ระหว่างที่ศึกในชั้นศาล Twitter vs อีลอน มัสก์ ดำเนินไป “บ๊อบ อีเกอร์” อดีตซีอีโอ Disney เปิดเผยข่าวว่าบริษัทเคยคิดจะซื้อกิจการโซเชียลมีเดียรายนี้เมื่อปี 2016 แต่สุดท้ายล้มดีลไปเพราะพบจำนวน “บัญชีบอท” มากอย่างมีนัยสำคัญ
บ๊อบ อีเกอร์ กล่าวว่า Walt Disney Co. และ Twitter Inc เคยเกือบจะเริ่มต้นเจรจาซื้อขายกัน แต่เขาเกิดไม่มั่นใจขึ้นมาเสียก่อน แต่อีเกอร์กล่าวด้วยว่า เป็นเพราะความช่วยเหลือจาก Twitter ทำให้ Disney ทราบได้ว่า “บัญชีผู้ใช้จำนวนมากอย่างมีนัยยะสำคัญ (แต่ไม่ใช่ส่วนใหญ่)” เป็นบัญชี “ปลอม”
“ผมจำได้ว่าตนเองต้องลดมูลค่าของบริษัทนี้ลง” อีเกอร์กล่าวในงานสัมมนา Code Conference ในรัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2022
อีเกอร์ไม่ได้บอกอย่างชัดเจนว่า “อย่างมีนัยสำคัญ” นั้นมากแค่ไหน แต่ดีลล่าสุดที่ Twitter เจรจากับอีลอน มัสก์ บริษัทแจ้งว่าโซเชียลมีเดียนี้มีบัญชีบอทหรือสแปมไม่เกิน 5% ของจำนวนผู้ใช้ที่ใช้งานเป็นประจำและสามารถนำมาหารายได้ได้
ก่อนหน้านี้อีเกอร์เคยเขียนบันทึกส่วนตัวในชื่อ “The Ride of a Lifetime” เขาเขียนถึงเหตุการณ์พิจารณาเข้าซื้อ Twitter ไว้ด้วย แต่ในบันทึกนี้เขาระบุว่าบริษัทลังเลที่จะซื้อกิจการเพราะพบว่าบทสนทนาบนแพลตฟอร์มมีลักษณะ “น่ารังเกียจ” และเขาเกรงว่าจะเป็นสิ่งที่รบกวนบริษัทต่อไปในอนาคต
- ‘Disney+’ เตรียม ‘ขึ้นราคา’ พร้อมออกแพ็กเกจ ‘โฆษณา’ เนื่องจาก ‘ขาดทุน’ แม้ผู้ใช้เติบโต
- สรุปภาพ ‘โซเชียลมีเดีย’ ครึ่งปีแรก สำหรับ ‘แบรนด์’ เตรียมพร้อม รับมือช่วงเวลาที่เหลือ
ความคิดเห็นของอีเกอร์เกิดขึ้นท่ามกลางศึกทางกฎหมายระหว่างอีลอน มัสก์และ Twitter โดยแต่เดิมมัสก์เสนอซื้อโซเชียลมีเดียรายนี้ในราค 44,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ก่อนที่มัสก์จะพยายามล้มดีล โดยกล่าวอ้างถึงข้อมูลจาก Twitter เกี่ยวกับสัดส่วนบัญชีบอทที่มีบนแพลตฟอร์ม มัสก์มองว่าบัญชีเหล่านี้มีมากกว่าที่แพลตฟอร์มแจ้งข้อมูลไว้ ทำให้มูลค่าบริษัทจะลดลงเพราะมีผู้ใช้ตัวจริงน้อยกว่าที่คาด มัสก์จึงไม่ต้องการเข้าซื้ออีกแล้ว
เมื่อมัสก์ถอนตัว Twitter จึงยื่นฟ้องร้องเพราะมัสก์ทำผิดสัญญา การไต่สวนจะเริ่มขึ้นวันที่ 17 ตุลาคมนี้ สำหรับความคิดเห็นของอีเกอร์ บริษัทโซเชียลมีเดียยังไม่มีแถลงการณ์ตอบโต้แต่อย่างใด