เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า “เซ็นทรัลพัฒนา” เป็นผู้นำในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในหลากหลายโครงการ ทั้งศูนย์การค้า, ที่อยู่อาศัย และโรงแรม แต่อีกหนึ่งโครงการที่สร้างความปังไม่แพ้กันก็คือ “เซ็นทรัลวิลเลจ” ลักชูรี่เอาท์เล็ตแห่งใหญ่ในกรุงเทพฯ ในปีนี้ได้ฉลองครบรอบการเปิดให้บริการ 3 ปีแล้ว
เซ็นทรัล วิลเลจ ได้เปิดให้บริการเมื่อเดือนสิงหาคม 2562 ภายใต้คอนเซ็ปต์ Bangkok Luxury Outlet มีมูลค่าโครงการรวม 5,000 ล้านบาท บนพื้นที่ 36,000 ตร.ม. มีที่จอดรถมากกว่า 2,000 คัน พร้อมกับได้พาร์ทเนอร์คนสำคัญอย่าง บริษัท มิตซูบิชิ เอสเตท (ไทยแลนด์) หนึ่งในบริษัท มิตซูบิชิ เอสเตท จำกัด (มหาชน) บิ๊กอสังหาฯ ระดับโลก ที่มีประสบการณ์ในการพัฒนาเอาท์เล็ตชื่อดังของเอเชีย
จุดเด่นที่สำคัญของเซ็นทรัล วิลเลจ นอกจากจะมีสินค้าแบรนด์เนมมากกว่า 300 แบรนด์ ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์แล้ว แถมยังเดินทางสะดวกจากในเมือง Bangkok CBD เพียง 30 นาที และใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ พร้อมกับมีบริการรถรับ-ส่ง Shuttle Bus จากเซ็นทรัลเวิลด์ และ Shuttle Van จากเซ็นทรัลพระราม 9 อีกด้วย
ดร. ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาดของเซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า
“เซ็นทรัล วิลเลจ เป็นโครงการแรกที่พลิกโฉมวงการรีเทลไทยด้วยการนำลักชูรี่เอาท์เล็ตระดับโลกเข้ามาในประเทศไทยเป็นแห่งแรก มอบประสบการณ์การช้อปแบรนด์เนมระดับโลก โดยที่ผ่านมา เซ็นทรัล วิลเลจ ประสบความสำเร็จและได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากนักช้อปทั้งไทย, Expat และนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยกลยุทธ์สำคัญที่สร้างความแตกต่างคือ การสร้าง Omnichannel Platform ของตัวเอง ผ่าน Live Streaming, Chat & Shop ที่ทั้งสร้าง Engagement กับลูกค้าได้ทั่วประเทศเจาะกลุ่ม Top Spenders และ Quality Traffic ทั้งใน-นอก Catchmentและสร้างยอดขายให้แบรนด์พันธมิตรได้อย่างแท้จริง”
ตลอดเส้นทาง 3 ปีที่ผ่านมา ได้พิสูจน์แล้วว่าเซ็นทรัล วิลเลจ เป็นมากกว่าการช้อปปิ้งแบรนด์เนม แต่เป็น Luxury Lifestyle Destination ที่สมบูรณ์แบบที่สุดอีกแห่งหนึ่ง เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กสำคัญของกรุงเทพฯ ไปโดยปริยาย
4 กลยุทธ์ปั้น “เซ็นทรัล วิลเลจ” สำเร็จยืนหนึ่งตลอดกาล ได้แก่
1.Shoppertainment Experience
ใครที่เคยเดินทางไปต่างประเทศอาจจะได้เคยสัมผัสเอาท์เล็ตที่ต่างประเทศกันมาบ้าง ที่เซ็นทรัล วิลเลจได้สร้างประสบการณ์พิเศษ เหมือนเดินช้อปในเอาท์เล็ตเมืองนอกเลยทีเดียว พลาดไม่ได้กับอีเว้นท์ และกิจกรรมสุดพิเศษฉลองครบรอบ 3 ปี ได้ Collaboration แบรนด์ระดับโลก Central Village Anniversary Merry Go Round with Marimekko Mini Installation เนรมิตม้าหมุนสีขาวดีไซน์คลาสสิคตระการตา เป็นจุดเช็คอินแห่งใหม่ที่ทุกคนต้องไม่พลาด! พร้อมกับสนุกกับ Mini Concert ศิลปินดัง ส้ม มารี, ไบร์ทนรภัทร และ Inflatable Playground สไลเดอร์และบ่อบอลขนาดยักษ์กว่าหมื่นลูก โดยปลายปีนี้ เตรียมพบเซอร์ไพรส์สุดยิ่งใหญ่กับเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปี พร้อมต้นคริสต์มาสยักษ์และการประดับไฟทั่วทั้งพื้นที่ สร้าง Festive Vibes ในบรรยากาศเอาท์เล็ตเมืองนอก
2. ยกทัพมากกว่า 300 แบรนด์ ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์
ในเอาท์เล็ตบางแห่งอาจจะมีสินค้าแค่บางกลุ่ม หรือเป็นสินค้าลักชูรี่เพียงอย่างเดียว แต่เซ็นทรัล วิลเลจได้ขนแบรนด์ชั้นนำ ครบครัน ทุกไลฟ์สไตล์ตั้งแต่ลักชูรี่, แฟชั่น, กีฬา, เครื่องสำอาง เรียกว่าตอบโจทย์ความต้องการของทุกกลุ่มลูกค้า ทำให้ปัจจุบันเมื่อรวม 2 เฟส มีแบรนด์ชั้นนำ 300 แบรนด์ อาทิ Salvatore Ferragamo, Coach, Ermenegildo Zegna, Kate Spade, Kenzo, Marimekko, Max & Co, MCQ, Michael Kors, Moschino, Outlet by Club21, Polo Ralph Lauren, Valentino, Vivienne Westwood, Bath & Body Works, Coccinelle และJim Thompson
3. ยอดขายพุ่ง ผสาน Omnichannel
ถึงแม้ว่าในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจค้าปลีกจะโดนผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 แต่หลังจากการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ และเริ่มเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยว ทำให้เซ็นทรัล วิลเลจมียอดทราฟฟิกเพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่า/เดือน มียอดการซื้อเฉลี่ยเพิ่มขึ้นกว่า 44% (เปรียบเทียบปี 2021 กับ 2022) อีกหนึ่งจุดแข็งคือ การทำ Live Streaming ที่ประสบความสำเร็จ เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญในการทำ Omnichannel ช่วยสร้างยอดขายให้กับร้านค้าเพิ่มขึ้น โดยที่ปัจจุบันนักท่องเที่ยวที่เข้ามาช้อปปิ้งในศูนย์ฯ 3 อันดับแรก ได้แก่ อินเดีย ญี่ปุ่น และสิงคโปร์
4.ฐานลูกค้ากำลังซื้อสูง
เซ็นทรัล วิลเลจมีกลุ่มลูกค้าที่เป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง ผนวกกับกลยุทธ์ในการสร้างคอมมูนิตี้ใหม่ๆ ยิ่งทำให้เกิดการดึงลูกค้าที่มีกำลังซื้อจากศูนย์การค้าสาขาอื่นที่มีอยู่ทั่วประเทศมาต่อยอดทำ CRM Marketing โดยล่าสุด ได้ร่วมกับเซ็นทรัล เชียงใหม่ ดึงกลุ่ม Top spender จัดทริปช้อปปิ้งที่ศูนย์ฯ อีกทั้ง เจาะกลุ่มไลฟ์สไตล์หลากหลาย ทั้งครอบครัว กลุ่มสปอร์ต ที่ลงลึกทุกประเภทกีฬา, จัดกิจกรรม Supercar meeting, งาน Wine Testing ที่จับกลุ่มคนมีกำลังซื้อสูงของศูนย์การค้าเซ็นทรัลสาขาอื่นๆ ทั่วประเทศ
สำหรับแคมเปญ Central Village 3rd Anniversary Celebration ฉลองครบรอบ 3 ปี แฮปปี้ช้อปเดย์ ผนึกกำลังพาทเนอร์และแบรนด์ชั้นนำพิเศษเฉพาะที่เซ็นทรัล วิลเลจเท่านั้น ลดสูงสุด 90%* อาทิ Adidas ลดสูงสุด 70%, Coach ลดสูงสุด 70%, Michael Kors ลดสูงสุด 70% และลดเพิ่ม 15% เมื่อช้อปสินค้าที่ร่วมรายการ 2 ชิ้นขึ้นไป, Kate Spade ลดสูงสุด 80%, Polo Ralph Lauren ลดสูงสุด 70% Outlet by Club21 ลดสูงสุด 90%, Coccinelle ลดสูงสุด 80% และลดเพิ่ม 10% เมื่อช้อปสินค้าที่ร่วมรายการครบ 2 ชิ้น, Marimekko ลดสูงสุด 60% รับฟรี Unikko Cushion Cover* เมื่อซื้อสินค้า 12,000 บาท ขึ้นไป, Runway Eighty ลดสูงสุด 80% และลดเพิ่ม 20% เมื่อช้อปครบ 4 ชิ้นขึ้นไป เป็นต้น เริ่มตั้งแต่วันนี้ – 2 ต.ค. 2565 โดยคาดว่าแคมเปญนี้จะช่วยเพิ่มยอดทราฟฟิกสูงขึ้นกว่า 80% (เทียบปี 2021-2022)
แฮปปี้ช้อปเดย์ สุขสันต์วันช้อปกับโปรโมชั่นพิเศษ 3 ต่ออาทิ ต่อที่ 1 ทุกยอดใช้จ่ายตั้งแต่ 5,000 บาทขึ้นไป ลุ้นรับแพคเกจห้องพักพร้อมดินเนอร์สุดหรู จากโรงแรม Banyan Tree กรุงเทพ มูลค่า 20,000 บาท จำนวน 2 รางวัล, ชุดเครื่องนอน New Collection Space Diamond จาก Pasaya มูลค่า 11,130 บาท จำนวน 1 รางวัล Hermès NEOBAIN CASE จาก SF Brandnameมูลค่า 10,950 บาท จำนวน 1 รางวัล และรางวัลสุดพิเศษอีกมากมายกว่า 300 รางวัล ต่อที่ 2 ช้อปครบรับทันที Gift Voucher สูงสุด 1,500 บาท ช้อป 20,000บาท รับ Gift Voucher 300 บาท ช้อป 50,000 บาท รับ Gift Voucher 1,500 บาท และต่อที่ 3 โปรโมชั่นเครดิตเงินคืนสูงสุด 24% จากบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ
เซ็นทรัล วิลเลจ พร้อมมอบเอาท์เล็ตดีลที่ดีที่สุด ช้อปแบรนด์เนมคุณภาพดีในราคาคุ้มค่า ลดสูงสุด 35-70% ช่วงแคมเปญพิเศษลดถึง 90% เปิดให้บริการทุกวัน จันทร์ – ศุกร์ เวลา 11.00 – 21.00 น. เสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 10.00 – 22.00 น.
ติดตามรายละเอียดอื่นๆ http://www.centralvillagebangkok.com, LINE: @centralvillage, Facebook: Central Village, Instagram: centralvillagebangkok