หัวเรือใหญ่ของ Capital A หรือที่เรารู้จักกันในชื่อเดิมว่า AirAsia ได้เปิดเผยว่าบริษัทเตรียมที่จะนำธุรกิจเข้า IPO ในตลาดสหรัฐอเมริกาเพื่อระดมทุนเพิ่มเติม นอกจากนี้เขายังมองว่าธุรกิจสายการบินจะกลับมาเติบโตเท่ากับก่อนช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในปีหน้า
โทนี เฟอร์นานเดส (Tony Fernandes) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Capital A (หรือชื่อเดิม AirAsia) ได้เปิดเผยกับ Bernama สื่อของมาเลเซียว่าบริษัทกำลังอยู่ในกระบวนการนำธุรกิจเข้า IPO เพื่อระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐอเมริกาในปีหน้า และจะมีการประกาศอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ขณะเดียวกันเขายังมองว่าธุรกิจการบินตอนนี้กำลังฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของโควิด-19
ธุรกิจของ Capital A ที่จะนำเข้า IPO ในสหรัฐอเมริกาประกอบไปด้วยธุรกิจสายการบิน ซึ่งประกอบไปด้วย AirAsia ในหลายประเทศเช่น มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ รวมถึงไทยที่ถือหุ้นร่วมกับบริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) รวมถึงธุรกิจ airasia Super App ซึ่งก่อนหน้านี้มีแผนที่จะนำธุรกิจดังกล่าวเข้าตลาดหลักทรัพย์มาแล้ว
ขณะเดียวกันมุมมองเกี่ยวกับธุรกิจการบินเขามองว่าในปี 2023 ธุรกิจสายการบินจะกลับมาเติบโตก่อนช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยเขากล่าวว่า ในปีหน้านี้เขาอยากเห็นเครื่องบินของสายการบินราคาประหยัดรายนี้กว่า 205 ลำขึ้นบินทั้งหมดภายในไตรมาส 1 ของปีหน้า ซึ่งปัจจุบันเครื่องบินที่ทำการบินอยู่ในช่วงเวลานี้อยู่ที่ 110 ลำ
นอกจากนี้เขายังคาดว่าประเทศจีนน่าจะมีการเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวจีนเดินทางได้อีกครั้งในช่วงกลางปี 2023 โดยตลาดในเอเชียเหนืออย่างญี่ปุ่น จีน เกาหลีใต้ รวมถึงไต้หวัน เขามองว่าตลาดนี้จะค่อยๆ เริ่มฟื้นตัวอีกครั้ง ตามนโยบายเปิดประเทศ
เขายังคาดว่าในปี 2022 นี้จะมีผู้โดยสารราวๆ 40 ล้านคน ซึ่งยังต่ำกว่าในปี 2019 ราวๆ 50%
สายการบินราคาประหยัดรายนี้ยังเตรียมที่จะสั่งเครื่องบินจาก Airbus เป็นรุ่น A321 ซึ่งประหยัดน้ำมันมากกว่ารุ่น A320 ที่ใช้งานในปัจจุบัน โดยเครื่องบิน A321 นี้จะเริ่มมีการส่งมอบในปี 2024 และจะมีเครื่องบินรุ่นนี้ทั้งฝูงบินของ AirAsia ในปี 2029
สำหรับเรื่องธุรกิจของ Capital A ที่ยังมีปัญหาขาดทุน และอยู่ในขั้นตอนการฟื้นฟูกิจการในประเทศมาเลเซีย เขาชี้ว่าปัญหาดังกล่าวไม่ทำให้พื้นฐานของบริษัทเปลี่ยนไปแต่อย่างใด