ซัมซุงเปิดตัวนวัตกรรมจอภาพ Micro LED รุ่นใหม่ล่าสุด ยกระดับประสบการณ์แบบไฮบริด ครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนีย

ซัมซุงเปิดตัวจอภาพรุ่นใหม่ล่าสุดในตระกูล The Wall จำนวน 2 รุ่น ล้ำหน้าด้วยเทคโนโลยี Micro LED ในงาน  Samsung Display Tech Summit 2022 ที่จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่เป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนีย

Samsung Display Tech Summit 2022 จัดขึ้นที่กรุงเทพฯ ประเทศไทย โดยมีลูกค้าองค์กร ผู้ที่สนใจในเทคโนโลยี และพันธมิตรด้านภาพและเสียงระดับมืออาชีพจากทั่วภูมิภาครวม 230 ราย เข้าร่วมงานเพื่อแบ่งปันข้อมูลเชิงลึก รวมทั้งยังเป็นคนกลุ่มแรกที่ได้ทดลองและมีประสบการณ์ร่วมกับจอภาพและโซลูชันล่าสุดของซัมซุง

“เรากำลังอยู่ในยุคสมัยของการปรับเปลี่ยนไปสู่ยุคของการมีการตอบโต้แบบไฮบริดในทุกระดับ ซึ่งเป็นการมีส่วนร่วมแบบที่ทุกคนคาดหวังว่าจะสามารถเชื่อมต่อถึงกันได้อย่างสมบูรณ์ในทุกๆ ที่ ไม่ว่าจะอยู่ที่โต๊ะทำงาน ห้องประชุม ห้องเรียน คาเฟ่ หรือโฮมออฟฟิศก็ตาม” อเล็กซ์ ฮอง ประธานกลุ่มการขายและการตลาด ภูมิภาคเอเชีย กลุ่มธุรกิจดิสเพลย์โซลูชัน ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ กล่าว “องค์กรต่างๆ ในปัจจุบันมีโอกาสที่จะจินตนาการถึงประสิทธิภาพของการทำงานและการทำงานร่วมกันในอนาคตที่ผสมผสานระหว่างโลกทางกายภาพ โลกดิจิทัล และโลกเสมือนจริงเข้าด้วยกัน ซัมซุงรู้สึกตื่นเต้นอย่างมากเกี่ยวกับบทบาทของเทคโนโลยีจอภาพที่จะมาช่วยให้องค์กร สามารถเชื่อมต่อกันได้ในโลกที่กำลังก้าวไปอย่างรวดเร็วไปสู่โลกแบบไฮบริดได้อย่างสมบูรณ์แบบ”

สร้างสรรค์ประสบการณ์ที่เต็มอารมณ์ให้กับลูกค้าได้ดื่มด่ำไปกับ Samsung The Wall

เทคโนโลยี Micro LED ถือเป็นจุดสูงสุดของเทคโนโลยีการแสดงผลในปัจจุบัน โดย The Wall เป็นจอภาพที่สามารถมอบประสบการณ์การรับชมให้ผู้ใช้ได้ดื่มด่ำไปกับความบันเทิงได้อย่างเต็มอารมณ์ด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ความละเอียดสูง เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมระดับพรีเมียมของลูกค้าให้กับแบรนด์

ในปี 2018 ซัมซุงในฐานะผู้นำเทคโนโลยี Micro LED ได้เปิดตัว The Wall ซึ่งเป็นจอภาพ Micro LED แบบโมดูลาร์ขนาด 146 นิ้วรุ่นแรกของโลก โดยนับตั้งแต่เปิดตัว The Wall มอบประสบการณ์การรับชมแบบพรีเมียมให้กับผู้ใช้งานทั่วโลก รวมทั้งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนีย สำหรับในกรุงเทพฯ นั้น โครงการ The Forestias by MQDC[1] ซึ่งเป็นโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ได้เลือกใช้ The Wall เพื่อนำเสนอประสบการณ์การรับชมความบันเทิงแบบ 360 องศาที่ไม่เหมือนใคร เพื่อสร้างแรงบันดาลใจครั้งใหม่ให้กับลูกค้า

“เทคโนโลยี Micro LED เป็นอนาคตของนวัตกรรมจอภาพ ซึ่งซัมซุงเป็นผู้นำในการใช้เทคโนโลยีนี้ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนียใน The Wall ซึ่งเป็นจอภาพรุ่นแฟลกชิปของซัมซุง ซัมซุงยังขยายไลน์อัพผลิตภัณฑ์ของ The Wall ด้วยการเปิดตัว The Wall รุ่น All-in-One ซึ่งเป็นการมอบประสบการณ์การรับชมที่เหนือชั้นยิ่งขึ้น พร้อมกับนวัตกรรมด้านการติดตั้งหน้าจอขนาดใหญ่ที่ง่ายเหมือนกับการติดตั้งทีวีทั่วไป” เลสลี่ โกห์ ประธานระดับภูมิภาคของกลุ่มธุรกิจดิสเพลย์โซลูชัน ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนีย ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ กล่าว

The Wall All-in-One หรือซีรีส์ IAB ได้ยกระดับความสะดวกสบายในการติดตั้งจอภาพแบบ Micro LED ไปอีกขั้น ซึ่งสามารถติดตั้งได้อย่างง่ายดายภายใน 2 ชั่วโมง ด้วยช่างเพียง 2 คนเท่านั้น เนื่องจากจอภาพรุ่นนี้มีกรอบที่ได้ประกอบมาแล้วล่วงหน้า รวมทั้งกล่อง S-box สำหรับเล่นและควบคุมสื่อที่ประกอบสำเร็จมาจากโรงงาน The Wall   All-in-One มาพร้อมกับความสามารถในการแสดงผลหน้าจอด้วยพิกเซลขนาด 0.84 จอมีความบางเพียง 49 มิลลิเมตร และมี 3 ขนาดและความละเอียดให้เลือก ได้แก่ ขนาด 146 นิ้ว ความละเอียด 4K ขนาด 146 นิ้ว ความละเอียด 2K และขนาด 110 นิ้ว ความละเอียด 2K

นอกจากนี้ ซัมซุงยังได้เปิดตัว The Wall ซีรีส์ IWB หน้าจอดังกล่าวมาพร้อมกับความสามารถในการแสดงผลหน้าจอด้วยพิกเซลขนาด 0.63 และ 0.94 เท่านั้น โดยรุ่นที่มีพิกเซลพิทช์ในระยะ 0.63 นั้นถือเป็นรุ่นที่พิกเซลพิทช์ที่บางที่สุดที่เคยมีมาในจอภาพตระกูล The Wall ทำให้แสดงภาพได้ละเอียดที่สุด และมี Dynamic Range ที่กว้างที่สุดในบรรดาจอภาพของซัมซุง นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับเฟรมเรท 120Hz รองรับ HDR 10/10+ และ ยังรองรับ LED HDR อีกด้วย The Wall IWB มีหลากหลายขนาดและความละเอียดให้เลือก ตั้งแต่ขนาด 110 นิ้ว ความละเอียด 4K ไปจนถึงขนาด 220 นิ้ว ที่มาพร้อมกับความละเอียดระดับ 8K

The Wall ทุกรุ่นมาพร้อมกับเทคโนโลยี Black Seal ซึ่งช่วยยกระดับการแสดงผลสีดำได้หลากหลายมากขึ้น ลึกขึ้น และให้รายละเอียดที่ชัดเจนยิ่งขึ้น เทคโนโลยีอัลตร้าโครม่า (Ultra Chroma Technology) เทคโนโลยีที่ใช้ช่วงคลื่นที่สั้นลงเพื่อการแสดงผลสีแบบ RGB ที่บริสุทธ์มากขึ้นกว่าเดิม 2 เท่า[2] และให้ความแม่นยำของสีมากกว่าจอ LED ทั่วไป เทคโนโลยีการประมวลผลภาพแบบ 20bit ที่สามารถแสดงถึงอัตราส่วนของคอนทราสต์ได้อย่างเป็นธรรมชาติ และเทคโนโลยี Micro AI Processor ที่เพิ่มคอนทราสต์ให้ภาพและลดนอยซ์ในภาพได้แบบทันที ทั้งยังรองรับฟีเจอร์ Multi View ซึ่งผู้ใช้สามารถเล่นเนื้อหาได้พร้อมกันสูงสุดถึง 4 อย่างในหน้าจอเดียว โดยไม่ต้องใช้ Video Splitter

มองเห็นถึงประสิทธิภาพและการทำงานร่วมกันในโลกไฮบริด

นอกเหนือไปจาก The Wall ปี 2022 แล้ว ซัมซุงยังนำเสนอโซลูชันที่สอดคล้องกับการทำงาน การเรียน และการเล่น   ในยุคใหม่ ดังนี้

  • มิติใหม่ของการเรียนและการประชุม: ห้องเรียนและห้องประชุมในโลกยุคไฮบริดจำเป็นต้องมีโซลูชันสำหรับจอภาพที่สามารถเชื่อมต่อกันได้อย่างราบรื่นไร้รอยต่อ ใช้งานง่าย แสดงภาพได้เหนือระดับ และเอื้อต่อการใช้งานร่วมกันของผู้ใช้หลายๆ คนเพื่อให้สามารถทำงานร่วมกันได้ง่ายขึ้น Samsung Flip Pro รุ่นปี 2022 ใหม่ล่าสุดจากซัมซุงนั้นมาพร้อมกับขนาด 55, 65, 75 นิ้ว และ 85 นิ้ว ถือเป็นสุดยอดจอภาพที่เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับนักเรียนและพนักงานในการใช้ทำงานร่วมกันอย่างมีคุณภาพ ด้วยประสบการณ์การเขียนและวาดภาพในโลกความเป็นจริงด้วยโหมดปากกาและพู่กัน รองรับการ Video Call ร่วมกัน การเชื่อมต่อโดยผู้ใช้หลายคนพร้อมกัน พร้อมทั้งยังรองรับการแชร์หน้าจอแบบไร้สายอีกด้วย
  • มิติใหม่ของการสร้างสรรค์คอนเทนต์จอมอนิเตอร์ความละเอียดสูงรุ่น ViewFinity S8 ที่เหมาะสำหรับคอนเทนต์ครีเอเตอร์ เปิดตัวในขนาดยอดนิยม ขนาดคือ 27 นิ้ว และ 32 นิ้ว มอนิเตอร์รุ่นนี้เอื้อต่อการสร้างสรรค์คอนเทนต์ในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบกราฟิกและการทำแผนภูมิด้านการเงินที่เต็มไปด้วยรายละเอียดยิบย่อยทั้งในออฟฟิศและการทำงานที่บ้าน จอความละเอียดระดับ pro-grade UHD มีช่วงสีกว้างถึง 98% ตามมาตรฐาน DCI-PS และ VESA DisplayHDR[3] เพื่อช่วงสีที่ถูกต้องแม่นยำและแสดงความแตกต่างของสีได้อย่างเหมาะสมที่สุด นอกจากนี้ ViewFinity S8 ยังผ่านการรับรอง PANTONE Validated[4] ซึ่งเป็นการยอมรับในความสามารถของการแสดงผลสีได้อย่างแม่นยำมากถึง พันสีและมีเฉดสีแพนโทนที่เพิ่มขึ้นมาใหม่มากถึง 110 เฉด[5]
  • มิติใหม่ของประสบการณ์การเล่นเกม: จอมอนิเตอร์ Odessey Ark คือเกมมิ่งมอนิเตอร์แบบโค้ง 1000 อาร์ ขนาด 55 นิ้วรุ่นแรกของโลก จอมอนิเตอร์รุ่นนี้เป็นหน้าจอความละเอียด 4K ที่มาพร้อมกับอัตราการรีเฟรชเรทที่ 165Hz และมี Response time ที่ 1 มิลลิวินาที อีกทั้งยังมาพร้อมกับค็อกพิทโหมดที่จะมามอบประสบการณ์การเล่นเกมในรูปแบบใหม่ที่สามารถเล่นได้อย่างถึงใจและให้ความเป็นส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันหรือจะเป็นการเล่นเกมแบบสบายๆ ก็ตาม นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับ Ark Dial ซึ่งเป็นตัวควบคุมพลังงานแสงอาทิตย์ ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงฟังก์ชันหน้าจออย่าง Flex Move Screen, Multi View และ Quick Settings ได้ไวยิ่งขึ้น

งานออกแบบที่ช่วยสร้างความยั่งยืน

ณ งาน Samsung Display Tech Summit ซัมซุงยังแสดงความมุ่งมั่นต่อการออกแบบเพื่อความยั่งยืนอีกครั้ง รวมไปถึงการพัฒนาดิสเพลย์โซลูชันที่สามารถลด Carbon Footprint รวมทั้งการเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยหมุนเวียนทรัพยากร

ดิสเพลย์โซลูชันในปี 2022 ทุกโซลูชันได้ผ่านการรับรองมาตรฐานการประหยัดพลังงานจาก ENERGY STAR และ EPEAT นอกจากนี้ ซัมซุงยังได้รับการรับรองจาก Carbon Trust สำหรับการใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมกับผลิตภัณฑ์ของซัมซุง รวมทั้งการใช้วัสดุรีไซเคิลในดิสเพลย์โซลูชันมาตั้งแต่ในปี 2021 นอกจากนี้ ซัมซุงได้พัฒนาและประยุกต์ใช้วัสดุใหม่ที่ผลิตจากขยะพลาสติกในมหาสมุทรในการผลิตจอมอนิเตอร์รุ่น ViewInfinity S8 ด้วย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดขยะในมหาสมุทรและ Carbon Footprint

บริการ Door-to-Door Service ซ่อมฟรีถึงที่สำหรับลูกค้ามอนิเตอร์ทุกรุ่นของซัมซุง

ซัมซุงให้ความสำคัญในการให้บริการและมอบความสะดวกสบายแก่ลูกค้า โดยบริการซ่อมฟรีถึงสำนักงานหรือที่พัก เป็นเวลา 3 ปี ตามระยะเวลารับประกัน สำหรับลูกค้าที่ซื้อมอนิเตอร์ทุกรุ่นของซัมซุง ติดต่อผ่านศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ โทร 1282 ตลอด 24 ชั่วโมง

รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับดิสเพลย์โซลูชันของซัมซุง https://displaysolutions.samsung.com