ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เงินเฟ้อ และสถานการณ์เชิงลบที่เกิดขึ้นทั่วโลก ได้ส่งผลให้ภาพรวมของเศรษฐกิจในหลากหลายประเทศรวมถึงประเทศไทยประสบปัญหาในทิศทางเดียวกัน โดยพบว่า คนทำมาหากินอาจหมุนเงินไม่ทันเนื่องด้วยราคาสินค้าที่แพงขึ้น จนมีความจำเป็นต้องพึ่งพาแหล่งเงินกู้ แต่ในขณะเดียวกันสถาบันการเงินก็มีหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อที่เข้มงวดเพื่อลดการเกิดหนี้เสียในระบบ ทำให้คนไทยกว่า 60% ที่ประกอบอาชีพอิสระ พ่อค้าแม่ค้า เจ้าของธุรกิจ และทำงานฟรีแลนซ์ ซึ่งส่วนใหญ่ไม่มีหลักฐานแสดงรายได้ที่ชัดเจน ไม่มีหลักฐานการรับเงินเดือน ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญของการพิจารณาสินเชื่อ ทำให้คนกลุ่มนี้มีโอกาสที่จะไปกู้เงินนอกระบบที่อาจส่งผลกระทบได้ในอนาคต
Big Data และ AI จุดพลิกเกมตลาดสินเชื่อของ LINE BK
การพิจารณาสินเชื่อสำหรับกลุ่มอาชีพอิสระ พ่อค้าแม่ค้า หรือคนไม่มีรายได้ประจำ อาจมีเงื่อนไขการพิจารณาที่ซับซ้อนกว่าผู้ที่มีรายได้ประจำ ทำให้คนที่มีประวัติทางการเงินไม่เพียงพอ หรือมีรายได้ต่ำกว่าเกณฑ์ที่สถาบันการเงินทั่วไปกำหนดมักถูกปฏิเสธการให้สินเชื่อจากผู้ให้บริการในระบบ การก้าวเข้ามาของ Social Banking รายแรกอย่าง LINE BK จึงเป็นอีกหนึ่งทางออกในการเข้าถึงสินเชื่อของคนกลุ่มนี้ ธนา โพธิกำจร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กสิกร ไลน์ จำกัด เปิดเผยว่า “LINE BK ก้าวเข้ามาสู่ตลาดการเงินดิจิทัลด้วยแนวคิด “เรื่องเงินง่ายใน LINE คุณ” โดยมีเป้าหมายสำคัญ คือ ทำให้คนไทยเข้าถึงเรื่องการเงินได้ง่ายขึ้น บนความร่วมมือของสองบริษัทใหญ่อย่าง ธนาคารกสิกรไทย ที่มีฐานลูกค้ากว่า 20 ล้านราย และ LINE แอปแชทที่ได้รับความนิยมมากที่สุดด้วยฐานผู้ใช้กว่า 53 ล้านราย ซึ่งถือเป็นข้อได้เปรียบเด่นชัดสำหรับการมีข้อมูลแบ็คอัพจากทั้งสองบริษัทใหญ่ เพื่อนำไปสู่การพัฒนาบริการที่ตรงใจลูกค้า และแก้ Pain Point เรื่องข้อมูลสำหรับพิจารณาสินเชื่อให้กับกลุ่มคนที่ทำอาชีพอิสระ ด้วยการนำ Big Data และระบบ AI เข้ามาสร้างบริการทางการเงินที่แตกต่าง”
“เข้าใจลูกค้าอย่างลึกซึ้ง” ด้วยข้อมูลทางเลือก
โดยทั่วไปแล้วธนาคารจะใช้ข้อมูลพื้นฐาน อาทิ ข้อมูลรายได้ที่ยืนยันด้วยสลิปเงินเดือน การตรวจสอบประวัติทางการเงิน และประวัติเครดิต เพื่อใช้ในการประเมินความเสี่ยงและพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ แต่สำหรับ Social Banking อย่าง LINE BK เลือกใช้ข้อมูลทางเลือกจากโซเชียลมีเดียอย่าง LINE เข้ามาเป็นหนึ่งในเกณฑ์ช่วยวิเคราะห์ความเสี่ยงเพิ่มเติม
โดยมีโมเดล LINE Score ที่ทำหน้าที่รวบรวมรูปแบบการใช้งาน LINE และ LINE Ecosystem ของลูกค้า และประเมินออกมาเป็นระดับความเสี่ยง โดยข้อมูลที่นำมาใช้ อาทิ ช่วงเวลาการใช้งาน ประเภทของข่าวสารที่สนใจ หรือประเภทของการใช้บริการ เป็นต้น ซึ่งทำให้ LINE BK สามารถเข้าใจลูกค้าในมิติที่ลึกซึ้งกว่าผู้ให้บริการเจ้าอื่น ส่วนนี้จะเป็นประโยชน์ในการประกอบการพิจารณา ทำให้สามารถปล่อยสินเชื่อได้ตรงกลุ่มเป้าหมาย เปิดโอกาสให้เข้าถึงลูกค้าที่มีความต้องการสินเชื่อและมีคุณภาพ ลดโอกาสการเกิดหนี้เสียในอนาคต นอกจากนั้นยังสามารถนำข้อมูลไปใช้ในการปรับปรุงบริการอื่น ๆ ของ LINE BK เพื่อให้ตรงใจลูกค้าได้เพิ่มขึ้นอีกด้วย
ด้านการรักษาความปลอดภัยให้กับลูกค้า LINE BK มีขั้นตอนการรักษาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของข้อมูลผู้ใช้อย่างเป็นระบบ โดยมีการป้องกันและรักษาความปลอดภัยแบบหลายชั้น รวมถึงการเข้ารหัสความปลอดภัยของโครงสร้างระบบเครือข่ายและบริการ (Network and Application Encryption) และการปกป้องข้อมูลด้วยการเข้ารหัสฐานข้อมูลในรูปแบบเฉพาะ (Database Encryption) เพื่อให้ผู้ใช้บริการ LINE BK มั่นใจได้ว่าจะได้รับการดูแลด้วยมาตรการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุด
นอกจากข้อมูลฝั่ง LINE การพิจารณาผลสินเชื่อของ LINE BK ยังอาศัยข้อมูลพื้นฐานด้านการเงินจากฝั่งกสิกรไทย โดยลูกค้าที่มาสมัครขอสินเชื่อและเป็นลูกค้าที่มีบัญชีกับทางกสิกรไทยอยู่แล้ว ทางบริษัทฯ จะสามารถดึงข้อมูลรายได้ และข้อมูลรายการเดินบัญชีมาประกอบการพิจารณาสินเชื่อได้อย่างรวดเร็ว ทำให้กลุ่มลูกค้าทราบผลพิจารณาอนุมัติที่รวดเร็วภายในไม่กี่นาที และไม่จำเป็นต้องส่งเอกสารเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตามโมเดลวิเคราะห์ความเสี่ยงที่ทาง LINE BK ใช้ จะมีการปรับเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลาตามพฤติกรรมผู้ใช้งานที่เปลี่ยนไป โดยความอัจฉริยะของโมเดลจะมีความแม่นยำมากขึ้น เมื่อได้เรียนรู้จากการได้ปล่อยสินเชื่อจริงให้กับลูกค้า นอกจากนั้น LINE BK ยังมีการใช้ข้อมูลที่ได้จากการจับมือกับพันธมิตรหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ แพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี่ หรือล่าสุดที่จับมือทางศรีสวัสดิ์ เพื่อศึกษาพฤติกรรมของลูกค้าเมื่อใช้งานกับผู้ให้บริการอื่น ๆ อีกทั้งในอนาคต LINE BK ยังมีแผนที่จะพาร์ทเนอร์กับกลุ่มบริษัทเทคโนโลยี เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลพฤติกรรมลูกค้าในมิติอื่น ๆ เพิ่มเติม
ก้าวต่อไปของ LINE BK สู่การให้บริการทางการเงินในโลกดิจิทัล
สำหรับเป้าหมายในอนาคต LINE BK มุ่งโฟกัสในด้านการให้บริการทางเงินที่นำเทคโนโลยี AI หรือปัญญาประดิษฐ์เข้ามาใช้เพื่อพัฒนาบริการเดิมให้มีประสิทธิภาพ และสร้างบริการที่ตอบโจทย์การใช้งานที่ง่ายและสะดวกมากขึ้น อีกทั้งเตรียมอัปเดตฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่จะเข้ามาช่วยตอบโจทย์การใช้งานให้กับผู้บริโภคคนไทย เพื่อตอบรับเทรนด์ของโลกการเงินแห่งอนาคตที่บริการธุรกรรมทางการเงินจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผู้คนอย่างใกล้ชิด
ธนา กล่าวว่า “บริการสินเชื่อ LINE BK มีเป้าหมายในการพัฒนาตัวโมเดล LINE Score ให้สามารถประเมินพฤติกรรมความเสี่ยงของลูกค้าได้อย่างแม่นยำ ทำให้คนที่ต้องการสินเชื่อและเป็นกลุ่มคนที่มีคุณภาพสามารถเข้าถึงสินเชื่อของ LINE BK ได้มากขึ้น ซึ่งถือเป็นการเดินไปข้างหน้าแบบพร้อมกันทั้งลูกค้าและผู้ให้บริการแบบไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง เรียกว่า win – win ทั้งสองฝ่าย โดยในส่วนนี้จะเป็นส่วนที่ช่วยให้ระบบเศรษฐกิจของไทยเดินหน้าและลดปัญหาหนี้นอกระบบได้ในระยะยาว”