คุยกับ “หมอต้น AF” ผันตัวจากหมอความงามฟรีแลนซ์ ปั้น APi Clinic ด้วยอุดมการณ์

รีวิวประสบการณ์ตรง

จากประสบการณ์ส่วนตัวที่ได้ทำตา 2 ชั้นที่ APi Clinic เนื่องจากเป็นคนชั้นตาไม่เท่ากัน เลยตัดสินใจทำ แต่ว่าพอทำออกมาแล้วก็ยังชั้นตาไม่เท่ากันอยู่ดี จึงปรึกษาหมอเบนซ์อีกครั้ง คุณหมอบอกว่าเมื่อมาดูรูปก่อนทำอีกครั้งก็พบว่าเรา “คิ้วไม่เท่ากัน” คิ้วข้างขวาตกกว่าข้างซ้ายเล็กน้อย จึงทำให้หนังตาข้างขวาหลบใน เลยเป็นสาเหตุที่ทำให้ตาไม่เท่ากัน พอเรามาย้อนดูรูปเก่าๆ ก็พบว่าตาคิ้วเราไม่เท่ากันจริงๆ ก็เพิ่งรู้ตัวเหมือนกัน

จริงๆ ไม่ได้จะโทษหมอเลย ก็เข้าใจในโครงสร้างหน้าของเราว่ามันไม่เท่ากัน แต่แค่แปลกใจว่าทำไมหมอไม่ได้ดูให้ละเอียดก่อนหรือ ว่าคนไข้มีองค์ประกอบหน้าอย่างไร คิ้ว กับตาเท่ากันหรือไม่ จะได้รู้ข้อจำกัดว่า ถ้ากรีดตาแล้วมันก็ยังไม่เท่ากันอยู่ดีนะ หรือว่าควรแก้ด้วยวิธีอื่น แต่ทำไปแล้วถึงมารู้

หมอจึงแนะนำให้ฉีดโบท็อกซ์ยกคิ้ว เพราะถ้าแก้ใหม่ก็คงเหมือนเดิม แต่พอหลังจาฉีดไปได้ 3 สัปดาห์ ก็ยังไม่ยกขึ้นเท่าไหร่ คือมันทำได้ไม่มากหรอก ก็ไม่รู้หมอจะแนะนำแต่แรกทำไม

ตอนแรกหมอเข้าใจคิดว่าเราหาว่าเราไปทำตาแล้วทำให้คิ้วตก เราก็อธิบายว่ามันเป็นตั้งนานแล้ว แต่ก็สงสัยว่าทำไมหมอไม่ได้ดูก่อน ซึ่งเราก็ประทับใจในคำตอบว่า “เห็นอยากมาทำตา 2 ชั้น เลยไม่ได้ดูคิ้วให้ ต้องขอโทษด้วยครับ” ประทับใจมากๆ จริงๆ เลยแปลกใจว่าเอ๊ะ ทำตา 2 ชั้นมันไม่สัมพันธ์กับคิ้วหรอ…

ตลาดศัลยกรรมความงามในไทยเริ่มมีการเปิดกว้างมากขึ้น หลายคนไม่ได้ปิดกั้นตัวเองในการทำศัลยกรรม ส่งผลให้ตลาดคลินิกเสริมความงามเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง หมอศัลยกรรมไทยก็เป็นที่ขึ้นชื่อเช่นกัน Positioning มีโอกาสได้พูดคุยกับ “หมอต้น AF” หรืออภิวัฒน์ พิริยไชโย ผู้ก่อตั้ง APi Clinic ด้วยแนวคิดความปลอดภัยของคนไข้ต้องมาก่อน หลังจากเจอ Pain Point ตอนเป็นหมอรับจ็อบฟรีแลนซ์ ต้องทำอะไรตรงข้ามกับอุดมการณ์ตัวเอง

หมอฟรีแลนซ์ ประกวด AF สู่การเปิดคลินิกเอง

หมอต้นมีทั้งบทบาทเป็นหมอทางด้านความงาม ศัลยกรรม และเป็นผู้เคยประกวดรายการ Academy Fantasia มาแล้วในซีซั่นที่ 10 ชื่อของหมอต้นจึงถูกพ่วงด้วยนามสกุล AF การเป็นทั้งหมอ และนักร้อง ล้วนเป็นการใช้ทั้งวิทยาศาสตร์ และศิลปะเข้าด้วยกันอย่างลงตัว

แต่ก่อนที่หมอต้นจะมาเปิดคลินิก APi Clinic เป็นของตัวเอง หมอต้นเป็นหมอความงามทั่วไปที่รับจ็อบฟรีแลนซ์ตามคลินิกเอกชน และโรงพยาบาลต่างๆ แต่ก็พบว่าในแต่ละที่ไม่ค่อยมีความจริงใจกับลูกค้าเท่าไหร่นัก และไม่ได้คำนึงถึงความปลอดภัยของลูกค้า ไม่ว่าจะฉีดฟิลเลอร์คนละยี่ห้อกับที่ตกลงกันไว้ หรือฉีดโบท็อกซ์ในปริมาณนี้ต่ำกว่าที่โฆษณาไว้

ด้วยความที่หมอต้นเป็นคนตรงไปตรงมา และคำนึงถึงความปลอดภัยของคนไข้เป็นหลัก ประกอบกับตอนนี้เริ่มมีชื่อเสียง เพราะได้เข้าประกวด AF แล้ว ถ้าเกิดอะไรผิดพลาดขึ้นมาจะเสียหายหนักกว่าเดิม เมื่อไม่ยอมทำตามเจ้าของคลินิก ก็เกิดปัญหาตามมาตลอด จึงตัดสินใจว่าต้องเปิดคลินิกเอง เพื่อรักษาอุดมการณ์ของตัวเอง

ส่วนอีกบทบาทกับการที่เป็นนักร้องในบ้าน AF หมอต้นบอกว่ามี “หมอโอ๊ค สมิทธิ์” เป็นไอดอล เป็นคนที่ใช้ศาสตร์ และศิลป์พร้อมกันได้

“เป็นคนชอบร้องเพลงตั้งแต่เด็ก แต่ที่บ้านเป็นครอบครัวคนจีน จะไม่ค่อยสนับสนุนด้านนี้ ต้องแอบไปเรียนร้องเพลงเอง เป็นความฝันแต่เด็กๆ ขอให้ได้เข้าบ้าน AF ตอนที่ไปออดิชั่น AF อายุ 25 ปี เรียนจบแพทย์พอดี เป็นจังหวะชีวิตที่ลงตัว พอเป็น AF ได้ฝึกหลายอย่าง ฝึกด้านศิลปะ พอเป็นหมอได้ใช้ด้านวิทยาศาสตร์ ได้ใช้จินตนาการที่เราชอบ ด้านวิทยาศาสตร์ก็ปลอดภัยด้วย สวยด้วย เป็นโชคชะตาให้ได้สิ่งนี้ ตอนเด็กๆ ได้เห็นพี่หมอโอ๊ค ก็ได้จุดประกายในการเป็นทั้งหมอ และนักร้อง”

เน้นความปลอดภัยมาก่อนความสวย

หลังจากที่เป็นหมอด้านผิวพรรณความงามได้ 2 ปี ก็ได้ขยับเป็นหมอศัลยกรรม ก็ยังคงรับงานตามคลินิก และโรงพยาบาลเหมือนเดิม ก็เกิดปัญหาในรูปแบบเดิมที่มีอุดมการณ์ไม่ตรงกัน หมอต้นจึงเริ่มคิดว่าไม่สามารถทำที่อื่นได้ ถ้าไม่ได้เปิดเป็นของตัวเอง มิเช่นนั้นก็จะเกิดปัญหาเดิมๆ อย่างต่อเนื่อง

หมอต้นจึงได้มาเปิด APi Clinic เป็นของตัวเอง ได้พาร์ตเนอร์ “หมอเบนซ์” จักษุแพทย์ และเป็นอาจารย์หมอมาร่วมเปิดคลินิกด้วยกัน โดยมีจุดยืนที่ว่าอยากให้คนไข้ปลอดภัย More Safety More Beauty มองถึงความปลอดภัยก่อน เมื่อปลอดภัยแล้วจะสวยเอง ต้องดูแลคนไข้ให้ดีที่สุดบนมาตรฐานความเป็นจริง

APi Clinic เปิดที่แรกที่ย่านแจ้งวัฒนะ ปากเกร็ด มีสาขาเดียว ชื่อ APi มาจากชื่อของหมอต้น “อภิวัฒน์” แต่ไม่อยากใช้ชื่ออภิวัฒน์เป็นชื่อคลินิกเพราะดูเชยไป เลยย่อเป็น APi

“จุดยืนของ APi Clinic เป็นการทำศัลยกรรมกับหมอ เน้นความปลอดภัยเป็นหลัก พอทำมาจนถึงตอนนี้ก็คิดว่าสิ่งที่คิดมาตลอดเป็นเรื่องถูกต้อง ถ้าคนไข้มองหาความปลอดภัยมาก่อนความสวย จะมาหาที่คลินิกนี้ แต่ถ้าคนที่มองเรื่องราคาเป็นหลักจะไม่ได้มาที่นี่ หลังจากที่คนไข้ทำออกไปก็เกิดการบอกต่อแบบปากต่อปาก เน้นความเรียล ความปลอดภัย ไม่ได้ดูนางแบบเป็นหลัก” 

เด่นเคสแก้จมูก รับแค่วันละ 2 เคส

ที่ APi Clinic มีบริการหลักก็คือ ตกแต่งศัลยกรรมจมูก, ทำตา 2 ชั้นโดยจักษุแพทย์ และบริการปรับแต่งรูปหน้าต่างๆ ฉีดโบท็อกซ์ ฉีดฟิลเลอร์ ยังไม่มีศัลยกรรมใหญ่ เพราะยังไม่มีห้องผ่าตัดใหญ่

หมอต้นบอกว่าที่นี่ลูกค้ามาทำจมูกสัก 70% และในการทำจมูกเป็นเคสแก้จมูกที่มีปัญหาจากที่อื่นถึง 80% ที่นี่เลยขึ้นชื่อเรื่องการแก้จมูก บางคนไปทำจมูกบางที่ทีมีราคาถูก หรือไม่ได้ปลอดภัยมากนัก เจอปัญหาที่ตามมา จมูกเบี้ยว ซิลิโคนทะลุ

ในแต่ละวันจะรับคนไข้ได้แค่ 2 เคสเท่านั้น เพราะต้องพิถีพิถันในแต่ละขั้นตอน และหมอต้นเป็นคนทำเองทุกเคส ไม่ได้มีหมอคนอื่นทำ อย่างคนไข้ที่มาทำจมูกก็จะทำปรับรูปหน้าเพิ่มเติม ต่อยอดจากลูกค้าเดิมได้

“ตอนนี้ตลาดศัลยกรรมเปิดกว้างมากขึ้น หลายคนยอมรับในการทำศัลยกรรมมากขึ้น ด้วยเทคโนโลยี ข่าวสารเร็ว ความปลอดภัยมากขึ้น ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด มีหมอเก่งๆ และมีคลินิกเยอะขึ้น แต่พอช่วงปิดประเทศจาก COVID-19 ก็ทำให้คนไทยทำในประเทศมากขึ้น แต่ก็ยังมีคนมองว่าต้องไปทำที่เกาหลีก็มี แต่จริงๆ หมอไทยเก่งๆ ก็เยอะ”

ปัจจุบันคนไทยมีการทำศัลยกรรมจมูกมากทุ่สด รองลงมาคือหน้าอก ส่วนดาราที่นิยมนำมาเป็นต้นแบบก็มีทั้งใบเฟิร์น พิมชนก, ปอย ตรีชฎา และเก้า สุภัสสรา

เตรียมลงทุนโรงพยาบาลแห่งใหม่

ปัจจุบันที่ APi Clinic มีคุณหมอแค่ 2 คน และหมอต้นรับเคสเองทั้งหมด ในอนาคตมีแผนที่จะขยายการลงทุนโรงพยาบาลแห่งใหม่ เป็นพื้นที่สแตนด์อะโลน ขนาด 800 ตารางเมตร ยังอยู่ในโซนแจ้งวัฒนะ ปากเกร็ด ที่แห่งใหม่นี้จะมีพื้นที่ใหญ่กว่าเดิม จะสามารถทำห้องผ่าตัดใหญ่ได้ เพื่อรองรับการศัลยกรรมหน้าอก

“แผนการลงทุนในตอนนี้ เตรียมขยายสถานที่ต้อนรับคนไข้ได้ดีขึ้น มีอุปกรณ์อัปเดตใหม่ตลอด มีไหมใหม่ๆ ตลอดเวลา มีของดีที่สุด ไม่เน้นลดต้นทุน พร้อมกับขยายทีมแพทย์ที่เชื่อมั่นคอนเซ็ปต์เดียวกัน ทีมแพทย์ต้องมีอุดมการณ์เดียวกัน”

ถ้าถามว่าตลอดเวลา 5 ปีทีเปิดคลินิกมา ช่วงเวลาไหนที่ยากที่สุด หมอต้นบอกว่า คือช่วงที่ยึดอุดมการณ์ของตัวเอง บางทีคนไข้มาแก้จมูก แต่ดูสื่อมาเยอะ อยากได้โด่งๆ แต่ว่าแต่ละคนจะมีข้อจำกัดต่างกัน ก็ต้องพยายามอธิบาย ทำให้คนไข้เข้าใจได้มากที่สุด

ส่วนเป้าหมายในอนาคต อยากให้ APi Clinic เป็นที่นึกถึงในแง่ของงานจมูกที่ปลอดภัย อยากให้คลินิกเป็นที่รู้จักมากขึ้น ไม่ใช่แค่คลินิกดูแลความสวยงามอย่างเดียว แต่ดูแลทุกมิติ รวมถึงสุขภาพคนไข้ด้วย