26 กรกฎาคมเป็นวันแรกที่คลิปวิดีโอ Silence of Love ถูกโพสต์ลงบนยูทูบ วันที่ 28 กรกฎาคม แค่สองวันหลังจากนั้นก็มียอดผู้ชม 2 แสนราย จนถึงวันที่ 4 กรกฎาคม คลิปวิดีโอชุดนี้ มีผู้ชมไปแล้ว 8 แสนครั้ง ขึ้นเป็นกระทู้แนะนำในห้องเฉลิมไทยของเว็บไซต์พันทิป 2 กระทู้ ทั้งหมดนี้เป็นแค่ส่วนหนึ่งของความสำเร็จของ ภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ของไทยประกันชีวิต ที่ทำให้ผู้ชมน้ำตาท่วมจอได้ภายใน 3 นาที เพราะคิดถึงพ่อในเดือนของวันแม่
ข่าวสร้างแรงบันดาลใจ
เบื้องหลังการทำงานของภาพยนตร์โฆษณาของไทยประกันชุดนี้ เป็นผลจากไอเดียของ กรณ์ เทพินทราภิรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารสร้างสรรค์ (Executive Creative Director), บริษัท โอกิลวี่ แอนด์ เมเธอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งตอนนี้เขากลายเป็นเจ้าพ่อดราม่าของวงการโฆษณา นอกจากไทยประกันที่ทำให้ผู้ชมซาบซึ้งกับหนังของไทยประกันได้แล้ว งานอีกชิ้นที่เป็นผลงานของเขาที่สร้างสรรค์ความประทับใจด้วยความดราม่า คือ งานของเบบี้ มายด์ ชุดสัญชาตญาณแม่ ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากแม่ที่กอดลูกฝาแฝดคนหนึ่งที่หยุดหายใจไปแล้วนานหลายชั่วโมง จนกระทั่งลูกของเธอฟื้นกลับขึ้นมาอีกครั้ง
วิธีการสร้างแรงบันดาลใจจากข่าวเป็นทรัพายากรอันคุณค่าในสไตล์ของกรณ์ ก่อนหน้านี้ภาพยนตร์โฆษณาหลายชิ้น เช่น ปู่ชิว ก็ได้เรื่องราวจากหน้าหนังสือพิมพ์ที่เดินเท้าไปสีซอให้ภรรยาที่ตายไปแล้วฟังทุกวัน ส่วนภาพยนตร์ Que Sera Sera กรณ์เกิดเป็นเรื่องราวด้วยการดัดแปลงเรื่องราวของเด็กหญิงพิการคนหนึ่งที่แสดงความสามารถด้านดนตรีออกรายการ Star King ของเกาหลี ทั้งๆ ที่เธอเป็นเด็กกำพร้า และไม่เคยเรียนดนตรีเลย ก็กลายเป็นเรื่องของเด็กพิการที่สามารถร้องเพลงได้ประทับใจแม่
ในงาน Silence of Love ก็พัฒนามาจากเรื่องจริงของพ่อผู้เป็นใบ้ แต่ก็ทำงานหนักขายน้ำเต้าหู้เพื่อเลี้ยงลูก และในคราวที่ลูกประสบอุบัติเหตุก็ดูแลลูกเป็นอย่างดี และเมื่อกรณ์หยิบเอาเรื่องนี้มาทำเป็นภาพยนตร์โฆษณา ก็ Dramatize เรื่องราวให้เข้ากับคนไทยมากขึ้น และเล่าเรื่องให้ได้ภายในระยะเวลาอันสั้น ปรับเรื่องราวให้ลูกต้องเผชิญปัญหาเพราะถูกเพื่อนล้อที่พ่อเป็นใบ้ จนโหยหาความรักจากชายหนุ่มแต่ความรักไม่เป็นดั่งคาด จนเธอคิดสั้น แล้วพ่อก็ต้องบริจาคเลือดให้กับลูกตัวเอง เพื่อตอกย้ำให้ผู้บริโภครับรู้ถึงความรู้สึกของพ่อที่บางครั้งอาจจะไม่ใช่พ่อที่ดีที่สุด แต่พ่อก็รักลูกที่สุด เจาะกลุ่มเป้าหมายคนที่มีกำลังซื้อ ให้ซื้อประกันเพื่อพ่อ-แม่ของตัวเอง เพราะการซื้อประกันให้พ่อ-แม่กลายเป็นค่านิยมหนึ่งในสังคมไทย และสำหรับบุคคลทั่วไปแล้ว เป็นการตอกย้ำคอนเซ็ปต์ Value of Life คุณค่าของชีวิต ที่ไทยประกันพูดมาตลอด
ยิ่งมีเรื่องราวของชีวิตจริงออกมานำเสนอตามสื่อต่างๆ แพร่ไปในลักษณะไวรัล ก็ทำให้คนที่ได้อ่านรู้สึกอินตามมากขึ้นเมื่อดูโฆษณา ความพิเศษของภาพยนตร์ชุดนี้ ยังอยู่ที่การใช้โซเชี่ยลมีเดียให้เป็นประโยชน์ คลิปโฆษณาถูกโพสต์ลงไปในยูทูบก่อนหน้าที่จะออกอากาศจริงทางโทรทัศน์ จนตอนนี้แม้ว่าโฆษณาเพิ่งแผยแพร่ได้ไม่นานก็มีคลิปเลียนแบบโฆษณษออกมาแล้วด้วยความรวดเร็ว
หนังไทยประกันต้องซึ้งเท่านั้น
ถ้าหากว่าถามคนส่วนใหญ่ว่าโฆษณาล่าสุดก่อน Silence of Life คืออะไร หลายคนส่วนใหญ่คงนึกถึง Que Sera Sera ที่สร้างความประทับใจได้ไม่แพ้กัน แต่ความจริงแล้ว ไทยประกันมีภาพยนตร์โฆษณา Thematic ก่อนหน้านี้ 1 เรื่อง เพื่อโปรโมตกรมธรรม์บุตรสุดรัก เล่าเรื่อง Single Mom ที่ต้องดูแลลูกน้อยเพียงลำพัง เพราะสามีเสียชีวิตไปแล้ว แต่เธอทำได้ดีเพราะสามีมองการณ์ไกลทำประกันเอาไว้ให้ นอกจากเล่าเรื่องแล้ว ในหนังยังพยายามสอดแทรกผลประโยชน์จากกรมธรรม์ รวมทั้งมีภาพบริการส่งผู้ป่วยถึงมือแพทย์ของไทยประกัน
นอกจากนี้ยังมีภาพยนตร์โฆษณาที่ทำหน้าที่บอกข้อมูลเงื่อนไขการซื้อประกันชีวิตของไทยประกัน ว่ามีกรมธรรม์บางกรมธรรม์ เช่น กรมธรรม์อุบัติเหตุที่ไม่ต้องตรวจสุขภาพเช่นเดียวกับบริษัทอื่น
แต่ภาพยนตร์โฆษณาเรื่อง Silence of Love คงเป็นบทพิสูจน์ที่เปรียบเทียบให้เห็นได้อย่างชัดเจนแล้วว่า หนังของไทยประกันแบบไหนจึงจะประสบความสำเร็จในแง่โฆษณา
