LINE SHOPPING เผยยอดขายสินค้าโต 45% เทียบกับปีที่แล้ว กลุ่มสินค้าแม่และเด็กเติบโตสูง

LINE SHOPPING เผยคนไทยแห่ซื้อสินค้าผ่านโซเชียลคอมเมิร์ซสูงขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้ยอดขายสินค้าบนแพลตฟอร์มเติบโต 45% จากปีที่แล้ว โดยกลุ่มสินค้าแม่และเด็กเติบโตสูงที่สุด ขณะเดียวกันก็ยังเตรียมขยายฐานร้านค้าไปยังร้านค้าที่ยังไม่มีร้านในแพลตฟอร์มด้วย

เลอทัด ศุภดิลก ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจอีคอมเมิร์ซ LINE ประเทศไทย ได้เปิดเผยว่า LINE SHOPPING ในปีที่ผ่านมาถือว่าเติบโตได้อย่างน่าพอใจ โดยยอดขายสินค้า (GMV) บนแพลตฟอร์มเติบโตมากถึง 45% ขณะที่จำนวนร้านค้าล่าสุดนั้นอยู่ที่ 436,000 ร้านค้า

โดยร้านค้าที่มีจำนวนสูงสุดนั้น ผู้นำยังเป็นกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม เช่น ทำอาหารขาย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแบรนด์ทำเอง รองลงมาคือกลุ่มแฟชั่น ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์รายใหญ่รายย่อย รวมถึงสินค้าที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสินค้าประเภทดูแลผิวหรือบำรุงผิว ตามลำดับ

สิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงปีที่ผ่านมาสะท้อนว่า Social Commerce ได้กลายมาเป็นช่องทางการขายที่มีความสำคัญและมีประสิทธิภาพ สามารถตอบโจทย์พฤติกรรมนักช้อปชาวไทยได้อย่างดี ซึ่งประเทศไทยมีสัดส่วนผู้ซื้อสินค้าผ่านโซเชียลคอมเมิร์ซสูงสุดในโลกอยู่ที่ 88%

ปัจจัยที่ทำให้ผู้บริโภคซื้อสินค้าผ่านช่องทางโซเชียลคอมเมิร์ซมากขึ้น มาจากความง่ายในการซื้อ ซึ่งมีผลต่อการตัดสินใจมากกว่าราคาหรือการทำโปรโมชั่น ขณะที่คนไทย 95% ยืนยันว่าการชอปปิ้งออนไลน์มีส่วนเข้ามาช่วยเรื่องการใช้ชีวิตช่วงเกิดโควิด-19 ในปี 2564 ส่งผลให้การชอปปิ้งออนไลน์เติบโตอย่างก้าวกระโดด

ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจอีคอมเมิร์ซ LINE ประเทศไทย ยังกล่าวถึงร้านค้าที่กำลังเติบโตอย่างสูงบนแพลตฟอร์มในปีที่ผ่านมานั่นก็คือกลุ่มสินค้าแม่และเด็ก ซึ่งมีสินค้าเสื้อผ้าแฟชั่นของแม่และเด็กที่น่าสนใจ ซึ่งเขายังกล่าวว่าบางร้านค้าที่มีคอลเล็คชั่นที่น่าสนใจสามารถปิดการขายได้ภายใน 15 นาที มีมูลค่ารวมเป็นหลักสิบล้านบาท

เขายังชี้ว่าหลายร้าค้าที่เป็นกลุ่มสินค้าแม่และเด็ก นั้นเจ้าของร้านค้ามีความสนิทสนมกับลูกค้า หรือแม้แต่มีลูกค้าที่ติดตามสินค้าอยู่แล้ว เนื่องจากความเข้าอกเข้าใจและการจดจำลูกค้าของร้านค้าเอง นอกจากนี้กลุ่มลูกค้าที่เป็นเหล่าคุณแม่นั้นมียอดซื้อที่เติบโตมาก จึงทำให้ LINE SHOPPING ตัดสินใจที่จะลงทุนในกลุ่มสินค้าประเภทนี้มากขึ้น

เขายังชี้ว่าอีกพฤติกรรมในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาและมีความน่าสนใจคือการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ไว้ขายกลุ่มลูกค้าโดยเฉพาะ เช่น สปาแห่งหนึ่งมีการขายแพ็คเกจแบบ Exclusive บน LINE SHOPPING ซึ่งมียอดขายดีมาก หรือแม้แต่ตั๋วคอนเสิร์ตของศิลปินที่มีแฟนคลับเฉพาะกลุ่มก็มีขายบนแพลตฟอร์ม เลอทัดยังกล่าวว่าหากร้านค้ามีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ยังสามารถพูดคุยกับ LINE ถึงโปรโมชั่นที่สามารถออกร่วมกันได้ ซึ่งเขาชี้ว่าช่องทางเหล่านี้แตกต่างกับช่องทางการขายบนแพลตฟอร์ม e-commerce ทั่วๆ ไป

ไม่เพียงเท่านี้ เขายังชี้ถึงจุดแข็งของ LINE SHOPPING คือร้านค้าที่มีฐานลูกค้า ซึ่งทางบริษัทจะช่วยสนับสนุนโดยในช่วงที่ผ่านมา บริษัทท่องเที่ยวรายหนึ่งมีฐานลูกค้าจำนวนมาก แต่ปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ไม่สามารถดำเนินธุรกิจได้ตามปกติ ก็ต้องหันมามาขายสินค้าต่างๆ ทดแทน ซึ่งบริษัทมีระบบจัดการให้กับร้านค้าเหล่านี้ หรือแม้แต่มีสิทธิประโยชน์ผ่าน LINE Points หรือแม้แต่โปรโมชั่นร่วมกับ LINE MAN

ขณะที่ปัญหาของเงินเฟ้อนั้น เขากล่าวว่า ปัญหาดังกล่าวทำให้ความถี่ของผู้ซื้อลดลงไปบ้าง แต่ตัวแพลตฟอร์มนั้นไม่ได้ขายสินค้าอุปโภคบริโภค อย่างไรก็ดีเขาชี้ว่ายอดการขายยังเติบโตได้จากผู้ซื้อที่ยังมีกำลังซื้ออยู่ และตัวเลขดังกล่าวก็เริ่มกลับมาฟื้นตัวแล้วด้วย

เขากล่าวว่าหลังจากนี้ทางบริษัทจะพัฒนาระบบต่างๆ รวมถึงเครื่องมือที่ร้านค้าสามารถ Live ขายของและลูกค้าสามารถซื้อสินค้าได้เลย รวมถึงสร้างระบบที่ตอบโจทย์ของคนซื้อคนขาย เช่นในช่วงทีผ่านมาบริษัทได้พัฒนาระบบ Chat & Shop ที่ลูกค้าสามารถคุยกับร้านค้าแล้วซื้อสินค้าได้สะดวกสบายไร้ข้อติดขัด

ขณะเดียวกันทาง LINE ประเทศไทยก็เตรียมที่จะรุกไปยังร้านค้าใหม่ๆ ที่มีผู้ค้นหาร้านค้าดังกล่าวจำนวนมาก แต่ร้านค้ายังไม่อยู่ในแพลตฟอร์ม LINE SHOPPING ซึ่งบริษัทจะติดต่อไปร้านค้าที่ยังไม่มีร้านบนแพลตฟอร์มและชักชวนมาให้เปิดร้านใน LINE SHOPPING โดยคาดว่าหลังจากนี้ยอดขายสินค้าจะเติบโตได้มากถึง 30%

ปัจจุบัน LINE ประเทศไทยมีผู้ใช้งานมากถึง 53 ล้านคน ปัจจุบันมีผู้ซื้อสินค้าผ่าน LINE SHOPPING มากถึง 12 ล้านรายต่อเดือน และยังมีผู้ใช้ที่เป็น Official Account มากถึง 5 ล้านราย ซึ่งเลอทัดมองว่ามีโอกาสที่จะขยายฐานลูกค้าได้อีกมาก

นอกจากนี้บริษัทยังคงเดินหน้าสร้างการรับรู้ให้ LINE SHOPPING ในฐานะเครื่องมือของร้านค้าที่มีฐานลูกค้านั้นสามารถขายของได้ในช่องทางของตนเอง ด้วยการให้ความรู้ผ่านกิจกรรม LINE SHOPPING Academy และ LINE for Business SME BOOTCAMP รวมถึงเตรียมปล่อยฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่หลังจากนี้