คุยกับหัวเรือใหญ่ Beacon VC ในโครงการ KATALYST STARTUP LAUNCHPAD 2022

อย่างที่เราทราบกันดีว่าสตาร์ทอัพหลายรายในช่วงที่ผ่านมาได้ช่วยเปลี่ยนแปลงชีวิตความเป็นอยู่ หรือแม้แต่ภาคธุรกิจเป็นอย่างมาก และสตาร์ทอัพเองก็ได้เติบใหญ่จนกลายเป็นบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่มีจำนวนไม่น้อย

แน่นอนว่าสตาร์ทอัพไทยเองก็อยากจะก้าวไปสู่จุดนั้น แต่สตาร์ทอัพของไทยหลายรายเองก็ประสบปัญหากับความเปลี่ยนแปลงทั้งปัจจัยเศรษฐกิจกับเทรนด์ของลูกค้าที่เปลี่ยนไป หรือแม้แต่กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ ปัจจัยดังกล่าวอาจทำให้สตาร์ทอัพไทยพบกับทางตันได้

วันนี้ Positioning จะพาไปคุยกับ คุณธนพงษ์ ณ ระนอง กรรมการผู้จัดการ Beacon VC ซึ่งเป็นบริษัทเงินร่วมทุนของธนาคารกสิกรไทย ที่ได้ลงทุนในสตาร์ทอัพมากมายมาแล้วหลายโครงการด้วยกัน ว่าสตาร์ทอัพไทยนั้นเป็นอย่างไรบ้างในช่วงนี้ และโครงการ KATALYST STARTUP LAUNCHPAD ของทางธนาคารกสิกรไทย จะช่วยสตาร์ทอัพของไทยให้เข้มแข็งได้อย่างไร

โลกของสตาร์ทอัพเปลี่ยนไปอย่างมาก

กรรมการผู้จัดการ Beacon VC ได้กล่าวถึงเรื่องของในปี 2022 นี้อาจเป็นปีที่สตาร์ทอัพทั่วโลกจะต้องปรับตัวอย่างมาก เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกซบเซา ที่มาจากผลกระทบของการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ ขณะเดียวกันตลาดหุ้นสหรัฐมีความผันผวน รวมถึงสงครามที่รัสเซียได้บุกประเทศยูเครน ทำให้คาดว่าเม็ดเงินลงทุนในสตาร์ทอัพในปี 2022 นี้น่าจะลดลง เนื่องจากนักลงทุนให้ความระมัดระวัง

ทางด้านสตาร์ทอัพของไทยนั้น คุณธนพงษ์ มองว่าอาจเห็นผลกระทบดังกล่าวไม่เท่ากับสหรัฐอเมริกา เนื่องจากสตาร์ทอัพในประเทศไทยส่วนใหญ่อยู่ในขั้นให้เงินลงทุนเริ่มต้น (Seed) แต่อาจได้เห็นนักลงทุนจากต่างประเทศลดลงบ้าง แต่ในช่วงที่ผ่านมาสตาร์ทอัพไทยในช่วงที่ผ่านมาจะเห็นว่าพฤติกรรมผู้บริโภคในไทยได้เปลี่ยนไปหลังจากการแพร่ระบาดของโควิด-19

นอกจากนี้ยังมีปัญหาในเรื่องของการหานักพัฒนาโปรแกรม (Developer) ที่มีการแข่งขันสูงกับบริษัทที่ไม่ใช่สตาร์ทอัพ เนื่องจากบริษัทเหล่านี้กำลังปรับตัวเข้ากับโลกดิจิทัลมากขึ้น ส่งผลทำให้มีการแย่ง Developer คุณธนพงษ์ยังมองว่ารูปแบบตลาดที่เปลี่ยนไป ยังทำให้สตาร์ทอัพไทยจะต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำธุรกิจอีกด้วย

คุณธนพงษ์ ณ ระนอง – กรรมการผู้จัดการ Beacon VC

ความร่วมมือกับ Thailand Research Consortium สนับสนุนงานวิจัยของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด

คุณธนพงษ์ เล่าถึงทางธนาคารกสิกรไทยนั้นได้เข้าร่วมโครงการ Thailand Research Consortium เป็นปีที่ 3 แล้ว และได้ร่วมมือกับภาคเอกชนอีกหลายบริษัท ซึ่งธนาคารกสิกรไทยเองก็เป็นหนึ่งในสมาชิกในองค์กรดังกล่าว

ในส่วนประเด็นหัวข้อวิจัยของธนาคารกสิกรไทยที่กำลังทำอยู่นั้นมีหลายเรื่อง หนึ่งในหัวข้อที่ทาง Beacon VC ช่วยดูแลอยู่นั้นคือเรื่องของการเป็นผู้ประกอบการ (Entrepreneurship) และเรื่องที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสตาร์ทอัพเป็นหลัก  ซึ่งในประเทศไทยเองนั้นไม่ว่าจะเป็นกลุ่มของสตาร์ทอัพหรือ SME ยังคงต้องการการสนับสนุนทั้งในด้านองค์ความรู้ของการพัฒนาเป็นผู้ประกอบการและวิธีการดำเนินธุรกิจอีกด้วย

โดยเนื้อหานั้นจะเป็นการถ่ายทอดองค์ความรู้ในหลักสูตรแบบ E-Learning ซึ่งผ่านการออกแบบโดยรองศาสตราจารย์ Charles (Chuck) Eesley จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด และในระหว่างช่วงการเรียน ยังมีกลุ่ม Mentor ทั้งในและต่างประเทศ เข้ามาช่วยให้คำแนะนำอีกด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการวิจัยภายใต้ The Stanford Thailand Research Consortium

มารู้จักโครงการ KATALYST STARTUP LAUNCHPAD คร่าว

สำหรับโครงการ KATALYST STARTUP LAUNCHPAD นั้นจัดทำขึ้นเป็นปีที่ 3 แล้ว โดยใช้ Concept Jumpstart your idea through entrepreneurial mindset ผ่านการเรียนรู้ด้วย e-Learning Program และการทำ Project พร้อมทั้งมี Mentor ที่ช่วย Coaching ตลอดโครงการ

คุณธนพงษ์ เล่าว่าโครงการในปีแรกถือว่าลองผิดลองถูกกับทางคนที่สมัครในโครงการ และคนที่อยู่รอดมาถึงตอนสุดท้ายมีอยู่ไม่มาก แต่คุณธนพงษ์ชี้ว่าคนที่อยู่รอดมาได้ถือว่าเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพจริงๆ และหลายคนได้สร้างธุรกิจที่อยู่จนถึงทุกวันนี้ ขณะที่โครงการในปีที่ 2 ก็ได้มีการปรับจูนมากขึ้น

เขายังมองว่า ในประเทศไทยเอง ตอนนี้ขาดองค์กรที่จะเข้ามาดูแลเหล่าสตาร์ทอัพในกลุ่ม Early Stage ทำให้ธนาคารกสิกรไทยเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยดูแลสตาร์ทอัพกลุ่มนี้ด้วย โดยเป้าหมายของเราคือช่วยสร้างสตาร์ทอัพใหม่ๆ โดยการให้ความรู้ และสร้างความเข้าใจในการดำเนินธุรกิจ อีกทั้งยังเป็นการสร้าง Mindset ที่ดีเพื่อให้บริหารธุรกิจได้ดีขึ้น

ฉะนั้นแล้วในเองจะมีการฝึกฝนอย่างเข้มข้นภายใต้ระยะเวลา 2 เดือน ไม่ว่าจะเป็น การวางแผนธุรกิจ
หรือหาความต้องการของลูกค้า การวาง Business Model ไปจนถึงเรื่องของ Financial ของธุรกิจ
ซึ่งถือว่าเป็นหลักสูตรระดับโลก

นอกจากนี้ ในโครงการยังมีการพูดคุยและได้รับคำแนะนำจาก Mentor และสตาร์ทอัพที่มีชื่อเสียงจากทั้งในไทยและต่างประเทศ รวมไปถึงทีมงานจากและ Beacon VC เอง ที่จะทำให้ผู้เข้าร่วมโครงการได้รับความรู้ ซึมซับประสบการณ์ที่หาไม่ได้ในประเทศไทย รวมถึงได้รับองค์ความรู้ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในประเทศไทยได้
ดังนั้นแล้วผู้ที่เข้าร่วมโครงการจะได้ความรู้อย่างอัดแน่นในการทำธุรกิจรอบด้านอย่างแท้จริง

สิ่งดีๆ ที่เกิดในโครงการ KATALYST STARTUP LAUNCHPAD

ในโครงการที่ผ่านมา 2 ปีแล้วนั้น คุณธนพงษ์ ได้ชี้ให้เห็นว่าสตาร์ทอัพไทยที่เข้าร่วมโครงการนี้จะต้องมีวินัย และระเบียบในการทำงานอย่างไร เนื่องจากคอร์สนี้ให้ความรู้อย่างเต็มเปี่ยมและเข้มข้นมากเมื่อเทียบกับโครงการอื่นๆ ในไทย เช่น ต้องมีความรับผิดชอบในการส่งการบ้านให้ตรงเวลา เป็นต้น สิ่งเหล่านี้จะทำให้สตาร์ทอัพไทยเห็นว่าสตาร์ทอัพในต่างประเทศที่ประสบความสำเร็จนั้นมีกระบวนการคิด รวมถึงความมีวินัย และความรับผิดชอบอย่างไร

เขายังได้เสริมว่าในปี 2022 นี้มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เปลี่ยนแปลงไปในโลกของสตาร์ทอัพ หากสตาร์ทอัพไทยยังอยู่แบบเดิมๆ ก็แล้วอาจไม่เป็นผลดีในระยะยาว เช่น มุมมองที่ว่าสตาร์ทอัพจะต้องเน้นหาลูกค้าเยอะๆ ไว้ก่อน เป็นต้น แต่ปัจจุบันสตาร์ทอัพหลายบริษัทก็เริ่มที่จะคำนึงถึงคิดถึงการดำเนินธุรกิจในระยะยาว ทำอย่างไรให้ธุรกิจอยู่รอดหรือทำอย่างไรให้ขาดทุนน้อยลง การที่มี Mentor ต่างประเทศเข้ามาช่วยให้ความรู้ แชร์ประสบการณ์ที่เจอก็อาจทำให้สตาร์ทอัพในไทยเปลี่ยนมุมมองได้เช่นกัน

นอกจากการเข้าร่วมโครงการนี้จะมีการเรียนออนไลน์แล้ว ในปีนี้โครงการ KATALYST ก็จะมีการจัดกิจกรรมเพื่อที่จะให้สตาร์ทอัพที่เข้าร่วมโครงการ รวมไปถึงและรุ่นพี่ในโครงการปีที่ 1-2 และบริษัทที่ Beacon VC ได้ลงทุนมาพบเจอกันด้วย

เราจะเห็นว่าโครงการ KATALYST นั้นเป็นโครงการที่คอยช่วยเหลือสตาร์ทอัพไทยในด้านต่างๆ เพื่อมุ่งหวังให้บริษัทเหล่านี้สามารถโตได้อย่างมั่นคงในอนาคต ขณะเดียวกันทางธนาคารกสิกรไทยเองก็ต้องการสร้างคอมมิวนิตี้ของสตาร์ทอัพไทยเพื่อให้เกิดการเชื่อมต่อต่างๆ ในด้านธุรกิจในอนาคตด้วย

ทีมงานของ TinyEpicBrains ซึ่งเป็นหนึ่งในสตาร์ทอัพที่เข้าร่วมโครงการ KATALYST ครั้งที่ผ่านมา

มุมมองจากผู้เข้าร่วมโครงการ KATALYST ครั้งที่ผ่านมา

หลังจากที่เราได้เห็นภาพรวมของโครงการ KATALYST ไปแล้วนั้น คราวนี้เราจะมาดูว่าผู้เข้าร่วมโครงการในปีที่ผ่านมากล่าวถึงประสบการณ์ในการเข้าร่วมโครงการดีๆ แบบนี้อย่างไรบ้าง

คุณธนพงศ์ อินทระ Co-Founder บริษัท TinyEpicBrains ซึ่งทำ QR Code ล่องหน ได้กล่าวว่าที่เข้าร่วมโครงการนี้เพราะว่าต้องการที่จะขยายธุรกิจ และต้องการที่จะขายผลิตภัณฑ์ของบริษัทแต่ประสบปัญหาว่าจะเข้าถึงลูกค้าเหล่านี้อย่างไร จึงทำให้ทาง TinyEpicBrains เข้าร่วมโครงการ KATALYST

ประสบการณ์ที่ได้รับหลังจากผ่านโครงการนี้ก็คือ ถ้าหากเรารู้ว่าธุรกิจของเราไปในทิศทางนี้ไม่ได้ แล้วจะต้องมีการปรับเปลี่ยนไปอีกทิศทาง เราจะต้องทำอย่างไร จะต้องทดลองกับตลาดอย่างไร นอกจากนี้เรื่องของ Mentor ที่เลือกนั้น สามารถคุยติดต่อได้ตลอดเวลา ปรึกษาได้เสมอ แม้ว่าจะจบโครงการนี้ไปแล้ว รวมถึงเพื่อนๆ ที่ร่วมโครงการ และทีมงาน KATALYST ที่ยังสามารถติดต่อกันได้จนถึงทุกวันนี้

คุณวีร์ สิรสุนทร – ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานกรรมการบริหาร บริษัท พรีโมเวิร์ล จำกัด

คุณวีร์ สิรสุนทร ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานกรรมการบริหาร บริษัท พรีโมเวิร์ล จำกัด ซึ่งทำ Solution ด้านการตลาดให้กับลูกค้า ได้กล่าวว่าที่เข้าร่วมโครงการ KATALYST เพราะมีไม่บ่อยนักที่หลักสูตรที่เกี่ยวกับสตาร์ทอัพจะมาจากสถาบันการศึกษา การได้เข้าร่วมโครงการนี้ถือว่าได้เรียนรู้ว่าสตาร์ทอัพระดับโลกนั้นเป็นอย่างไร

ประสบการณ์ที่ได้รับคือ การนำองค์ความรู้มาใช้ แม้ว่าจะจบโครงการนี้ แต่ความรู้ที่ได้จากโครงการ เช่น เมื่อบริษัทกำลังจะขึ้นโปรแกรมเวอร์ชันใหม่ ก็จะมาดูว่าความต้องการของลูกค้าคืออะไร การจัดเรียงลำดับความสำคัญของฟังก์ชั่นโปรแกรมแต่ละเวอร์ชันต้องทำอย่างไร รวมถึงการจัดการแนวทางที่มีระบบมากขึ้น ซึ่งมีประโยชน์มาก

กรรมการผู้จัดการ Beacon VC ยังได้กล่าวทิ้งท้ายว่า อยากให้สตาร์ทอัพที่มีแนวคิด หรือมีบริการให้กับลูกค้าในระดับหนึ่งแล้วเข้ามาร่วมโครงการนี้ เนื่องจากหลักสูตรนี้จะช่วยพัฒนาธุรกิจของตัวเองให้ดีขึ้น รวมถึงอยากมาเข้าใจรูปแบบธุรกิจของสตาร์ทอัพในต่างประเทศนั้นเป็นอย่างไร

ท้ายที่สุดแล้วเราจะเห็นว่ามีไม่บ่อยนักที่หลักสูตรที่เกี่ยวข้องกับสตาร์ทอัพที่มหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกจะมาเปิดสอนให้กับผู้เข้าร่วมโครงการฟรีๆ นอกจากนี้ยังมี Mentor ทั่วโลกรวมถึงของ Beacon VC ซึ่งเป็นบริษัทร่วมลงทุนของทางธนาคารกสิกรไทยนั้นให้คำแนะนำอีกด้วย นอกจากจะเข้าเรียนฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายแล้ว เรายังมีเงินรางวัลและสิทธิประโยชน์มูลค่ารวมกว่า 8 แสนบาท ถ้าหากผ่านเข้ารอบในสัปดาห์สุดท้าย

หากสตาร์ทอัพไทยรายใดที่ต้องการจะเพิ่มศักยภาพ อยากที่จะเติบโตเหมือนสตาร์ทอัพระดับโลก สามารถสมัครโครงการนี้ได้ผ่านทาง https://katalyst.kasikornbank.com/th/Pages/startup_launchpad2022.html ซึ่งโครงการจะหมดเขตรับสมัครในวันที่ 31 กรกฏาคมที่จะถึงนี้แล้ว

#KATALYSTbyKBank

#เพื่อนสนิทของชาวสตาร์ทอัพ

#KATALYSTSTARTUPLAUNCHPAD2022