‘WHO’ ประกาศให้ ‘โรคฝีดาษลิง’ เป็น ‘ภาวะฉุกเฉิน’ ด้านสุขภาพทั่วโลก

องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ได้เปิดใช้งานระดับการแจ้งเตือนสูงสุดสำหรับการระบาดของ โรคฝีดาษลิง ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยประกาศว่าไวรัสเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศที่น่ากังวล

เนื่องจากการติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ เทดรอส อัดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก ประกาศเตือนภัยสูงสุด สำหรับการระบาดของ โรคฝีดาษลิง การประกาศดังกล่าวชี้ให้เห็นว่า WHO มองว่าการระบาดเป็นภัยคุกคามที่สำคัญเพียงพอต่อสุขภาพของโลกที่จำเป็นต้องมีการตอบสนองและประสานงานกันระหว่างประเทศ เพื่อป้องกันไม่ให้ไวรัสแพร่กระจายต่อไปและอาจทวีความรุนแรงขึ้น

“เรามีการระบาดที่แพร่กระจายไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว ผ่านรูปแบบการแพร่เชื้อแบบใหม่ ซึ่งเราเข้าใจน้อยเกินไป ด้วยเหตุผลทั้งหมดเหล่านี้ ฉันได้ตัดสินใจว่าการระบาดของฝีดาษลิงทั่วโลกถือเป็นเหตุฉุกเฉินด้านสาธารณสุขที่น่าเป็นห่วงในระดับนานาชาติ”

ข้อมูลของ WHO ระบุว่า มีรายงานผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงมากกว่า 16,000 รายในกว่า 70 ประเทศ จนถึงปีนี้ และจำนวนผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันเพิ่มขึ้นถึง 77% นับจากช่วงปลายเดือนมิถุนายนจนถึงต้นเดือนกรกฎาคม ปัจจุบันยุโรปเป็นศูนย์กลางของการระบาดทั่วโลก ในส่วนของจำนวนผู้เสียชีวิตที่ได้รับการยืนยันมีทั้งหมด 5 รายในแอฟริกา โดยจนถึงปัจจุบันยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตนอกแอฟริกา

สำหรับโรคฝีดาษลิง หรือ (Monkeypox) ไม่ใช่ไวรัสตัวใหม่เหมือนกับ Covid-19 โดยนักวิทยาศาสตร์ค้นพบโรคฝีดาษในลิงครั้งแรกในปี 1958 ในลิงที่ถูกเลี้ยงไว้เพื่อใช้ในการวิจัยในเดนมาร์ก และยืนยันกรณีแรกของมนุษย์ที่ติดเชื้อไวรัสในปี 1970 ในประเทศซาอีร์ ซึ่งปัจจุบันเรียกว่าสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก

โดยส่วนใหญ่ไวรัสแพร่กระจายผ่านการสัมผัสทางผิวหนังระหว่างมีเพศสัมพันธ์ ผู้ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายมีความเสี่ยงสูงสุดในขณะนี้ โดยผู้เชี่ยวชาญโรคฝีดาษของ WHO กล่าวว่า 99% ของกรณีที่มีการรายงานนอกแอฟริกาอยู่ในกลุ่มผู้ชาย และ 98% ของการติดเชื้ออยู่ในกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย อย่างไรก็ตาม WHO และ CDC ได้เน้นย้ำว่าทุกคนสามารถจับโรคฝีดาษได้โดยไม่คำนึงถึงรสนิยมทางเพศ

ทั้งนี้ นักวิทยาศาสตร์ในสเปนและอิตาลีตรวจพบ DNA ไวรัสโรคฝีดาษในน้ำอสุจิจากผู้ป่วยที่เป็นบวก แม้ว่าจะยังไม่ชัดเจนว่าไวรัสสามารถแพร่กระจายผ่านทางน้ำอสุจิระหว่างมีเพศสัมพันธ์ได้หรือไม่ นอกจากนี้ นักวิทยาศาสตร์ชาวสเปนยังตรวจพบ DNA ของฝีดาษในตัวอย่างน้ำลาย

สำหรับอาการเบื้องต้นของผู้ติดเชื้อ จะคล้ายกับอาการของไข้หวัดใหญ่ อาทิ มีไข้ หนาวสั่น ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ อ่อนเพลีย ก่อนจะเกิดผื่นและกลายเป็นตุ่มหนอง