LINE SHOPPING เผยคนไทยแห่ซื้อสินค้าผ่านโซเชี
เลอทัด ศุภดิลก ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจอีคอมเมิ
โดยร้านค้าที่มีจำนวนสูงสุดนั้น ผู้นำยังเป็นกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม เช่น ทำอาหารขาย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแบรนด์ทำเอง รองลงมาคือกลุ่มแฟชั่น ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์รายใหญ่รายย่อย รวมถึงสินค้าที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสินค้าประเภทดูแลผิวหรือบำรุงผิว ตามลำดับ
สิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงปีที่ผ่านมาสะท้อนว่า Social Commerce ได้กลายมาเป็นช่องทางการขายที่มีความสำคัญและมีประสิทธิภาพ สามารถตอบโจทย์พฤติกรรมนักช้อปชาวไทยได้อย่างดี ซึ่งประเทศไทยมีสัดส่วนผู้ซื้อสินค้าผ่านโซเชียลคอมเมิร์ซสูงสุดในโลกอยู่ที่ 88%
ปัจจัยที่ทำให้ผู้บริโภคซื้
ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจอีคอมเมิ
เขายังชี้ว่าหลายร้าค้าที่เป็นกลุ่มสินค้าแม่และเด็ก นั้นเจ้าของร้านค้ามีความสนิทสนมกับลูกค้า หรือแม้แต่มีลูกค้าที่ติดตามสินค้าอยู่แล้ว เนื่องจากความเข้าอกเข้าใจและการจดจำลูกค้าของร้านค้าเอง นอกจากนี้กลุ่มลูกค้าที่เป็นเหล่าคุณแม่นั้นมียอดซื้อที่เติบโตมาก จึงทำให้ LINE SHOPPING ตัดสินใจที่จะลงทุนในกลุ่มสินค้าประเภทนี้มากขึ้น
เขายังชี้ว่าอีกพฤติกรรมในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาและมีความน่าสนใจคือการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ไว้ขายกลุ่มลูกค้าโดยเฉพาะ เช่น สปาแห่งหนึ่งมีการขายแพ็คเกจแบบ Exclusive บน LINE SHOPPING ซึ่งมียอดขายดีมาก หรือแม้แต่ตั๋วคอนเสิร์ตของศิลปินที่มีแฟนคลับเฉพาะกลุ่มก็มีขายบนแพลตฟอร์ม เลอทัดยังกล่าวว่าหากร้านค้ามีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ยังสามารถพูดคุยกับ LINE ถึงโปรโมชั่นที่สามารถออกร่วมกันได้ ซึ่งเขาชี้ว่าช่องทางเหล่านี้แตกต่างกับช่องทางการขายบนแพลตฟอร์ม e-commerce ทั่วๆ ไป
ไม่เพียงเท่านี้ เขายังชี้ถึงจุดแข็งของ LINE SHOPPING คือร้านค้าที่มีฐานลูกค้า ซึ่งทางบริษัทจะช่วยสนับสนุนโดยในช่วงที่ผ่านมา บริษัทท่องเที่ยวรายหนึ่งมีฐานลูกค้าจำนวนมาก แต่ปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ไม่สามารถดำเนินธุรกิจได้ตามปกติ ก็ต้องหันมามาขายสินค้าต่างๆ ทดแทน ซึ่งบริษัทมีระบบจัดการให้กับร้านค้าเหล่านี้ หรือแม้แต่มีสิทธิประโยชน์ผ่าน LINE Points หรือแม้แต่โปรโมชั่นร่วมกับ LINE MAN
ขณะที่ปัญหาของเงินเฟ้อนั้น เขากล่าวว่า ปัญหาดังกล่าวทำให้ความถี่ของผู้ซื้อลดลงไปบ้าง แต่ตัวแพลตฟอร์มนั้นไม่ได้ขายสินค้าอุปโภคบริโภค อย่างไรก็ดีเขาชี้ว่ายอดการขายยังเติบโตได้จากผู้ซื้อที่ยังมีกำลังซื้ออยู่ และตัวเลขดังกล่าวก็เริ่มกลับมาฟื้นตัวแล้วด้วย
เขากล่าวว่าหลังจากนี้ทางบริษัทจะพัฒนาระบบต่างๆ รวมถึงเครื่องมือที่ร้านค้าสามารถ Live ขายของและลูกค้าสามารถซื้อสินค้าได้เลย รวมถึงสร้างระบบที่ตอบโจทย์ของคนซื้อคนขาย เช่นในช่วงทีผ่านมาบริษัทได้พัฒนาระบบ Chat & Shop ที่ลูกค้าสามารถคุยกับร้านค้าแล้วซื้อสินค้าได้สะดวกสบายไร้ข้อติดขัด
ขณะเดียวกันทาง LINE ประเทศไทยก็เตรียมที่จะรุกไปยังร้านค้าใหม่ๆ ที่มีผู้ค้นหาร้านค้าดังกล่าวจำนวนมาก แต่ร้านค้ายังไม่อยู่ในแพลตฟอร์ม LINE SHOPPING ซึ่งบริษัทจะติดต่อไปร้านค้าที่ยังไม่มีร้านบนแพลตฟอร์มและชักชวนมาให้เปิดร้านใน LINE SHOPPING โดยคาดว่าหลังจากนี้ยอดขายสินค้าจะเติบโตได้มากถึง 30%
ปัจจุบัน LINE ประเทศไทยมีผู้ใช้งานมากถึง 53 ล้านคน ปัจจุบันมีผู้ซื้อสินค้าผ่าน LINE SHOPPING มากถึง 12 ล้านรายต่อเดือน และยังมีผู้ใช้ที่เป็น Official Account มากถึง 5 ล้านราย ซึ่งเลอทัดมองว่ามีโอกาสที่จะขยายฐานลูกค้าได้อีกมาก
นอกจากนี้บริษัทยังคงเดินหน้าสร้างการรั