ฝ่าวิกฤตด้วย One Dtac

ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2554 เป็นต้นมา ทุกวันแรกของวันทำงานในแต่ละเดือน พนักงานดีแทคกว่า 6,000 คน ต้องใส่เสื้อสีน้ำเงินที่มีคำว่า “One Dtac” เพื่อกระตุ้นเตือนความสามัคคีและร่วมมือกันเพื่อฟันฝ่าอุปสรรคทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับดีแทค

วิกฤตที่ “ดีแทค” ได้เผชิญนั้นเป็นเวลานานกว่า 4 เดือนแล้ว จากการฟ้องร้องกับ “ทรู คอร์ปอเรชั่น” จนโยงมาถึงการถูกตรวจสอบว่าเป็นบริษัทต่างด้าวที่ไม่มีสิทธิประกอบธุรกิจสื่อสารในไทยหรือไม่ นอกเหนือจากความสั่นคลอนภายในเอง เมื่อมีการโยกย้าย และไล่ผู้บริหารบางคนออก หลังจากซีอีโอใหม่ “จอน เอ็ดดี้ อับดุลลาห์” เข้ารับตำแหน่งได้เพียง 4 เดือน

ข่าวทางลบขององค์กรย่อมส่งผลต่อขวัญและกำลังใจของพนักงาน โครงการ 3G ยังไม่ได้ลงทุน Wi-Fi ก็ไม่มี คุณภาพบริการของดีแทคก็เริ่มลดลง หากปล่อยไปอีกนานไม่เพียงเก้าอี้ซีอีโอจะไม่มั่นคงเท่านั้น แต่แบรนด์ดีแทคอาจเสียหายได้

จนเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคมที่ผ่านมา “จอน” ได้จัดอีเวนต์เพื่อให้เข้าถึงใจพร้อมกับปลุกขวัญเพนักงาน ภายใต้คอนเซ็ปต์ “One Dtac” ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ด้วยจำนวนพนักงานในงานกว่า 3,000 คน และส่งวิดีโอลิงค์ไปทั่วประเทศถึงพนักงานอีกกว่า 3,000 คน เพื่อส่ง Message ว่าหากพนักงานร่วมมือร่วมใจกันองค์กรก็จะผ่านอุปสรรคไปได้

นับเป็นแคมเปญที่ 2 ของ “จอน” ที่ตอนรับตำแหน่งซีอีโอใหม่ๆ ได้ออกแคมเปญ I’m listening to you. ที่มีโปสเตอร์ติดทั่วออฟฟิศดีแทค เพื่อแสดงถึงการเปิดกว้างรับฟังความเห็นจากพนักงาน สำหรับ One Dtac นับเป็นแคมเปญเฉพาะกิจในช่วงวิกฤตนี้ ที่ทำให้อีเวนต์มี Theme และสานต่อด้วยการให้พนักงานใส่เสื้อ เพื่อตอกย้ำความเป็นหนึ่งเดียวขององค์กร

สำหรับรายละเอียดของงาน One Dtac ที่ศูนย์สิริกิติ์ นั้นเริ่มต้นงานด้วย VTR ที่ฉายภาพให้เห็นพนักงานคอลเซ็นเตอร์โดนลูกค้าต่อว่ารุนแรง จนทำให้เพื่อนพนักงานในอีเวนต์ซึมไปไม่น้อย เป็น Emotional Presentation ที่สื่อให้เห็นว่าหากพนักงานทุกคนละเลยหน้าที่จนทำให้บริการไม่มีคุณภาพ ก็จะเกิดเหตุการณ์อย่างที่เห็น จากนั้น “จอน” ได้เลือกวิธีการพูดคุยกับพนักงานโดยผ่านพิธีกรข่าว “บัญชา ชุมชัยเวทย์” นาน 1 ชั่วโมงครึ่ง เป็นรูปแบบที่เขาเห็นว่าดีกว่าการที่ผู้บริหารมาพูดฝ่ายเดียว แต่งานนี้ไม่ได้เปิดให้พนักงานถามตรง เพราะมีจำนวนพนักงานมากถึง 3,000 คนในงานที่ไม่สามารถจัดสรรการถามได้ลงตัว

ส่วนคำถามที่พนักงานต้องการคำตอบมากที่สุดคือความมั่นใจในอนาคต หากต้องกลายเป็นบริษัทต่างด้าว คำตอบจาก “จอน” คือเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่จะได้ข้อสรุปเร็ว เพราะกระบวนการฟ้องร้องต้องใช้เวลาอีก 7 ปี และไฮไลต์ตอนจบของงานเป็นโชว์จาก “สมศักดิ์ เหมรัญ” ชายผู้เล่นกีตาร์มือเดียวจาก Thailand’s Got Talent

งานจบลงท่ามกลางความรู้สึกอันหลากหลายของพนักงาน บางคนเชื่อมั่นใน “จอน” มากขึ้น แต่บางคนซึ้งใจในเสียงร้องของ “สมศักดิ์ เหมรัญ” มากกว่า แต่นี่ก็สิ่งที่ดีที่สุดแล้วที่ซีอีโออย่าง “จอน” จะทำได้ในสถานการณ์ที่ดีแทคกำลังเผชิญพายุลูกใหญ่ในธุรกิจสื่อสารยุคนี้

Profile
“จอน เอ็ดดี้ อับดุลลาห์” จบการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาวิศวกรรมไฟฟ้าจากมหาวิทยาลัยมอนทานา ประเทศสหรัฐอเมริกา นั่งเก้าอี้ซีอีโอหรือประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ดีแทค ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2554 โดยก่อนหน้านั้นเขาดำรงตำแหน่งซีอีโอเทเลนอร์ ปากีสถาน เคยเป็นรองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของบริษัท Maxis และรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายเทคโนโลยีของบริษัท DiGi มาเลเซีย ปัจจุบัน จอน อายุ 44 ปี