“FOREO (ฟอริโอ้)” เปิดตัวแปรงสีฟันซิลิโคนไฟฟ้าอัจฉริยะ ISSA 3 ระบบโซนิค ชูโซลูชั่นในการดูแลช่องปากแบบ 4-in-1 เดินหน้าลุยตลาดแปรงสีฟันไฟฟ้าในไทย

“FOREO (ฟอริโอ้)” แบรนด์ผู้นำระดับโลกด้านบิวตี้เทคจากประเทศสวีเดนส่งผลิตภัณฑ์ ISSA 3 แปรงสีฟันซิลิโคนไฟฟ้าอัจฉริยะเครื่องแรกของโลกลุยตลาดแปรงสีฟันไฟฟ้าในประเทศไทย ชูนวัตกรรมการทำงานแบบโซนิค มาพร้อมหัวแปรงออกแบบพิเศษ Hybrid Wave และวัสดุที่มีความปลอดภัยสูงประเภทเดียวกับที่ใช้ในทางการแพทย์เพื่อการดูแลสุขภาพปากอย่างครอบคลุมแบบ 4-in-1 ตอกย้ำแบรนด์ผู้นำระดับโลกด้านการส่งเสริมสุขภาวะอนามัยและความเป็นอยู่ที่ดีผ่านเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ก้าวหน้า พร้อมจัดแคมเปญพิเศษร่วมกับแบรนด์ยาสีฟันชื่อดังอย่าง MARVIS (มาร์วิส) เดินหน้าสร้างประสบการณ์ในการดูแลตัวเองที่เหนือระดับให้กับลูกค้าตลอดเดือนตุลาคมนี้

ผลพวงจากสถานการณ์โรคอุบัติใหม่ที่ทำให้ผู้คนตระหนักถึงความสำคัญของสุขอนามัย รวมถึง Disruptive Innovation หรือการพัฒนาด้านนวัตกรรม การบริการและสินค้ารูปแบบใหม่ที่เข้าใจและตอบโจทย์ต่อไลฟสไตล์ผู้คนในปัจจุบันมากขึ้น ส่งผลให้มูลค่าตลาดทั่วโลกในกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลสุขภาพช่องปากในปี 2564 มีมูลค่าสูงถึง 1.2 ล้านล้านบาทและเป็นที่คาดการณ์ว่าในระหว่างปี 2565 -2573 อัตราการเติบโตจะเพิ่มสูงขึ้นถึง 6.4%[1]สอดคล้องกับผลการรายงานในกลุ่มผลิตภัณฑ์แปรงสีฟันไฟฟ้าที่พบว่ามีมูลค่าตลาดโลกสูงถึง 9.4 หมื่นล้านบาทและคาดว่าจะมีการเติบโตต่อเนื่องถึง 5.8%[2]

นายสลาดัน มุยจิซ (Sladan Mujdzic) ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ฟอริโอ้ (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า “แปรงสีฟันไฟฟ้าในตลาดปัจจุบัน แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก คือ แปรงสีฟันไฟฟ้าแบบบิดหมุนและแบบโซนิค โดยแปรงสีฟันไฟฟ้าแบบบิดหมุนจะใช้มอเตอร์ไฟฟ้าในการทำงาน ในขณะที่แปรงสีฟันไฟฟ้าแบบโซนิคจะใช้พลังคลื่นการสั่นความถี่สูง และเนื่องมาจากคุณสมบัติที่ได้รับการพิสูจน์และยอมรับในระดับสากลว่าแปรงสีฟันไฟฟ้าแบบโซนิคนั้นมีรอบการแปรงที่สูงกว่า ทั้งยังช่วยให้การทำความสะอาดช่องปากเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าแปรงสีฟันทั่วไป จึงเป็นอีกปัจจัยสำคัญในการหนุนให้เกิดโอกาสในการขยายตัวของตลาดแปรงสีฟันไฟฟ้าแบบโซนิคทั่วโลก รวมถึงในภูมิภาคเอเชียที่มีการคาดการณ์ว่าจะมีอุปสงค์หรือความต้องการในการซื้อแปรงสีฟันไฟฟ้าแบบโซนิคติดอันดับสามของตลาดโลกภายในปี 2569

ภารกิจสำคัญที่ FOREO ยึดมั่นเสมอมา คือการช่วยเสริมสร้างสุขภาวะอนามัยและความเป็นอยู่ที่ดีให้กับผู้คนทั่วโลก นอกจากผลิตภัณฑ์ในกลุ่มบิวตี้แกดเจ็ตที่เป็นที่จดจำแล้วผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลสุขภาพช่องปากอย่างครอบคลุมก็ได้รับความนิยมและกระแสการตอบรับที่ดีจากผู้ใช้งานทั่วโลกอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน โดยในแง่ของสถิติการทำรายได้ในหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์การดูแลช่องปากพบว่า FOREO ประเทศไทยจัดอยู่ในลำดับที่ 6 เมื่อเทียบกับช่องทางการจัดจำหน่ายของแบรนด์ทั่วโลก เรามองเห็นถึงสัญญาณบวกนี้และความต้องการของผลิตภัณฑ์แปรงสีฟันไฟฟ้าแบบโซนิคในประเทศไทย ที่พบว่า พฤติกรรมของผู้บริโภคชาวไทยกำลังมองหาตัวช่วย (solution) ที่มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้และบูรณาการมากขึ้น เพื่อการแก้ปัญหาและดูแลสุขภาพช่องปากอย่างครอบคลุมในระยะยาวเราเชื่อมั่นว่าการเปิดตัวแปรงสีฟันซิลิโคนไฟฟ้าอัจฉริยะ ISSA 3 ระบบโซนิคอย่างเป็นทางการในครั้งนี้ จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภคชาวไทยและด้วยการจับมือกับพันธมิตรสำคัญอย่างแบรนด์สีฟันชื่อดังจากอิตาลี MARVIS (มาร์วิส) ผู้ใช้งานจะยังได้รับประสบการณ์เหนือระดับผ่านยาสีฟันคุณภาพระดับพรีเมียม ที่มีความพิถีพิถันในการคัดสรรวัตถุดิบและกระบวนการผลิตในทุกรายละเอียดที่จะช่วยเติมเต็ม 2 นาทีของการแปรงฟันให้มีความสุขเย็นสดชื่นยาวนานและหอมไม่เหมือนใครอีกด้วย”

“MARVIS มุ่งมั่นที่จะเดินหน้าสร้างความสุขให้กับผู้คนทั่วโลกผ่านการนำเสนอประสบการณ์ที่แตกต่างในโลกที่ทุกอย่างกำลังหมุนไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วการแสวงหาประสบการณ์รวมถึงการเปิดรับต่อสิ่งใหม่ๆ ความร่วมมือกับ FOREO ในครั้งนี้จึงถือเป็นภาพสะท้อนของการบูรณาการระหว่างนวัตกรรมและรสสัมผัสอันเป็นเอกลักษณ์ที่จะช่วยให้กิจวัตรประจำวันของผู้คนเต็มไปด้วยความรื่นรมย์” นายอิสริยะ คูหาเปรมกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท เพรสทีจ ซีเลคชั่น จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่าย มาร์วิส ไทยแลนด์ กล่าวเสริม

แปรงสีฟันซิลิโคนไฟฟ้าอัจฉริยะ ISSA 3 มาพร้อมหัวแปรง Hybrid Wave ผสานขนแปรงซิลิโคนที่ใช้ในทางการแพทย์และพอลิเมอร์ชนิดพิเศษPBT[3]ขนแปรงมีความนุ่มพิเศษยืดหยุ่นทนทานและคืนรูปได้ดีกว่าขนแปรงไนลอนทั่วไปตัวเครื่องใช้เทคโนโลยีการสั่น T-Sonic Pulsations เอกสิทธ์เฉพาะของ FOREO ที่ทำให้เกิดรอบการสั่นความถี่ถึง 11,000 ครั้งช่วยให้การทำความสะอาดฟันและคราบพลัคเป็นไปอย่างเต็มประสิทธิภาพโดยไม่ทำลายสารเคลือบฟันและก่อให้เกิดอาการระคายเคืองบริเวณเหงือกการออกแบบพิเศษด้านหลังของหัวแปรงสามารถใช้นวดกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตและการทำงานของเหงือกเพื่อสุขภาพเหงือกที่แข็งแรงรวมถึงใช้ทำความสะอาดบริเวณกระพุ้งแก้มและลิ้นอีกแหล่งสะสมสำคัญของแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดกลิ่นปากรวมถึงเชื้อราและการติดเชื้อภายในช่องปากช่วยให้การดูแลสุขภาพช่องปากเป็นไปอย่างครอบคลุมแบบ 4-in-1

“แปรงสีฟันซิลิโคนไฟฟ้าอัจฉริยะ ISSA 3 ได้รับการพัฒนาทางคลินิกและมีคุณสมบัติที่ได้รับการพิสูจน์ว่าสุขภาพช่องปากสะอาดขึ้นกว่า 140% หลังจากการใช้งานและช่วยลดการสะสมของคราบพลัคได้มากกว่าแปรงสีฟันทั่วไปถึง 30% รวมถึงมีคุณสมบัติที่ได้รับการพิสูจน์ว่าช่วยลดภาวะการเกิดอาการเหงือกอักเสบ[4]นอกเหนือจากนวัตกรรมและเทคโนโลยีเอกสิทธ์ยังถือเป็นครั้งแรกของโลกกับแปรงสีฟันไฟฟ้าที่ผลิตจากซิลิโคนเกรดการแพทย์ไม่ก่อให้เกิดการสะสมแบคทีเรียและมีความสะอาดกว่าแปรงสีฟันที่ทำจากไนลอนทั่วไปถึง 10,000 เท่า[5]อีกความโดดเด่นของ ISSA 3 ก็คือการออกแบบที่คำนึงให้สอดรับกับวิธีการแปรงฟันที่ถูกสุขลักษณะและการสร้างประสบการณ์ที่จะต้องไม่ไปรบกวนกิจวัตรประจำวันของผู้ใช้งานทำให้ผู้ใช้งานไม่ต้องปรับเปลี่ยนท่าทางในการแปรงฟันที่ฝืนท่าท่างตามธรรมชาติ “ความสนุกและความสะดวก” ในการดูแลตัวเองยังคงเป็นแรงบันดาลใจสำคัญในการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ของเราคุณจะสัมผัสได้ถึงผลลัพธ์เต็มประสิทธิภาพและความแตกต่างหลังจากการใช้งานครั้งแรกที่ FOREO เราเชื่อว่าหากคุณรู้สึกดีในการดูแลตัวเองความสุขและสุขภาวะอนามัยที่ดีก็จะตามมาและนั่นก็คือภารกิจสำคัญที่เราจะเดินหน้าทำต่อไป” นายสลาดัน กล่าวปิดท้าย

ผู้ที่สนใจสามารถสั่งซื้อแปรงสีฟันซิลิโคนไฟฟ้าอัจฉริยะรุ่นใหม่ล่าสุด ISSA 3 หรือ ISSA mini 3 พร้อมรับของขวัญพิเศษ! ชุดยาสีฟัน MARVIS ทั้งหมด 10 ชิ้น (ขนาดชิ้นละ 10 มล.) มูลค่า 890 บาท ที่ FIRSTER Online / Central Online / The Mall Online / Lazada Laz Mall / Shopee Premium Mall / Pomelo Online และ King Power ได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 31 ตุลาคม2565 นี้เท่านั้น! รวมถึงอัปเดตเทรนด์บิวตี้เทคก่อนใครและติดตามข่าวสารล่าสุดจากFOREO เพิ่มเติมได้ที่ Facebook: FOREO Thailand และ Instagram: @FOREO_TH

[1]https://www.grandviewresearch.com/industry-analysis/oral-care-market

[2]https://www.grandviewresearch.com/industry-analysis/electric-toothbrush-market

[3] Polybutylene Terephthalate

[4]จากการศึกษาทางคลินิกและผลสำรวจของกลุ่มผู้ทดลองใช้ 20 คนเป็นเวลา 28 วัน

[5]จากการศึกษาทางคลินิกและผลสำรวจของกลุ่มผู้ทดลองใช้ 20 คนเป็นเวลา 28 วัน