“สเวนเซ่นส์” คอลแลปส์ BLACKPINK ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ขอดึง K-Pop ปรับลุคให้วัยรุ่น


คอลแลปส์ BLACKPINK ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ 

แน่นอนว่า สเวนเซ่นส์ก็ต้องไปให้สุดด้วยการ Collaboration กับวง BLACKPINK นั่นเอง ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของแบรนด์ที่มีการคอลแลปส์กับวง K-Pop ใช้พลังของ K-Pop สร้างการรับรู้ให้มากขึ้น และปรับลุคแบรนด์ให้เด็กลง ด้วยแคมเปญ BLACKPINK LOVE SWENSEN’S

การคอลแลปส์ร่วมกันในครั้งนี้จะแตกต่างจากแคมเปญอื่นๆ ที่เราเคยเห็น ทางสเวนเซ่นส์นำ “คาแรคเตอร์” ของสมาชิกวง BLACKPINK มาใช้ในการดีไซน์สินค้าเมอร์เชนไดร์ส ของพรีเมียมต่างๆ ไม่ได้ดึงตัวศิลปินตัวจริงๆ มาเป็นพรีเซ็นเตอร์

สเวนเซ่นส์ได้นำคาแรคเตอร์ของ BLACKPINK มาสวมชุดยูนิฟอร์มเป็นสาวสเวนเซ่นส์ สินค้าเมอร์เชนไดร์สมีตั้งแต่พวงกุญแจ, แก้วน้ำ, หมอน, กระเป๋าผ้า, กระเป๋าเก็บความเย็น, บัตรสเวนเซ่นส์ 4 ลาย และ Special Box ที่พิเศษด้วยบัตรสเวนเซ่นส์ลายพิเศษอีก 1 ใบ พร้อมกับโปสการ์ดที่มาคู่กับลายเซ็นของทั้ง 4 สาว สินค้ามีราคาเริ่มต้นที่ 249 บาท ไปจนถึง 1,200 บาท

เหตุผลที่ทางสเวนเซ่นส์เลือกวง BLACKPINK นั้น ทางอนุพนธ์ นิธิยานันท์ ผู้จัดการทั่วไปบริษัท สเวนเซ่นส์ (ไทย) จำกัด บอกว่า

ถ้าดูวงแบรนด์เกาหลีในระดับท็อปๆ ก็คือ BLACKPINK มีความหวานๆ เข้ากับไอศกรีมอยู่ด้วย และมีลิซ่าที่เป็นคนไทยอยู่ในวง ผู้บริโภคเอาตุ๊กตาไปตั้งก็ยังเห็นแบรนด์สเวนเซ่นส์อยู่

การทำแคมเปญนี้ถือว่าหลุดจากความเป็นสเวนเซ่นส์อย่างมาก ก่อนหน้านี้อาจจะเคยขายสินค้าเมอร์เชนไดร์ส เคยทำแคมเปญร่วมกับเซเลบริตี้ แต่ยังไม่เคยร่วมงานกับศิลปิน หรือเซเลประดับอินเตอร์ อนุพนธ์พูดติดตลกว่า

“เป็นการหลุดกรอบจากเมนูข้าวเหนียวมะม่วง และข้าวเหนียวทุเรียน”


ต้องขยายฐานกลุ่มใหม่ 

โจทย์ใหญ่ที่สำคัญของสเวนเซ่นส์อีกอย่างหนึ่งก็คือ การทำให้แบรนด์เด็กลง ขยายฐานสู่ลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ มากขึ้นเรื่อยๆ โดยที่กลุ่มลูกค้าหลักในปัจจุบันส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มครอบครัวที่มาพร้อมกับเด็กๆ

ต้องดีไซน์สินค้าให้ตอบโจทย์ทุกกลุ่มเป้าหมายด้วย อย่างกลุ่มเด็กๆ ได้มีการดีไซน์ถ้วยไอศกรีมสำหรับเด็กมากขึ้น มีการขายเป็นคอลเล็กชั่นใหม่ๆ หรืออย่างก่อนหน้านี้ที่สเวนเซ่นส์ได้เปิดตัว “สเวนเซ่นส์ คราฟท์ บาร์” บาร์ทำไอติมสดในร้าน ก็เพื่อจับกลุ่มนิวเจนคนรุ่นใหม่มากขึ้น ปัจจุบันมีทั้งหดม 3 สาขาแล้ว ได้แก่ สยามพารากอน, เซ็นทรัลเวิลด์ และแฟชั่นไอส์แลนด์

สำหรับกลุ่มเป้าหมายหลักที่เป็นกลุ่มครอบครัว ก็มีเมนู “ข้าวเหนียมมะม่วง” และข้าวเหนียวทุเรียนเป็นตัวชูโรง พร้อมกับมีเมนูใหม่ๆ ที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนเร็วขึ้น จากเดิมที่เปลี่ยนทุก 3 เดือน ตอนนี้เปลี่ยนทุก 2 เดือน เพื่อสร้างความตื่นเต้นมากขึ้น

สำหรับแคมเปญนี้ สเวนเซ่นส์คาดว่าจะสามารถดึงดูดกลุ่มลูกค้าอายุ 15-25 ปี ให้เข้าร้านมากขึ้น สินค้าเมอร์เชนไดร์สต่างๆ จะสร้างพลังให้แบรนด์ดูเด็กลงได้

สินค้าต่างๆ จะเริ่มจำหน่ายในวันที่ 10 ส.ค. 2565 ที่ร้านสเวนเซ่นส์ทุกสาขา สินค้ามีจำนวนจำกัด และ Limited ในช่วง 2 เดือนนี้เท่านั้น หรือจนกว่าสินค้าจะหมด