สมาคมผู้ค้าปลีกไทย เดินหน้ายกระดับภาคค้าปลีกไทยอย่างต่อเนื่อง พร้อมเสริมแกร่ง SMEs ให้สามารถแข่งขันได้ในเวทีระดับโลก ด้วยการผลักดันกลยุทธ์ TRA NEXT (ทีอาร์เอ เน็กซ์) ให้เกิดขึ้นจริง เร่งยกระดับค้าปลีกไทยสู่สากล โดยการขยายฐานสมาชิกให้กว้างไกล เพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายพร้อมทั้งเสริมสร้างโอกาสและรายได้ทั้งในและต่างประเทศให้กับ SMEs
นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย กล่าวว่า “สมาคมผู้ค้าปลีกไทยตั้งเป้าผลักดันเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยมีหัวใจสำคัญคือการช่วยเหลือและสนับสนุน SMEs ไทยให้ฟื้นตัว และเติบโตอย่างแข็งแกร่ง สมาคมฯ ได้เดินหน้าแผนงานตามกลยุทธ์ TRA NEXT ให้เกิดขึ้นและเห็นผลจริงโดยการประสานความร่วมมือกับทุกภาคส่วนทั้งนี้ หนึ่งในกลยุทธ์สำคัญ ก็คือ การยกระดับสมาคมฯ และเครือข่ายภาคค้าปลีกไทยสู่ระดับสากล (Expand TRA to the Global Stage) เพื่อเป็นการขยายฐานสมาชิกเพิ่มช่องทางการขายและสร้างรายได้ให้ SMEs ไทย ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ จึงนับเป็นก้าวสำคัญของสมาคมฯ ที่ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจร่วมกับ สมาคมผู้ค้าปลีกเวียดนาม (Association of Vietnam Retailers – AVR) เพื่อยกระดับความร่วมมือระหว่างประเทศในด้านการแลกเปลี่ยนทางธุรกิจและสินค้าระหว่างประเทศไทย และประเทศเวียดนามให้เป็นไปตามเป้าหมายที่มุ่งหวังไว้ของทั้งสองสมาคมในความร่วมมือที่จะสร้างความแข็งแกร่งทางการค้า และเสริมศักยภาพให้แก่ภาคีเครือข่าย โดยเฉพาะ SMEs ให้มีช่องทางการขายและเพิ่มรายได้มากขึ้น”
สอดรับกับการลงนามข้อตกลง แผนปฏิบัติการและบันทึกความเข้าใจ (Memorandum of Understanding – MOU) 5 ฉบับระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลเวียดนามในช่วงการประชุม APEC 2022 ที่ผ่านมาเมื่อวันที่17 พฤศจิกายน 2565 ได้มีการจัดพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่าง สมาคมผู้ค้าปลีกไทย (Thai Retailers Association นำโดย นายญนน์ โภคทรัพย์ และ สมาคมผู้ค้าปลีกในประเทศเวียดนาม (Association of Vietnam Retailers) นำโดยนางวู ถี เห่า ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกเวียดนาม เพื่อร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจในความร่วมมือทางธุรกิจในการสนับสนุนและอำนวยความสะดวกด้านการนำเข้าและส่งออกสินค้าระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามโดยภายในงานได้รับเกียรติจาก นายโด๋ ทัง ฮ่ายรัฐมนตรีการค้าและอุตสาหกรรมเวียดนามพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากเวียดนาม มาร่วมเป็นสักขีพยานในการเชื่อมสัมพันธ์ทางการค้าและการสนับสนุนSMEs ซึ่งถือเป็นการช่วยเหลือภาคีเครือข่ายและ SMEs ของทั้งสองประเทศ
สำหรับบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือระหว่างสมาคมผู้ค้าปลีกไทย และสมาคมผู้ค้าปลีกเวียดนามฉบับนี้มีวัตถุประสงค์ได้แก่
- เพื่อส่งเสริมความร่วมมือและเพิ่มพูนความสัมพันธ์ทางการค้า และการลงทุนระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามให้แน่นแฟ้น เพื่อประโยชน์ในการสร้างความเข้มแข็งของการเติบโตทางเศรษฐกิจ และเพิ่มมูลค่าทางการค้าของสองประเทศ ไทยและเวียดนามตั้งเป้าหมายร่วมกันที่จะทำให้มูลค่าการค้าของสองประเทศถึง5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปี2568
- เพื่อสนับสนุนวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมหรือ SMEsให้เข้มแข็งและเติบโต โดยSMEs มีบทบาทสำคัญต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจรวมทั้งเป็นเครื่องยนต์หลักในการพัฒนาสินค้าและนวัตกรรมในระหว่างภูมิภาค ทั้งนี้ ภาคค้าปลีกและบริการของไทย และภาคค้าปลีกของเวียดนามมีจำนวน SMEs มากถึง3 ล้านราย
- เพื่อส่งเสริมโอกาสทางการค้าและการลงทุนโดยการแลกเปลี่ยนความรู้ ความเชี่ยวชาญและความเป็นเลิศทางด้านการพัฒนาธุรกิจและการค้า รวมทั้งเพื่ออํานวยความสะดวกทางการค้าและการจับคู่ธุรกิจระหว่างSMEs ไทยและเวียดนาม รวมทั้งภาคีเครือข่ายของทั้งสองสมาคม
- เพื่อสนับสนุนให้สมาชิกในภาคีเครือข่ายร่วมปณิธานในการทำธุรกิจที่มีการเติบโตแบบยั่งยืน และมุ่งสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) โดยการมีส่วนร่วมในโครงการ ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดจำนวนขยะ ลดการใช้พลังงาน เป็นต้น
สมาคมผู้ค้าปลีกไทยเร่งขับเคลื่อนภารกิจตามกลยุทธ์ TRA NEXT ในการยกระดับค้าปลีกไทยสู่สากล และส่งเสริมศักยภาพSMEs ไทย ด้วยการเดินหน้ายกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขัน เพิ่มมูลค่าทางนวัตกรรม และสนับสนุนช่องทางการจำหน่าย เพื่อให้ SMEs ไทยเข้มแข็งและเติบโตซึ่งจะช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจไทยสามารถฟื้นฟูและเดินหน้าต่อไปได้อย่างยั่งยืน