มาสเตอร์การ์ดมุ่งมั่นสร้างความยั่งยืนชวนเครือข่ายระดับโลกรวมตัวกัน เป็นแนวร่วมในโครงการ Priceless Planet Coalition เร่งฟื้นฟูต้นไม้ในผืนป่ากว่า 100 ล้านต้น

ก่อนวันสิ่งแวดล้อมโลกในวันที่ 5 มิถุนายน แนวร่วมของโครงการ Priceless Planet Coalition โดยมาสเตอร์การ์ด ซึ่งปัจจุบันประกอบด้วย ธนาคารระดับโลก ฟินเทค และผู้ค้า มากกว่า 100 ราย ประกาศการขยายโครงการฟื้นฟูป่าไม้ไปยังพื้นที่แห่งใหม่ 15 แห่งทั่วโลก โดยในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก มีแผนริเริ่มโครงการใหม่ ในประเทศกัมพูชา จีน อินเดีย และฟิลิปปินส์ ในขณะเดียวกันโครงการปลูกป่ายังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่องในประเทศออสเตรเลีย เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ โดยแนวร่วมในโครงการฯ ร่วมตั้งเป้าหมายดำเนินการฟื้นฟูป่าไม้จำนวน 100 ล้านต้น ทั่วโลกภายในปีพ.ศ. 2568 ในขณะที่มาสเตอร์การ์ดยังดำเนินโครงการเพื่อความยั่งยืน เช่น การเปิดตัวเครื่องคำนวณปริมาณคาร์บอน

รายงานประจำปีพ.ศ. 2565 จากคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ  (Intergovernmental Panel on Climate Change: IPCC) ส่งสัญญาณเตือนว่าการแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงด้านสภาพภูมิอากาศเป็นวาระเร่งด่วน จำเป็นต้องดำเนินการทันที รายงานจากองค์การสหประชาชาติกล่าวว่า การนำก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากชั้นบรรยากาศ ควบคู่กับการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ มีบทบาทสำคัญในการลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ และการฟื้นฟูป่าไม้ยังได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นหนึ่งในวิธีการจัดการกับปัญหาที่มีประสิทธิภาพและคุ้มค่ามากที่สุดในการลดผลกระทบดังกล่าว และในขณะเดียวกันการศึกษาของข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ (UN Global Compact) พบว่า 81% ของซีอีโอ ได้พัฒนาสินค้าและบริการที่ยั่งยืน แต่การวิจัยของ Bain เผยว่า เกือบครึ่งหนึ่งของโครงการที่ริเริ่มไม่ประสบผลสำเร็จตามเป้าหมายที่พวกเขาวางได้วางไว้  สาเหตุจากการลงทุนจำนวนมากในการว่าจ้างผู้ที่มีความสามารถและสร้างความสามารถใหม่ๆให้กับบริษัท ปัจจัยภายนอก และระยะเวลาดำเนินโครงการที่ยาวนานซึ่งมีการวัดผลในระยะสิบปีมากกว่าการวัดผลรายปีหรือรายเดือน การร่วมมือกันของพันธมิตรและผู้เชี่ยวชาญสามารถช่วยจัดการกับความท้าทายเหล่านี้และนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นได้

มร. ซานดีพ มัลโฮตรา รองประธานกรรมการบริหาร ฝ่ายผลิตภัณฑ์และนวัตกรรม มาสเตอร์การ์ด ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า “การจัดการปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมเป็นความรับผิดชอบของสังคมโดยรวม แต่มักจะแยกกันหรือไม่ประสานงานกันในการดำเนินการจัดการกับปัญหา จากสัญญาณเตือนวาระเร่งด่วนในการจัดการปัญหาสภาพอากาศจากการค้นพบล่าสุดของ IPCC เวลานี้เป็นเวลาที่ทุกคนร่วมมือกันเพื่อต่อสู้กับความท้าทายที่ส่งผลกระทบต่อเราทุกคนบนโลกใบนี้ หัวใจสำคัญของธุรกิจของมาสเตอร์การ์ดคือเครือข่ายระดับโลกที่ครอบคลุมทั้งธนาคาร รัฐบาล ผู้ค้า และผู้บริโภค การเชื่อมโยงเครือข่ายนี้ทำให้ Priceless Planet Coalition แตกต่างและมีประสิทธิภาพมากขึ้น การรวมทรัพยากรเข้าด้วยกันทำให้ขยายโครงการฟื้นฟูป่าไม้และโครงการริเริ่มด้านสิ่งแวดล้อมได้อย่างรวดเร็ว ในขณะเดียวกันก็เปิดช่องทางให้ธุรกิจที่มีโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่ก่อนแล้ว สร้างผลกระทบที่เป็นรูปธรรมได้อย่างง่ายดายและคุ้มค่า”

แนวร่วม Priceless Planet Coalition มีการดำเนินงานโดยการร่วมมือกันระหว่างบริษัท ชุมชน และผู้บริโภค ประสานงานเพื่อดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศร่วมกัน ด้วยคำแนะนำจากพันธมิตรผู้เชี่ยวชาญด้านการฟื้นฟูทรัพยากร จากสถาบันConservation International และ World Resources กลุ่มแนวร่วมใช้แนวปฏิบัติที่ดีที่สุดตามหลักวิทยาศาสตร์เพื่อระบุพื้นที่โครงการใหม่ เลือกพันธุ์ไม้ที่เหมาะสม และดูแลรักษาป่าไม้ให้คงอยู่ได้ในระยะยาว โดยมีการติดตามผลการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกันก็ให้โอกาสทางเศรษฐกิจแก่ชุมชนท้องถิ่นอีกด้วย

นอกจากการมอบเงินทุนสนับสนุนโครงการฟื้นฟูป่าไม้ พันธมิตรยังเชิญชวนผู้บริโภคเข้าร่วม โดยสนับสนุนให้ผู้คนทำกิจกรรมที่เป็นมิตรต่อสภาพอากาศหรือบริจาคเงินเป็นการส่วนตัวผ่านแพลตฟอร์มการบริจาค องค์กรที่เข้าร่วมแนวร่วมในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ได้แก่ 1derful และ Archa ในออสเตรเลีย รวมถึงธนาคารอีกหลายแห่งในไต้หวัน เช่น The Shanghai Commercial & Savings Bank, DBS, Mega International Commercial Bank, Taiwan Cooperative Bank, Taiwan Shin Kong Commercial Bank และ KGI Bank

เครื่องคำนวณปริมาณคาร์บอน : ESG ฟินเทคโซลูชัน ที่ช่วยให้ธนาคารสนับสนุนการใช้จ่ายที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

เพื่อให้ลูกค้าเข้าใจถึงผลกระทบการใช้จ่ายของพวกเขาที่มีต่อสิ่งแวดล้อม ทางบริษัทฯ จึงได้พัฒนา เครื่องคำนวณการปล่อยปริมาณคาร์บอน มาสเตอร์การ์ด โดยร่วมมือกับ Doconomy ฟินเทคสัญชาติสวีเดน มี API ที่ใช้งานได้ง่ายทำให้ธนาคารและกลุ่มฟินเทคสามารถฝังการติดตามคาร์บอนในผลิตภัณฑ์ดิจิทัลของพวกเขาเพื่อให้ลูกค้าสามารถดูและสามารถประเมินปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการซื้อสินค้าและบริการ ปริมาณก๊าซเรือนกระจกของผู้ใช้งานจะถูกรวบรวมข้อมูลเป็นรายเดือนจากการซื้อสินค้าและบริการหลากหลายประเภทเพื่อที่ว่าพวกเขาจะทำความเข้าใจถึงจุดที่พวกเขาเป็นผู้ที่สร้างผลกระทบมากที่สุดได้ดียิ่งขึ้นและปรับพฤติกรรมที่สามารถส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงได้อย่างแท้จริง

ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2565 O-Bank ธนาคารสัญชาติไต้หวันเป็นธนาคารแห่งแรกที่นำเอาเครื่องคำนวณคาร์บอนมาใช้ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก หลังจากนั้นไม่นาน Taiwan Shin Kong Commercial Bank หนึ่งในพันธมิตรแนวร่วม Priceless Planet Coalition ประกาศว่าทางธนาคารจะให้บริการเครื่องมือคำนวณคาร์บอนแก่ลูกค้าเร็วๆ นี้ อีกด้วย

การสร้างเศรษฐกิจดิจิทัลที่ยั่งยืน

มาสเตอร์การ์ดมีความมุ่งมั่นที่จะสร้างโลกให้ทุกคนมีส่วนร่วมและมีความยั่งยืนมากขึ้น ด้วยเศรษฐกิจดิจิทัลที่ดีต่อทุกคนและทุกแห่ง ทางบริษัทฯ ได้เร่งรัดการดำเนินการตามเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ให้เร็วขึ้น ภายในปีพ.ศ. 2583 และขยายโมเดลสวัสดิการตอบแทนให้กับพนักงานทุกคน โดยเชื่อมโยงโมเดลนี้กับสามประเด็นหลักคือ สิ่งแวดล้อม สังคม และหลักบรรษัทภิบาล (ESG) ในส่วนห้องปฏิบัติการนวัตกรรมที่ยั่งยืนระดับโลก มาสเตอร์การ์ดกำลังพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้การค้ายั่งยืนยิ่งขึ้น รวมถึงบริการที่จะช่วยให้ลูกค้านำโซลูชันที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมไปยังผู้บริโภคทั่วโลก

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวร่วม Priceless Planet Coalition หรือต้องการเข้าร่วมเป็นพันธมิตร สามารถเข้าชมผ่านทางเว็บไซต์ PricelessPlanet.org.