ลุยที่อยู่อาศัยเต็มตัว! “CPN” ปักหมุดบ้าน-คอนโดฯ 27 จังหวัด ชูจุดขาย “ติดห้าง” ทำเลทอง

CPN
“เซ็นทรัลพัฒนา” (CPN) หลังจากชิมลางในตลาดที่อยู่อาศัยมา 8 ปี ตั้งแต่ปีนี้จะเริ่มลงสนามแข่งขันเต็มตัว ตั้งเป้าเปิดเพิ่ม 50 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 40,000 ล้านบาท ภายใน 5 ปี ครอบคลุม 27 จังหวัดทั่วไทย ชูจุดขาย “ติดห้าง” ลูกบ้านสะดวก ทำเลทองมูลค่าไม่ตก เลือกดึงลูกค้าระดับ ‘ครีม’ ของจังหวัด กลุ่ม B ขึ้นไปที่มีกำลังซื้อสูง

บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN เริ่มเปิดส่วนงานธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเมื่อ 8 ปีก่อน และเริ่มเปิดตัวคอนโดมิเนียม 3 แห่งแรกพร้อมกันเมื่อปี 2559 โดยเน้นทำเล ‘ติดห้าง’ ลงทุนควบคู่ไปกับศูนย์การค้า

ปรากฏว่าโมเดลธุรกิจนี้ไปได้ดี สร้างยอดขายได้ต่อเนื่อง พร้อมกับที่ CPN มีแผนพัฒนาด้วยโมเดลมิกซ์ยูส สร้างโครงการที่มีทั้งศูนย์การค้า ที่อยู่อาศัย โรงแรม ออฟฟิศ ในบริเวณเดียวกัน ทำให้กลุ่มที่อยู่อาศัยกำลังจะขึ้นมาเป็น ‘พระเอก’ อีกรายหนึ่งในพอร์ตบริษัท

CPN ที่อยู่อาศัย
“วัลยา จิราธิวัฒน์” กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา

“วัลยา จิราธิวัฒน์” กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา เปิดเผยแผนการลงทุนของบริษัท ตั้งเป้าเปิดตัวโครงการบ้านและคอนโดฯ เพิ่ม 50 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 40,000 ล้านบาท ภายใน 5 ปี (2565-2570) ครอบคลุม 27 จังหวัดทั่วไทย และจะทำให้รายได้ส่วนที่อยู่อาศัยเติบโตเฉลี่ยปีละ 20% ใน 5 ปีข้างหน้า

ปัจจุบันพอร์ตที่อยู่อาศัยทำรายได้ให้เซ็นทรัลพัฒนาคิดเป็นสัดส่วน 7-8% ของบริษัท แต่เมื่อเร่งขยายพอร์ตเพิ่มจะทำให้รายได้ ณ ปี 2570 น่าจะมีสัดส่วนถึง 15% ของบริษัท

ที่อยู่อาศัย CPN
แผนงาน 5 ปีของเซ็นทรัลพัฒนาในกลุ่มที่อยู่อาศัย

 

จุดขาย “ติดห้าง” ทำเลทองของจังหวัด

จุดเด่นที่แข็งแกร่งของที่อยู่อาศัยเซ็นทรัลพัฒนา คือ การอยู่ในมิกซ์ยูสติดกับศูนย์การค้าในเครือเซ็นทรัล เช่น เซ็นทรัล, โรบินสัน ไลฟ์สไตล์, ศูนย์การค้าพิเศษของเซ็นทรัล กรุ๊ป ซึ่งมักจะเป็นทำเลทองของจังหวัดนั้นๆ อยู่แล้ว

“ร.อ.กรี เดชชัย” President, Residential Business บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า ปกติเมื่อเซ็นทรัลเปิดศูนย์การค้าที่จังหวัดใด ก็มักจะมีดีเวลอปเปอร์ตามมาเปิดโครงการอสังหาริมทรัพย์ เพราะเป็นการการันตีว่าเป็นจังหวัดที่มีกำลังซื้อ และยิ่ง CPN มีการพัฒนาที่อยู่อาศัยติดห้างด้วยตนเอง ก็ยิ่งคาดการณ์ได้ว่าพื้นที่บริเวณนั้นจะเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงขึ้น ตามความเจริญที่เกิดจากการสร้างศูนย์การค้า

C
“ร.อ.กรี เดชชัย” President, Residential Business บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา

เป็นเหตุให้บ้านและคอนโดฯ ของเซ็นทรัลพัฒนาขายได้ดี เพราะลูกค้าเชื่อมั่น การซื้ออยู่อาศัยก็สะดวกสบายเพราะติดกับศูนย์ฯ หรือจะเก็บไว้เป็นมรดกให้ลูกหลานก็จะมีมูลค่าเพิ่ม และยังได้สิทธิประโยชน์จากศูนย์ฯ ด้วยในฐานะลูกบ้าน เช่น ส่วนลดร้านค้า ที่จอดรถพิเศษ

“เราเพิ่งเปิดคอนโดฯ เอสเซ็นท์ หาดใหญ่ ติดกับเซ็นทรัล เฟสติวัล หาดใหญ่ ไปเมื่อต้นปี 2564 มีทั้งหมด 660 ยูนิต แต่ขายหมด Sold Out ในเวลาไม่ถึง 1 ปี ทั้งที่เปิดตัวในช่วงโควิด-19 ยังระบาดอยู่” ร.อ.กรีกล่าว

 

แบ่ง 5 แบรนด์เกาะลูกค้าระดับ B ขึ้นไป

ด้านแบรนด์อสังหาฯ ที่มีในพอร์ตของ CPN แบ่งเป็น 5 แบรนด์ ดังนี้

  • Phyll (ฟีล) คอนโดฯ ราคา 3 ล้านบาทขึ้นไป
  • Escent (เอสเซ็นท์) คอนโดฯ ราคา 2-3 ล้านบาท
  • Niyham (นิยาม) บ้านเดี่ยวราคา 25 ล้านบาทขึ้นไป
  • Ninya (นินญา) บ้านเดี่ยวราคา 10-25 ล้านบาท
  • Nirati (นิรติ) ทาวน์โฮม บ้านแฝด ราคา 5-10 ล้านบาท
5 แบรนด์ที่อยู่อาศัยในเครือเซ็นทรัลพัฒนา

จะเห็นได้ว่ากลุ่มราคาจะเจาะกลุ่มลูกค้าระดับ B ขึ้นไป ถ้าเป็นตลาดต่างจังหวัดที่เป็นเป้าหมายหลักของ CPN ก็นับได้ว่าจับกลุ่ม ‘ครีม’ ของจังหวัด ผู้มีกำลังซื้อสูงและได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจน้อยในช่วงที่ผ่านมา

“การเลือกจังหวัดไหนนั้น เราจะใช้กลยุทธ์ ‘Retail-led’ นั่นคือจะนำรีเทลไปเปิดตัวก่อนสักระยะหนึ่ง เพื่อศึกษากำลังซื้อผู้บริโภคในจังหวัดนั้นว่ามีมากน้อยแค่ไหน ไลฟ์สไตล์เป็นอย่างไร ชื่นชอบที่อยู่อาศัยแบบใด แนวราบหรือแนวสูง ก่อนที่จะนำที่อยู่อาศัยเข้าไปลงทุน” วัลยากล่าว

“การเลือกจังหวัดไหนนั้น เราจะใช้กลยุทธ์ ‘Retail-led’ นั่นคือจะนำรีเทลไปเปิดตัวก่อนสักระยะหนึ่ง เพื่อศึกษากำลังซื้อผู้บริโภคในจังหวัดนั้นว่ามีมากน้อยแค่ไหน ไลฟ์สไตล์เป็นอย่างไร ชื่นชอบที่อยู่อาศัยแบบใด แนวราบหรือแนวสูง ก่อนที่จะนำที่อยู่อาศัยเข้าไปลงทุน”

CPN ได้เปรียบมากในข้อนี้ เพราะทุกจังหวัดที่เริ่มเปิดตัวศูนย์การค้าจะทำให้ได้ฐานสมาชิก The 1 ทราบกำลังซื้อและโปรไฟล์ของลูกค้าได้อย่างชัดเจน

ส่วนการแข่งขันในกรุงเทพฯ-ปริมณฑลจะค่อนข้างสูงกว่าเพราะที่ดินมีจำกัด ทำให้ CPN จะเน้นโครงการแนวราบในระยะใกล้ศูนย์ฯ “แต่ไม่ใช่ว่าเราปิดโอกาสทั้งหมด ถ้าเราสามารถหาที่ดินได้ ทำได้ในกรุงเทพฯ เราจะไม่หยุดในการพัฒนาคอนโดฯ” วัลยากล่าว

 

ปี’65 เปิด 6 โครงการ 6 จังหวัด

สำหรับแผนระยะใกล้ของปี 2565 ร.อ.กรีระบุว่าบริษัทมีแผนเปิดตัวทั้งหมด 6 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 6,500 ล้านบาท ทั้งหมดจะเปิดตัวในช่วงครึ่งปีหลังนี้ ได้แก่

แผนการเปิดโครงการในปี 2565
  • เอสเซ็นท์ สุราษฎร์ธานี ติดกับเซ็นทรัล สุราษฎร์ธานี
  • เอสเซ็นท์ สุพรรณบุรี ติดกับโรบินสัน ไลฟ์สไตล์ สุพรรณบุรี
  • เอสเซ็นท์ ฉะเชิงเทรา ติดกับโรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ฉะเชิงเทรา
  • เอสเซ็นท์ ตรัง ติดกับโรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ตรัง
  • นินญา ราชพฤกษ์ ใกล้กับเซ็นทรัล เวสต์วิลล์
  • นิรติ เชียงใหม่ ใกล้กับเซ็นทรัล เชียงใหม่

ด้านเป้าหมายยอดขายปีนี้วางไว้ที่ 5,500 ล้านบาท และเป้ารายได้ 3,000 ล้านบาท จากโครงการที่อยู่ระหว่างขายต่างๆ เช่น นิรติ เชียงราย, นิยาม บรมราชชนี, นินญา กัลปพฤกษ์, เอสเซ็นท์ พาร์ควิลล์ เชียงใหม่, เอสเซ็นท์ ระยอง 2, ฟีล ภูเก็ต เป็นต้น

“นี่คือการเปิดตัวครั้งใหญ่ว่า CPN จะลุยตลาดที่อยู่อาศัยอย่างจริงจัง เราหวังว่าในปี 2570 รายได้ธุรกิจที่อยู่อาศัยของเราจะขึ้นไปแตะ 10,000 ล้านบาทสำเร็จ” ร.อ.กรีกล่าวปิดท้าย