เกือบ 20 เรื่อง คืองานที่ “ศุภจี สุธรรมพันธุ์” มอบหมายให้ทีมงานของบริษัท ไทยคม จำกัด(มหาชน) ไปศึกษาในวันแรกที่ “ศุภจี” เข้าทำงานในตำแหน่งซีอีโอที่นี่เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2554 และจนถึงวันที่ 11 สิงหาคมมอบหมายไปแล้ว 40 เรื่อง เธอบอกว่ารูปแบบการทำงานของเธอไม่ได้เปลี่ยนไปจากที่เคยทำงานที่ไอบีเอ็ม
ไทยคมจัดงานแถลงผลประกอบการของบริษัท โดยมี “ศุภจี” ในฐานะซีอีโอคนใหม่เป็นผู้ให้รายละเอียด นอกจากตัวเลข เป้าหมายผลประกอบการนับจากนี้ที่ “ศุภจี” ต้องตอบคำถาม ประเด็นร้อนแรงอย่างเรื่องการภาพลักษณ์ความเกี่ยวพันกับการเมืองของบริษัทยังเป็นคำถามที่ “ศุภจี” ต้องชี้แจงอย่างหนัก
ถือว่าสอบผ่านทั้งที่เพิ่งทำงานได้แค่ 11 วัน ที่สำคัญไปกว่านั้นเธอรู้จักไทยคมเป็นอย่างดี ราวกับอยู่มาเป็นปี
“ศุภจี” ได้รับการทาบทามมาหลายเดือน และเป็นการตัดสินใจที่เธอบอกว่ายาก เพราะเธออยู่ที่ไอบีเอ็มมานานถึง 22 ปี และความท้าทายที่ไอบีเอ็มก็ยังมีมาก แต่เธอเป็นคนแบบที่ “สมประสงค์ บุญยะชัน” ประธานกรรมการบริหารกลุ่มชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บอกว่าเป็นคนที่ชอบแสวงหาความท้าทายใหม่ๆ แบบ Pure Professional Executive
ที่ไทยคมจึงท้าทายกว่า เพราะเธอตั้งเป้าหมายว่าภายใน 3 ปี ที่จะทำให้ไทยคมเป็นบริษัทชั้นนำของโลกที่คนไทยภูมิใจ นอกเหนือจากในระยะสั้นไตรมาสที่ 4 นี้จะเห็นตัวเลขกำไรหลังจากขาดทุนมาอย่างต่อเนื่อง
“ศุภจี” รู้ว่าทำงานที่ไทยคมไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เป็นเพราะคุณสมบัติที่สำคัญคือการสร้างความท้าทายให้ตัวเองได้ตลอดเวลา หาเรื่องใหม่ทำได้เรื่อยๆ เธอจึงพร้อมสำหรับไทยคม การเป็นคนนอกไม่ใช่ประเด็นที่กังวล เพราะเธอมั่นใจว่าทักษะของเธอจากไอบีเอ็มในเรื่องการทำให้ทุกคนในทีมทำงานร่วมกันเป็นหนึ่งเดียวกันในการเดินไปข้างหน้าคือสิ่งที่ “ศุภจี” ถนัด
แต่ดูเหมือนว่าไทยคมยังคงมีภาพโยงกับการเมือง และการเป็นธุรกิจที่มีสัญญากับรัฐทำให้ถูกจับตามองว่าไทยคมจะได้ประโยชน์จากการเมืองในช่วงเพื่อไทยเป็นรัฐบาล นี่คือเหตุผลส่วนหนึ่งที่ทำให้ “ศุภจี” ต้องลงมาเป็นประธานคณะทำงานในหลายๆ ชุดของไทยคม รวมทั้งเรื่องซีเอสอาร์และการสร้างแบรนด์ให้กับองค์กรที่ “ศุภจี” บอกว่าจะเห็นภาพใหม่ๆ ของไทยคมในอนาคต ที่ไม่ใช่แค่บริษัทด้านวิทยาศาสตร์ แต่มีมุมมมองทางสังคมด้วย
ถามว่าประเด็นการเมืองเป็นแรงกดดันหรือไม่ “ศุภจี” บอกว่าการทำงานทุกที่มีแรงกดดัน กับเรื่องการเมืองมีสิ่งยืนยันว่าไทยคมไม่ใช่ของใคร แต่คือบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ฯ การทำงานที่นี่จึงยึดหลักการเป็นตัวของตัวเอง เป็นมืออาชีพ ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง
People
ศุภจี สุธรรมพันธุ์ จบปริญญาตรีสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปริญญาโทบริหารธุรกิจ สาขาการเงินและการบัญชีต่างประเทศ มหาวิทยาลัยนอร์ธรอป มลรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา
ทำงานที่ไอบีเอ็มตั้งแต่ปี 2532-2554 เริ่มจากเจ้าหน้าที่การเงิน ฝ่ายบริการด้านการเงิน เป็นผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สำนักประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สำนักงานใหญ่ สหรัฐอเมริกา และตำแหน่งสุดท้ายคือผู้จัดการทั่วไปและรองประธานโกลบอลเทคโนโลยีเซอร์วิส ไอบีเอ็มภูมิภาคอาเซียน
โจทย์ข้อใหญ่
- การหาลูกค้าสำหรับดาวเทียมไทยคม 6 ที่ลงทุน 140 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และเตรียมยิงขึ้นสู่อวกาศในเดือนมิถุนายน 2554
- การหาลูกค้าให้ดาวเทียมไอพีสตาร์ที่ปัจจุบันมีผู้ใช้บริการเพียง 26% ของช่องสัญญาณดาวเทียมที่มีให้บริการ
- การสร้างความต้องการใช้บริการดาวเทียมมากขึ้นผ่านบริการต่าง ๆ ในเครือไทยคม เช่น ทีวีดาวเทียม หรือการกระตุ้นเครือข่ายทีวีอื่นๆ ในการทำรายการโทรทัศน์คุณภาพเอชดี ที่ต้องการใช้ช่องสัญญาณดาวเทียมมากกว่าปกติถึง 3 เท่า
- การเจรจากับภาครัฐในเรื่องข้อขัดแย้ง ที่จะเกี่ยวโยงกับการเมืองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
