23% ของบริษัทยักษ์ใหญ่ญี่ปุ่นเล็ง “ขึ้นราคาสินค้า” ในปีหน้า เนื่องจากต้นทุนที่สูงขึ้น

ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา ญี่ปุ่น ยังมีอัตราเงินเฟ้อถึง 3.6% ทำสถิติใหม่ในรอบ 40 ปี เนื่องปัญหาต้นทุนราคาพลังงาน นอกจากนี้ ยังเจอกับปัญหา ค่าเงินเยนอ่อน หลังจากการที่นักลงทุนให้ความสนใจเกี่ยวกับส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยระหว่างญี่ปุ่นและสหรัฐฯ

จากผลสำรวจบริษัทยักษ์ใหญ่ 80 แห่งในญี่ปุ่น อาทิ Toyota Motor, Nintendo และ Shiseido โดย Kyodo News ถึงการขึ้นราคาสินค้าในปีหน้า พบว่า มีบริษัทถึง 23% หรือเกือบ 1 ใน 4 ของบริษัทยักษ์ใหญ่ในญี่ปุ่นกำลังพิจารณาที่จะขึ้นราคาสินค้าของตนในปีหน้าหรือหลังจากนั้น เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้นและเงินเยนที่อ่อนค่าลง ขณะที่ 49% ระบุว่าพวกเขายังไม่แน่ใจว่าจะขึ้นราคาหรือไม่ และ 15% ไม่ได้เปิดเผยการตัดสินใจของพวกเขาว่าการปรับขึ้นราคาอยู่ในระหว่างดำเนินการหรือไม่

จากในการสำรวจมีเพียง บริษัทเดียว จาก 80 บริษัท ที่ยืนยันว่า จะไม่ขึ้นราคา ซึ่งก็คือ Torikizoku Holdings บริษัทผู้ดำเนินการเครือข่ายผับสไตล์ญี่ปุ่นหรือ อิซากายะ

อย่างไรก็ตาม การขึ้นราคาในปีหน้าอาจไม่ใช่การปรับราคาครั้งแรกหลังจากเผชิญปัญหาต้นทุนและค่าเงินเยนอ่อน เพราะมีถึง 29% ที่ยอมรับว่าปีนี้ขึ้นราคาสินค้าไปแล้ว 1 ครั้ง และ 14% ขึ้นไปแล้ว 2 ครั้ง ส่วนบริษัทที่ขึ้นราคา 3-4 ครั้ง คิดเป็น 3% ส่วนบริษัทที่ขึ้นราคาตั้งแต่ 5 ครั้งขึ้นไปคิดเป็น 4% ส่วนบริษัทที่ระบุว่า ยังไม่เคยขึ้นราคาสินค้าเลย ในปีนี้มีสัดส่วน 13%

ในส่วนของการ ขึ้นค่าแรง ให้กับพนักงานเพื่อต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อพบว่า มีเพียง 6% เท่านั้น ที่ระบุว่า พวกเขาจะขึ้นค่าจ้างพนักงานในปีหน้า แต่มีบริษัท 18% ที่ระบุว่า กำลังพิจารณาที่จะขึ้นค่าแรง นอกจากนี้ การสำรวจยังพบว่า 30% ยังไม่แน่ใจเกี่ยวกับการขึ้นเงินเดือนในปีหน้า และ 33% ขอไม่เปิดเผยการตัดสินใจของพวกเขา