสียสมาชิกครั้งแรกในรอบ 10 ปี และคาดการณ์การสูญเสียสมาชิกอีกราว 2 ล้านรายในช่วงไตรมาส 2 ส่งผลให้หุ้นของบริษัทลดลงเกือบ 70% ตั้งแต่เดือนมกราคม
จากสถานการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้ Reed Hastings ซีอีโอร่วมกล่าวว่า บริษัทกำลังคิดถึงแพ็กเกจราคาประหยัดที่มีโฆษณาคั่น จากต่อต้านการโฆษณาบนแพลตฟอร์มมานานหลายปี รวมถึงปราบปรามการแชร์รหัสผ่าน เนื่องจากพบนอกเหนือจากครัวเรือนที่ชำระเงินแล้ว 222 ล้านครัวเรือนแล้ว ยังมีครัวเรือนเพิ่มเติมอีกกว่า 100 ล้านครัวเรือนที่แชร์บัญชีร่วมกัน
แม้การเลิกจ้างของ Netflix นั้นผูกติดอยู่กับการชะลอตัวของสมาชิก แต่เป็นส่วนหนึ่งของการหดตัวของงานในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่มากขึ้น โดยที่ผ่านมาบริษัทเทคโนโลยีหลายแห่งในสหรัฐฯ ได้ประกาศให้หยุดการจ้างงานและเลิกจ้าง รวมถึงบริษัทแม่ของ Facebook อย่าง Meta , Amazon , Uber และ Robinhood